ขายชุดไทย ใส่เล่นสงกรานต์ ไอเดียเด็ด โดนใจวัยโจ๋

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี

http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=0738150459&srcday=2016-04-15&search=no

วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559 ปีที่ 22 ฉบับที่ 395

ช่องทางสร้างอาชีพ

เมดาริน-ณัฏฐ์ฤดี

ขายชุดไทย ใส่เล่นสงกรานต์ ไอเดียเด็ด โดนใจวัยโจ๋

หลังจากเปิดร้านออนไลน์ได้แค่ 1 สัปดาห์ ปรากฏผลตอบรับดีมาก ไม่กี่วันมีคนเข้ามากดไลก์ให้ถึง 21,676 คน และมีออร์เดอร์สั่งเข้ามาทุกวัน ล่าสุดวันเดียว 300 ชุด ลูกค้าเป็นกลุ่มวัยรุ่น ทั้งชาย-หญิง ที่สนใจอยากนำไปใส่เอง เพื่อเล่นน้ำวันสงกรานต์

จากกรณี คุณวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ออกมาแถลงเกี่ยวกับนโยบายของ กทม. ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่จะขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการงดแจกน้ำให้กับลูกค้า เนื่องจากปีนี้ประเทศไทยประสบภัยแล้งอยู่ ทั้งยังเรียกร้องให้ประชาชนตระหนักถึงการเล่นน้ำสงกรานต์อย่างประหยัด พร้อมแนะนำให้ใช้กระบอกฉีดน้ำแบบละออง หรือ “ฟ็อกกี้” แทนการสาดน้ำ หรือแทนปืนฉีดน้ำ เพราะใช้น้ำน้อยกว่ามากนั้น

คุณอภิณุ วิริยกอบกุล เจ้าของร้าน “ทุกอย่าง 20 บาท” ย่านสายไหม ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับบรรยากาศค้าขายภายในร้าน “ทุกอย่าง 20 บาท” ของเขา หลังจาก กทม. ชักชวนให้คนหันมาใช้ “ฟ็อกกี้” ช่วงสงกรานต์ว่า ตอนนี้ลูกค้ายังเงียบอยู่ อาจเพราะยังไม่ถึงเทศกาลและร้านของตนก็เพิ่งเปิดได้ไม่นาน

อย่างไรก็ตาม โดยปกติที่ร้านมี “ฟ็อกกี้” ขายอยู่แล้ว และเมื่อเห็นนโยบายของ กทม. เลยสั่งมาขายเพิ่มบ้าง แต่ไม่มากแค่ราว 7 โหล เพราะอยากขอดูความเป็นไปได้ก่อน ทั้งนี้ มีการสั่งซื้อจากโรงงานพลาสติกในไทย โดยรวมกลุ่มกับเพื่อนที่เปิดร้านทุกอย่าง 20 บาทเหมือนกัน สั่งซื้อพร้อมกันเพื่อให้ได้ราคาที่ถูกลง

สำหรับ “ฟ็อกกี้” ที่สั่งมาจำหน่าย จะเลือกพลาสติกที่ได้คุณภาพ มีทั้งขนาด 550 ซีซี แบบขุ่น และ ขนาด 750 ซีซี แบบใส แถมมีสีต่างๆ ให้เลือกกว่า 6 สี ขายในราคา 20 บาท แต่เท่าที่ทราบสินค้าแบบเดียวกันในห้างสรรพสินค้า ส่วนใหญ่ขายราคา 40-50 บาท

“การใช้ฟ็อกกี้เล่นน้ำสงกรานต์คิดว่าไม่แตกต่างกับการเล่นปืนฉีดน้ำ แถมยังช่วยให้ประหยัดน้ำ หากเล่นเสร็จสามารถนำมาใช้ต่อได้ เชื่อว่าช่วงวันสงกรานต์ปีนี้ คนจะนำมาเล่นกันเยอะ และหากมีคนดังถ่ายภาพเล่นน้ำสงกรานต์ด้วยฟ็อกกี้ อาจเกิดกระแสเลียนแบบแน่นอน” คุณอภิณุ กล่าว

อีกฟากหนึ่ง อย่าง ร้านขายปืนฉีดน้ำกระบอกโตนั้น ได้รับอานิสงส์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดย คุณจันทนา กำลัง อายุ 38 ปี เจ้าของร้าน 888 shop จำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ด อย่าง ของเล่น เครื่องครัว เครื่องเขียน และสินค้าทำจากพลาสติกทุกอย่าง แบบ “ขายส่ง” ผ่านทางเว็บไซต์ เผยว่า เปิดกิจการนี้มาได้ 3 ปีเศษแล้ว พร้อมทั้งจำหน่ายสินค้าตามเทศกาลต่างๆ

อย่างช่วงสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง ทางร้านได้เริ่มสั่งปืนฉีดน้ำแทบทุกขนาด มาขายผ่านทางออนไลน์ตั้งแต่ช่วงปลายมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อให้ลูกค้าได้เตรียมอุปกรณ์สำหรับเล่นน้ำ แต่หลังจากที่ กทม. มีนโยบาย “ฟ็อกกี้” ออกมา ทำให้ยอดสั่งซื้อลดลงถึง 60 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งถือว่าลดลงมากอย่างเห็นได้ชัด

“ถึงปืนฉีดน้ำของเราขายไม่ได้ก็ไม่ส่งผลกระทบต่ออะไรมากมาย เพราะยังมีสินค้าอย่างอื่นอีกหลากหลาย และถึงอย่างไรน้ำก็สำคัญสำหรับคนไทยมากกว่า จึงอยากให้ช่วยกันประหยัดน้ำอย่างจริงจังด้วย” เจ้าของร้าน 888 shop กล่าว

ยังอยู่กับบรรยากาศค้าๆ ขายๆ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่คราวนี้หันมาดูไอเดียเด็กไทยหัวใจอนุรักษ์ ที่หันมาทำธุรกิจรับเทศกาลได้พอดิบพอดี

ชื่อ คุณบี-ลลดา ตรงต่อศักดิ์ วัย 25 ปี จบจากคณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาจีน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นเจ้าของร้าน “April”s ใส่ชุดไทยไปสาดน้ำกัน”

ย้อนความเป็นมาให้ฟัง ก่อนหน้านี้เคยทำงานด้านประสานงานลูกค้ามาก่อน กระทั่งเมื่อราวปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว โดยเริ่มด้วยการขาย ชุดไทยออนไลน์ สำหรับไปเล่นน้ำสงกรานต์ เพราะเกิดไอเดียว่าใกล้จะถึงเทศกาลสงกรานต์แล้ว เลยอยากที่จะลองหารายได้ช่วงว่าง

และคิดว่า “ชุดไทยเนี่ยแหละ เวิร์กสุด” เพราะยังไม่เห็นมีร้านไหนออกมาขายชุดไทยเพื่อไปเล่นน้ำสงกรานต์กันแม้แต่เจ้าเดียว จึงเริ่มต้นเปิดร้านขายชุดไทยผ่านทางเฟซบุ๊กมาตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา โดยตั้งชื่อเพจว่า “April”s ใส่ชุดไทยไปสาดน้ำกัน”

ช่วงแรกไปรับสินค้ามาจากแหล่งขายส่งทั่วไป แต่พอทำไปได้ไม่นาน เกิดความคิดว่าน่าจะผลิตเองได้ เลยไปซื้อผ้ามาตัดเย็บเอง โดยมีมือเย็บแถวบ้านเป็นผู้ช่วย 2-3 คน สินค้าของเธอจึงมีเอกลักษณ์ สีสันสวยงาม น่ารัก เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เด็กใส่ได้ผู้ใหญ่ใส่ดี

“สินค้าทางร้านมีผ้าสไบ 4 สี ให้เลือก ได้แก่ ชมพู-ม่วง-เขียว-ทอง ขายชิ้นละ 185 บาท ถ้าซื้อ 6 ชิ้นขึ้นไป คิดราคาส่ง 165 บาท สามารถคละสีได้ ส่วนโจงกระเบนสำเร็จรูปที่สวมใส่ได้เลยเหมือนกางเกง ขนาดฟรีไซซ์ ราคาตัวละ 290 บาท ทั้งนี้ มีค่าจัดส่งเริ่มต้น แบบธรรมดา 40 บาท และ EMS 60 บาท” คุณบี แจงให้ฟัง

ก่อนเผยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า หลังจากเปิดร้านออนไลน์ได้แค่ 1 สัปดาห์ ปรากฏผลตอบรับดีมาก ไม่กี่วันมีคนเข้ามากดไลก์ให้ถึง 21,676 คน และมีออร์เดอร์สั่งเข้ามาทุกวัน ล่าสุดวันเดียว 300 ชุด ลูกค้าเป็นกลุ่มวัยรุ่น ทั้งชาย-หญิง ที่สนใจอยากนำไปใส่เอง เพื่อเล่นน้ำวันสงกรานต์

“สงกรานต์ไม่ได้มีแต่คนไทยเท่านั้นที่เล่น แต่ยังมีชาวต่างชาติมาร่วมสนุกกับประเพณีนี้เหมือนกัน ถ้าเห็นคนไทยใส่ชุดที่บ้านเขาไม่มี จะเป็นการดึงดูดและสร้างวัฒนธรรมที่ดีให้ได้เห็น

และอยากให้มองว่าการใส่ชุดไทยยังไงก็สื่อถึงความเป็นไทยดีกว่าใส่สายเดี่ยวเกาะอก อยากให้หันมามองชุดไทยเพราะมีความสวยอีกแบบ ไม่จำเป็นต้องใส่ไปงานสำคัญอะไรก็ได้ ใส่ไปร้านอาหารหรือไปเดินเที่ยวก็ยังได้” คุณบี บอกจริงจัง

ถามถึงแผนธุรกิจ เจ้าของกิจการรายนี้ บอก อยากทำชุดไทยออกมาในรูปแบบต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เช่น ชุดไทยแบบเสื้อสมัยใหม่แต่ยังคงเน้นความเป็นไทยอยู่ ซึ่งหลังเทศกาลสงกรานต์ไปแล้ว อาจมีออกมาให้ลูกค้าได้เลือกซื้อหากัน

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Facebook/April”s ใส่ชุดไทยไปสาดน้ำกัน

Leave a comment