เฟซบุ๊ก ช่องทางค้าขายแห่งยุค “สะตอ” ก็ไม่มีข้อจำกัด!

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี

http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07043010559&srcday=2016-05-01&search=no

วันที่ 01 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 22 ฉบับที่ 396

ช่องทางสร้างอาชีพ

เมดาริน กฤษณะราช

เฟซบุ๊ก ช่องทางค้าขายแห่งยุค “สะตอ” ก็ไม่มีข้อจำกัด!

กลุ่มลูกค้าหลัก น่าจะเป็นพวกชาวใต้ที่ไปทำงานที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน หรือภาคกลาง แต่ติดที่เรื่องการขนส่งที่ลำบาก จึงเกิดความคิดในการนำสะตอมาแกะและตัดส่งให้กับลูกค้าผ่านทาง EMS

หากพูดถึงอาหารปักษ์ใต้ หลายคนมักนึกถึงเมนูอาหารที่มีผักพื้นบ้านทางภาคใต้อย่าง “สะตอ” เพราะสะตอได้ชื่อว่าเป็นผักยอดนิยมที่คนใต้นำมาปรุงเป็นอาหารรับประทานกัน ไม่ว่าจะเป็นการนำสะตอสดๆ มาจิ้มกับน้ำพริก นำสะตอไปผัดกับกะปิใส่หมูสับหรือใส่กุ้ง หรือว่าจะนำไปประกอบเป็นอาหารอย่างอื่นก็ล้วนแล้วแต่หรอยจังฮู้ถูกปาก

และจากการสอบถามไปยังเจ้าของกิจการ “สะตอ EMS” จึงทราบว่า สะตอนั้นราคาดี เพราะความนิยมในการรับประทานไม่เฉพาะแต่คนใต้หรือชาวปักษ์ใต้เท่านั้น คนภาคกลางหรือภาคอื่นๆ นิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลาย ตลาดผู้บริโภคขยายตัวออกไปกว้างขวางเช่นกัน

คุณแบงค์-ณรงศักดิ์ โชติช่วง อายุ 30 ปี เจ้าของ ชมจันทร์ บีช รีสอร์ท จังหวัดระนอง ที่หันมาทำธุรกิจขายส่งสะตอผ่านเฟซบุ๊ก แจงให้ฟังว่า ตนเองพื้นเพเป็นคนจังหวัดระนอง ที่ผูกพันกับสะตอมาเป็นเวลา 10 กว่าปี โดยมีพื้นฐานมาจากที่ครอบครัวมีอาชีพเป็นพ่อค้าขายสะตออยู่แล้ว บวกกับมีญาติเยอะ คนส่วนใหญ่มีอาชีพทำสวนสะตอ พอถึงหน้าสะตอ ผลผลิตออกมามาก ชาวสวนไม่รู้จะเอาไปขายที่ไหน คุณพ่อของเขาเลยอยากช่วยเหลือชาวสวนในการระบายของที่มีเยอะจนไม่สามารถขายในจังหวัดระนองได้ จึงตัดสินใจเริ่มรับซื้อสะตอโดยไปขายต่อที่ภูเก็ตและหาดใหญ่

“หลักๆ สะตอของเรามาจากเกาะพยาม เป็นสะตอ 2 สายพันธุ์คือ สะตอดานและสะตอข้าว สะตอดานมีลักษณะตรงกันข้ามกับสะตอข้าวคือ เมล็ดใหญ่ ฝักใหญ่ตรง เปลือกหนา และกลิ่นฉุนแรง นิยมนำมาประกอบอาหาร เช่น ใช้เป็นผักแกง ผัดผัก

ส่วนสะตอข้าว มีลักษณะฝักบิดเล็ก เรียวยาว เมล็ดเล็ก เปลือกบาง กลิ่นฉุนน้อย รสชาติออกหวานๆ มันๆ นิยมรับประทานสดเป็นผักเหนาะและผักเคียง ซึ่งสะตอจะเริ่มออกผลผลิตให้เราได้รับประทานกันตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมไปจนถึงเดือนสิงหาคม” คุณแบงค์ เล่า

ต่อมาคุณแบงค์เริ่มมองเห็นช่องทางการขายผ่านโซเชียลที่กำลังมาแรง จึงได้เปิดช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านทางเฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อว่า “สะตอ EMS” เพิ่งเปิดขายมาได้ไม่นาน และคิดว่าน่าจะเป็นช่องทางในการขยายตลาดได้ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีลูกค้าเข้ามาสั่งเป็นจำนวนมากเหมือนกัน

ซึ่งโดยปกติสะตอเป็นที่นิยมของคนใต้อยู่แล้ว คุณแบงค์เลยมองว่าทางภาคเหนือไม่น่าจะนิยมรับประทานกัน เพราะฉะนั้น กลุ่มลูกค้าหลัก น่าจะเป็นพวกชาวใต้ที่ไปทำงานที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน หรือภาคกลาง แต่ติดที่เรื่องการขนส่งที่ลำบาก จึงเกิดความคิดในการนำสะตอมาแกะและตัดส่งให้กับลูกค้าผ่านทาง EMS แทน

สำหรับราคาขาย “สะตอ EMS” จะแยกเป็น สะตอแกะแล้ว อยู่ที่กิโลกรัมละ 200-250 บาท ราคาแปรผันตามฤดูกาล แต่ถ้าเป็นสะตอตัด คือสะตอดิบๆ เหมือนเดิมเพียงแค่นำมาตัด เพื่อให้ลดปริมาณน้ำหนักให้น้อยที่สุดในการจัดส่ง EMS ซึ่งราคาจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 150-300 บาท

ในมุมมองของคุณแบงค์มองว่า สะตอของเกาะพยาม คงเหมือนกับทุกๆ ที่ แต่เพียงแค่เป็นเรื่องราวมากกว่าที่ตัวเขาสร้างขึ้นมาให้แม่ค้าเห็นว่าเขาอยากที่จะช่วยชาวสวนจริงๆ ไม่ได้ต้องการหวังผลกำไรอะไรมากมาย

ความต้องการของคุณแบงค์ในอนาคต อยากที่จะรักษาคุณภาพของสะตอเพื่อให้ลูกค้ามีรับประทานได้ตลอดทั้งปี และอยากช่วยชาวสวนไม่ให้ถูกกดราคามากจนเกินไป

หากใครสนใจ อยากจะรับประทานสะตอจากจังหวัดระนอง ในแบบของคุณแบงค์ สามารถติดต่อได้ทาง Facebook/สะตอ EMS

Leave a comment