ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี
http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07092010359&srcday=2016-03-01&search=no
| วันที่ 01 มีนาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 22 ฉบับที่ 392 |
แท็กซี่กูรู
TAXI MASTER
เลือกโภชนาการ เป็นอาหารธาตุเจ้าเรือน
ถ้าจะย้อนหลังสัก 30 กว่าปี รถยนต์แท็กซี่สมัยนั้น รวมทั้งรถยนต์ส่วนตัวทั่วไปก็ไม่ได้ติดตั้งแอร์คอนดิชั่นในรถทุกคัน ดังนั้น เวลาขับรถไปตามเส้นทางการจราจร รถยนต์ส่วนใหญ่ก็จะเปิดกระจก หรืออย่างน้อยก็จะผลักกระจกหูช้างที่ประตูด้านคนขับ หรือประตูหน้าปรับทำมุมรับลมให้เข้าในรถ มีมือหมุนกระจกประตูหน้าหลังขึ้นลง ไม่ใช่เหมือนปัจจุบันที่เป็นกระจกประตูบานเดียวกดสวิตช์ไฟฟ้าบังคับขึ้นลงอัตโนมัติ ดังนั้น สำหรับรถแท็กซี่เมื่อมีผู้โดยสารโบกมือเรียก ทุกคนมักจะก้มตัวเข้าในหน้าต่างรถเพื่อบอกจุดหมายปลายทาง โดยการต่อรองราคา หรือเส้นทางที่คิดว่าสะดวกที่สุด ถ้าจะปฏิเสธผู้โดยสารก็น่าจะหมายถึงตกลงค่าโดยสารไม่ลงตัว
ปัจจุบัน บรรยากาศที่ผู้โดยสารต้องก้มตัวเข้าในรถก็ยังคงมีอยู่ เพราะคนขับเพียงกดสวิตช์ลดกระจกลง หรือผู้โดยสารบางคนก็ถนัดที่จะเปิดประตูรถเพื่อบอกว่าจะไปไหน โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับการต่อรองค่าโดยสาร แต่การปฏิเสธผู้โดยสารก็จะหมายถึงผู้ขับแท็กซี่พิจารณาแล้วว่า “ไม่อยากไป” โดยที่มีเหตุผลในใจหลายประการประกอบการปฏิเสธที่ไม่ต้องชี้แจงรายละเอียด คำที่ถูกยกมาใช้มากที่สุดคือ “ส่งรถไม่ทัน หรือก๊าซไม่พอ” ดังนั้น สถิติที่ถูกร้องเรียนจากผู้ใช้บริการก็ยังเป็นข่าวเด่นดังตลอดมาว่าอันดับ 1 คือ แท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร ทั้งๆ ที่ตามข้อตกลงเดิมที่ปรับอัตราค่าโดยสารแล้วสิ่งที่อยากได้เห็นการใช้บริการรถแท็กซี่ก็คือ สามารถเปิดประตูเข้านั่งในรถแล้วบอกปลายทางได้เลยโดยไม่ต้องต่อรองใดๆ แต่ผู้โดยสารส่วนใหญ่ก็ยังคุ้นชินกับพฤติกรรมเดิมๆ จนกลายเป็นประเพณีตกลงก่อนเข้านั่ง เพราะไม่อยากเข้าไปนั่งในรถแล้วต้องเปิดประตูลงจากรถเสียบรรยากาศ เสียอารมณ์ และเสียเวลาเปล่าๆ
ผมถูกเพื่อนร่วมอาชีพบางคนต่อว่าเสียดสีที่ยอมไปส่งผู้โดยสารทุกครั้งทั้งๆ ที่รู้ว่าไปแล้วรถติด ปลายทางไกลเกินอาจจะต้องกลับโดยไม่มีผู้โดยสาร แน่นอนว่าจะไม่คุ้มค่า หรือขาดทุนแน่ๆ แต่พวกเราในกลุ่มชมรมที่ตั้งปณิธานตกลงกันแล้วว่าจะปฏิบัติดีตามกฎกติกาสังคม ก็มีความภูมิใจที่เราไม่ได้ทำอะไรผิดตามที่สังคมหรือสื่อออนไลน์กล่าวประณามพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ และพวกเราก็จะไม่ร้อนตัวหรือกังวลเมื่อมีข่าวกฎหมายจะลงโทษตัดแต้ม
ตั้งใจว่าจะออกรถเช้ามากๆ แต่มีพรรคพวกโทรศัพท์มาขอความช่วยเหลือบอกว่าไฟแบตเตอรี่ในรถหมด ขอพ่วงจากรถข้างบ้านแล้วก็สตาร์ตไม่ติด คือไม่ได้ยินเสียงเครื่องหมุนเลย ทั้งๆ ที่ไฟแบตเตอรี่รถอีกคันเต็มแน่นอน ยังติดต่อช่างไม่ได้ ถ้าผมผ่านทางนั้นช่วยแวะดูหน่อย รู้สึกภูมิใจวิญญาณช่างผุดขึ้นแวะไปดู ปรากฏว่า สายพ่วงไฟแบตเตอรี่พ่วงโยงถูกต้องตามขั้วบวกขั้วลบ แต่เขาลืมสังเกตว่า ตำแหน่งคันโยกเกียร์ไม่ได้ลงล็อกในตำแหน่ง N หรือ P เนื่องจากเป็นรถเกียร์ออโตเมติก ดังนั้น จึงสตาร์ตไม่ได้เพราะสะพานไฟไม่เชื่อมกัน เพื่อนสารภาพว่าก็เพิ่งจะรู้ว่ารถเกียร์ออโต้จัมป์ไฟสตาร์ตที่ N หรือ P เท่านั้น
สมาพันธ์ระหว่างประเทศประกาศเป็นยุคเออีซีสมบูรณ์แบบ พวกเราต้องเตรียมคำศัพท์ภาษาต่างๆ แต่ช่วงหลังๆ นี้ไม่ค่อยได้เข้าไปชมรมเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์เนื่องจากภารกิจส่วนตัว เมื่อถูกพรรคพวกถามถึงและเรียกร้องว่า ขอให้ไปแลกเปลี่ยนคำศัพท์จากเพลงสากลเหมือนแต่ก่อน วันนี้จงต้องเตรียมตัวหาบทเพลงถูกใจไว้อวดเพื่อนๆ คิดถึงหนังรักโรแมนติกเรื่อง โรมิโอจูเลียต ฉายที่โรงหนังพาราเมาท์แถวๆ ประตูน้ำ เมื่อกว่า 40 ปีมาแล้ว ชอบเพลงหวานเพลงหนึ่งชื่อ A Time For Us แต่ซึ้งกับเสียงปัจจุบันที่ Andy Williams ขับร้อง “A time for us some day there”ll be. When chains are torn by courage born of a love that”s free. A time when dreams so long denied, Can flourish as we unveil the love we now must hide. A time for us at last to see, A life worthwhile for you and me” พรรคพวกชอบเสียงเพลงแต่ไม่รู้จักโรงหนัง
ออกจากชมรมตั้งใจจะไปแวะหาน้ำผลไม้ผสมสมุนไพรเจ้าประจำดื่มให้ชื่นใจ มีผู้โดยสารชายหญิงโบกมือเรียก จอดรถยังไม่หยุดสนิทคุณผู้ชายเปิดประตูขึ้นนั่งเบาะหน้า แล้วบอกคุณผู้หญิงว่าไปไกลรถติดเธอนั่งหลับคนเดียวเบาะหลังก็แล้วกันนะ เสร็จแล้วจึงหันมาบอกผมว่า ไปส่งที่ตลาดนัดต้นไม้แถวๆ ปทุมธานี นัดเจ้าของต้นไม้หาสมุนไพรไว้อยากให้รอขนกลับมาที่ตลาดนัดจตุจักร ผมตอบรับยินดีครับ รอได้ แต่ในใจก็อยากจะถามข้อตกลงขากลับกดมิเตอร์เริ่มค่าโดยสารใหม่ได้ไหม ไม่ทันถามคุณผู้ชายก็พูดเองว่า ถ้ารอได้คุณแท็กซี่ก็ไม่ต้องวิ่งรถเปล่ากลับไม่ต้องเริ่มมิเตอร์ใหม่หรอกนะ ผมพยักหน้า ได้ครับ คุณผู้ชายบอกขอบคุณ เรียกมา 2 คันแล้วไม่ยอมจึงไม่ใช้บริการ
ดูเหมือนทั้งคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงจะชอบใจที่ผมไม่ปฏิเสธ เขาจึงมีไมตรีที่จะคุยต่อว่า สมุนไพรที่เขาจะไปรับเป็นสมุนไพรธาตุเจ้าเรือน เพราะมีคนจองติดต่อไว้มากไปใช้ประกอบเป็นยาแผนโบราณ ผมได้จังหวะจึงขอให้เขาอธิบายคำว่า สมุนไพรธาตุเจ้าเรือน คุณผู้หญิงจึงแหย่ผมว่า อธิบายให้คุณแท็กซี่ฟังซิ เผื่อจะได้จองเพิ่มอีกเจ้า ผมเพิ่งสะกิดใจว่าเขาก็ต้องการพูดเชิงการค้าด้วยจึงเต็มใจอธิบายให้ฟัง
คุณผู้ชายเริ่มเองว่า ผัก ผลไม้ สมุนไพร เป็นพืชอาหารที่เรานำมาบริโภคเพื่อการเจริญของร่างกาย และบำรุงรักษาสุขภาพป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ ตามภูมิปัญญาที่บรรพบุรุษเราถ่ายทอดไว้ ตามทฤษฎีการแพทย์แผนไทยกล่าวว่าคนเราเกิดมาในร่างกายประกอบด้วยธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม และไฟ โดยแต่ละคนมีธาตุหลักเป็นธาตุประจำตัวเรียกว่า “ธาตุเจ้าเรือน” และมี 2 ลักษณะคือ ธาตุเจ้าเรือนเกิดซึ่งจะเป็นไปตามวัน เดือน ปีเกิด และธาตุเจ้าเรือนปัจจุบัน ที่พิจารณาจากบุคลิกลักษณะ อุปนิสัย และสภาวะด้านสุขภาพ กาย และใจ ว่าสอดคล้องกับลักษณะของบุคคลธาตุเจ้าเรือนอะไร เมื่อธาตุทั้ง 4 ในร่างกายสมดุล บุคคลก็ไม่เจ็บป่วย เพื่อป้องกันปัญหา สิ่งที่จะช่วยได้ระดับหนึ่งคือ “พฤติกรรมการบริโภคอาหารของแต่ละคน” ในชีวิตประจำวัน โดยใช้รสของอาหารคุณลักษณะที่เป็นยามาปรับสมดุลของร่างกายเพื่อป้องกันความเจ็บป่วย ผมได้จังหวะถามข้อสงสัยว่า แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นคนธาตุอะไร สุขภาพอย่างไร รับประทานอาหารอย่างไรให้ตรงกับธาตุเจ้าเรือน คุณผู้ชายหันไปทางคุณผู้หญิงแล้วบ่นว่า อ้าว หลับเสียแล้วจะให้อธิบายสักหน่อย
เขาหันมาคุยกับผมต่อว่า ธาตุทั้ง 4 นั้น ถ้าเป็นธาตุดินคือ คนที่เกิดเดือนตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคม ส่วนใหญ่มีรูปร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำ กระดูกใหญ่ ผมดกดำ ล่ำสัน ควรรับประทานอาหารรสฝาด หวาน มัน และเค็ม ว่ากันว่าธาตุนี้ไม่ค่อยเจ็บป่วยเพราะเป็นที่ตั้งกองธาตุ ธาตุน้ำคือ ผู้เกิดเดือนกรกฎาคม สิงหาคม และกันยายน รูปร่างสมบูรณ์ สมส่วน ผิวสดใส ความรู้เรื่องเพศดี แต่ไม่ค่อยกระฉับกระเฉง ควรรับประทานอาหารรสเปรี้ยวและขม ผู้เป็นธาตุน้ำช่วงแรกเกิดจะเจ็บป่วยเพราะธาตุน้ำกำเริบ ผู้ที่มีธาตุลม คือผู้เกิดเดือนเมษายน พฤษภาคม และมิถุนายน ส่วนใหญ่รูปร่างโปร่ง ช่างพูด ควรรับประทานอาหารรสเผ็ดร้อน และผักพื้นบ้าน ผู้อยู่ในเจ้าเรือนธาตุลม ในช่วงอายุ 32 ปีขึ้นไป ต้องระวังการเจ็บป่วยในฤดูฝน เพราะธาตุลมกำเริบ สำหรับธาตุไฟ ส่วนใหญ่เกิดเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ และมีนาคม เป็นคนทนร้อนไม่ได้ หิวบ่อย ใจร้อน ควรรับประทานอาหารรสขม เย็น จืด ในช่วงอายุ 16-32 ปี มักจะหงุดหงิด อารมณ์เสียบ่อย เจ้าอารมณ์ เพราะธาตุไฟกำเริบ
คุณผู้ชายบ่นว่า เสียดายที่ไม่ได้บอกรายละเอียดเกี่ยวกับชนิดของพืช ผัก ผลไม้ รวมทั้งอาหาร และเครื่องดื่ม พร้อมทั้งผลิตภัณฑ์สำหรับผิวกาย โดยระบุชนิดต่างๆ ให้ชัดเจนของแต่ละธาตุเจ้าเรือนของแต่ละคน เพราะพูดแบบสรุปให้ฟัง แต่ถ้าสนใจจริงๆ จะฟังเขาบรรยายรวมกลุ่มติดต่อได้ หรือถ้าจะสอบถามรายละเอียดเป็นทางการ ก็ติดต่อโดยตรงที่หน่วยงานคือ “งานพืชสมุนไพร สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร” ก็จะเป็นประโยชน์ที่สุด แม้ว่าเทคโนโลยีทันสมัยวิทยาการการแพทย์ก้าวหน้า โรคภัยก็วิวัฒนาการตามไปด้วย จำเป็นต้องกลับมองอดีตสนใจธรรมชาติฟื้นภูมิปัญญาบรรพบุรุษมาใช้ประโยชน์บ้าง
จอดที่ล็อกถัดไปนั่นแหละ รอด้วยนะครับ
สรุปจาก “พืชอาหารธาตุเจ้าเรือน” โดยกองบรรณาธิการ นสพ.กสิกร ฉบับที่ 5 กันยายน-ตุลาคม 2552