ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี
http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07084010359&srcday=2016-03-01&search=no
| วันที่ 01 มีนาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 22 ฉบับที่ 392 |
ไอทีมาร์เก็ตติ้ง
กิตติ ภูวนิธิธนา twitter@Cheaupa
Digital Marketing เครื่องมือมีหลากหลาย จะเลือกใช้อย่างไรดี
ผู้ที่มีความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องไม้เครื่องมือ หรือช่องทางสำหรับทำการค้าการตลาดออนไลน์อยู่แล้ว และอาจจะใช้งานอยู่แล้วด้วย คงไม่ลำบากอะไรมากนักในการที่จะเลือกและเริ่มต้นกับช่องทางใดๆ แต่สำหรับมือใหม่ หรือผู้ที่ยังไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับ Digital Marketing ดีนัก
การทำความรู้จักและเข้าใจกับช่องทาง หรือเครื่องมือในการทำการตลาดออนไลน์สักช่องทางหนึ่งก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ยากมากแล้ว เพียงแค่ต้องทำความเข้าใจว่าช่องทางไหนมีคุณสมบัติอย่างไร จะใช้เพื่ออะไร และใช้อย่างไร ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นอุปสรรคอยู่ไม่น้อย เมื่อต้องตัดสินใจอีกว่าจะเลือกใช้ช่องทางใดเพื่อขายหรือทำการตลาดให้กับสินค้าของตน ดูจะเป็นสิ่งที่สร้างความลำบากใจไม่น้อยเลย
ใครที่เป็นมือใหม่และกำลังประสบปัญหาในลักษณะที่ว่ามานี้ ในครั้งนี้ผมมีแนวทางในการพิจารณาและเลือกใช้เครื่องมือสำหรับทำการตลาดออนไลน์มาแนะนำกัน
จริงๆ วิธีการที่จะแนะนำก็เป็นหลักในการสร้าง Mind Map นั่นเองคือ การแจกแจงสิ่งที่จะทำออกเป็นลำดับและหมวดหมู่เพื่อให้สามารถเห็นภาพรวมได้อย่างชัดเจนในสิ่งที่ต้องการจะทำ
บางทีการปล่อยให้สิ่งที่ต้องการจะลงมือทำอยู่ในความคิดก็ยากที่จะได้ข้อสรุป ดังนั้น การที่จะทำตามคำแนะนำต่อไปนี้และในท้ายที่สุดสามารถได้ข้อสรุปที่เป็นรูปธรรม อาจจะต้องเตรียมกระดาษ ปากกา เอาไว้ลงมือขีดเขียนกันสักหน่อย หรือถ้าใครทันสมัย หรือกำลังอินเทรนด์กับยุคไร้กระดาษหรือ Paperless จะใช้การเขียนบนสมาร์ตโฟน หรือแท็บเลตก็ไม่ว่ากัน
ถ้าพร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลย ก่อนอื่นให้กำหนดความต้องการที่จะใช้เครื่องมือสำหรับการขาย หรือทำการตลาดออนไลน์ ในที่นี้ขอยกตัวอย่างความต้องการ 2 ประการ ซึ่งถือว่าเป็นความต้องการพื้นฐานของคนที่จะค้าขายและทำการตลาดออนไลน์คือ…
> เพื่อนำเสนอสินค้าสู่โลกออนไลน์
> เพื่อแนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
คนที่กำลังคิดว่าจะเริ่มต้นกับการค้าขายออนไลน์แต่ยังตัดสินใจไม่ถูกว่าจะใช้เครื่องมือตัวไหน ลองดู 2 เงื่อนไขหรือความต้องการที่ผมบอกมาว่า ใช่ความต้องการเดียวกับที่คุณกำลังคิดอยู่หรือไม่
มาดูกันทีละความต้องการ “เพื่อนำเสนอสินค้าสู่โลกออนไลน์” เริ่มจากการนำเสนอสินค้าสู่โลกออนไลน์ในเบื้องต้นก็คือ การเปิดร้านค้าออนไลน์กับผู้ให้บริการที่ไหนสักแห่ง ดังนั้น หากปัญหาที่กำลังประสบอยู่คือ ยังตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าจะเลือกทำเว็บไซต์เพื่อสร้างร้านค้าออนไลน์กับที่ไหน ให้ลิสต์รายชื่อเว็บไซต์ที่ให้บริการเปิดร้านค้าออนไลน์เอาไว้ในกลุ่มนี้ก่อน
ยกตัวอย่าง เช่น…
> ช่องทางสำหรับนำเสนอสินค้า
– เว็บไซต์ LNW Shop
– เว็บไซต์ Weloveshopping
– เว็บไซต์ Blisby
– Facebook Page
– LINE Shop
– หรืออื่นๆ
ลำดับต่อไปมาดูที่ความต้องการเกี่ยวกับการนำเสนอสินค้าให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง หรือก็คือ การทำการตลาดออนไลน์นั่นเอง ทำเหมือนเดิมคือ นั่งลิสต์เครื่องมือ หรือช่องทางที่ใช้ในการทำการตลาดออนไลน์ออกมาว่ามีอะไรบ้าง
ในการลิสต์รายชื่อไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการเปิดร้านค้าออนไลน์ หรือเครื่องมือในการทำการตลาดก็ตาม ไม่จำเป็นต้องนั่งหาข้อมูลแบบละเอียดถึงขนาดที่ว่าต้องลิสต์รายชื่อของผู้ให้บริการ หรือเครื่องมือครบทั้งหมด ในเบื้องต้นให้ลิสต์รายชื่อเว็บไซต์และเครื่องมือที่ตัวเราเองรู้จักก่อน มีความเข้าใจ และพอที่จะใช้งานเป็นอยู่บ้าง
> เครื่องมือสำหรับโปรโมตสินค้า
– Google AdWords
– SEO
– Facebook Page/Facebook Ads
– LINE@
– และอื่นๆ
เมื่อลำดับความต้องการพร้อมกับแยกหมวดหมู่ของช่องทางและเครื่องมืออย่างนี้แล้ว ก็จะเห็นภาพรวมและแยกแยะถึงจุดเด่นของช่องทาง หรือเครื่องมือได้ง่ายขึ้น ช่วยลดความสับสนในการตัดสินใจลงไปได้อย่างมาก แต่จากการแบ่งกลุ่มตามตัวอย่างจะเห็นว่าทั้ง 2 กลุ่มจะมีช่องทาง หรือเครื่องมือที่ซ้ำซ้อนกันอยู่นั่นคือ Socail Network ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งเพื่อการนำเสนอสินค้าและการทำการตลาด
การเลือกใช้ Social Network ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับมือใหม่ หรือผู้เริ่มต้น เนื่องจากเป็นช่องทางที่มีศักยภาพในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย สามารถนำเสนอสินค้าได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ที่สำคัญคือ ผู้ขายสินค้าที่เป็นมือใหม่ซึ่งยังไม่มีความชำนาญในเรื่องของการใช้เครื่องมือเกี่ยวกับ Digital Marketing ไม่ต้องเสียเวลาในการศึกษาหรือลงมือจัดการสิ่งต่างๆ หลายช่องทาง ทำให้การทำงานมีความสะดวกและง่ายขึ้น มีเวลาในการทุ่มเทการทำงานกับช่องทางใดช่องทางหนึ่งอย่างเต็มที่
ในกรณีที่ต้องใช้เครื่องมือแยกกันระหว่างการนำเสนอสินค้าและการโปรโมตสินค้า ในเบื้องต้นไม่ควรเลือกใช้ช่องทางที่หลากหลายเกินไป เพราะจะทำให้ไม่สามารถบริหารจัดการสิ่งต่างๆ ได้อย่างเต็มที่และทั่วถึง ในการนำเสนอสินค้าควรเลือกช่องทาง หรือเปิดร้านค้ากับเว็บไซต์สักแห่งหนึ่ง
ส่วนการโปรโมต หรือทำการตลาดสินค้าอาจเลือกใช้เครื่องมือสัก 1-2 ทางเลือก เช่น ใช้ Facebook Page เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ รวมถึงการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และอาจจะทำโฆษณากับ Google AdWords ร่วมด้วยอีกทางหนึ่ง