ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเส้นทางเศรษฐี
http://info.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07037010659&srcday=2016-06-01&search=no
| วันที่ 01 มิถุนายน พ.ศ. 2559 ปีที่ 22 ฉบับที่ 398 |
ไอเดียต่างแดน
มิสมิลเลียนแนร์
จับเทรนด์ “คาเฟ่” ชูจุดขายแปลกใหม่เรียกแขก
ทุกวันนี้ คาเฟ่แนวคิดแปลกใหม่กำลังเป็นกระแสที่มาแรงทั่วโลก เพราะต้องการดึงดูดลูกค้าที่มีความสนใจเรื่องต่างๆ มากกว่าจะเน้นความอร่อยของอาหารและเครื่องดื่มในร้านเพียงอย่างเดียว
อย่างในญี่ปุ่นมีคาเฟ่ไอเดียแหวกแนวที่เพิ่งเปิดบริการในกรุงโตเกียว มีชื่อว่า “เทระ คาเฟ่” ซึ่งคำว่า “เทระ” ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “วัด” โดยเป็นการนำศาสนาพุทธมาผสานกับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ ทำให้ศาสนากลายเป็นเรื่องใกล้ตัวผู้คนมากขึ้น
หากมองผิวเผิน เทระ คาเฟ่ ก็เหมือนร้านอาหารและเครื่องดื่มทั่วๆ ไป ผู้คนต่างเข้ามานั่งจิบเครื่องดื่ม และกินอาหารหลากหลายเมนู ทั้งกาแฟ เบียร์ ชาบู และเบเกอรี่
แต่สิ่งที่แตกต่าง นอกเหนือจากมีพระพุทธรูปอยู่ในร้านก็คือ กิจกรรมต่างๆ ที่มีทั้งการสอนร้อยสร้อยประคำ หัดเขียนคำสอนของพระพุทธเจ้าด้วยพู่กัน และสามารถสนทนาธรรมกับพระได้ ซึ่งลูกค้าจะจ่ายเงินราวๆ 1,500 เยน หรือเกือบ 500 บาท สำหรับกิจกรรมเหล่านี้
เทระ คาเฟ่ เป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ที่นำศาสนาพุทธไปผสมผสานกับโลกสมัยใหม่ เพื่อเชื่อมโยงผู้คนกับศาสนา หลังจากระยะหลังๆ ผู้คนเหินห่างจากวัดมากขึ้น จะเข้าวัดก็ต่อเมื่อเป็นวันสำคัญทางศาสนา หรือมีพิธีการต่างๆ ที่ต้องกระทำในวัด เช่น ไหว้พระขอพรช่วงปีใหม่ หรืองานศพ
พระฮิโรตาเกะ อาซาโนะ จากวัดชิงโยจิใกล้กรุงโตเกียว ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มแนวคิดร้านเทระ คาเฟ่ ตั้งแต่ปี 2556 และเป็นเจ้าของร้านคาเฟ่ 4 แห่ง บอกว่า ที่ผ่านมานักบวชในศาสนาพุทธไม่ได้เป็นฝ่ายออกไปเข้าสังคมเพื่อสร้างความเชื่อมโยง ได้แต่รอคนมาเข้าวัด พอถึงวันหนึ่งที่คนไม่ค่อยมาวัดแล้ว จึงจำเป็นต้องนำวัดออกไปหาผู้คนแทน
อย่างไรก็ตาม พระภิกษุบางนิกายในญี่ปุ่นสามารถดื่มแอลกอฮอล์ และแต่งงานได้ ซึ่งแตกต่างจากในหลายประเทศของอาเซียน ซึ่งมีข้อห้ามไม่ให้พระทำสิ่งเหล่านี้
ในแต่ละเดือนมีลูกค้าราว 70-80 คน เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ รวมถึงสนทนากับพระที่จะหมุนเวียนกันมาประจำที่ร้าน แต่มีคนที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมะแบบจริงๆ จังๆ ไม่มากนัก
นอกจากนี้ คาเฟ่ที่ใช้ธีมสัตว์ต่างๆ ก็ได้รับความนิยม ไม่ใช่แค่คาเฟ่แมว หรือคาเฟ่สุนัข ที่เห็นเปิดกันเป็นดอกเห็ด แต่ยังรวมถึงเม่นที่กลายเป็นพนักงานเรียกแขกไปแล้ว
คาเฟ่เม่นแห่งแรกในญี่ปุ่นเปิดให้บริการสำหรับลูกค้าที่ต้องการรับประทานอาหาร พร้อมๆ กับได้เล่นกับเม่นสารพัดสายพันธุ์ ที่รอต้อนรับอยู่ราวๆ 20-30 ตัว ในตู้กระจก
คาเฟ่แห่งนี้มีชื่อว่า “แฮร์รี่” ที่เล่นเสียงให้พ้องกับคำว่า “ฮาริ” ซึ่งแปลว่า เข็ม ในภาษาญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ซึ่งเต็มไปด้วยคาเฟ่สัตว์มากมายหลายชนิด ตั้งแต่กระต่าย เหยี่ยว ไปจนถึงงู
สำหรับค่าบริการของคาเฟ่เม่นแห่งนี้ อยู่ที่ราว 1,000 เยน หรือ 325 บาทต่อชั่วโมง ในวันธรรมดา และอยู่ที่ 1,300 เยน หรือ 422 บาท ในวันหยุด
“แอนนา เฉิง” วัย 11 ขวบ เล่าว่า เม่นตัวน้อยเหล่านี้เป็นมิตร แม้ว่าบางครั้งจะต้องระวังขนของพวกมันที่แหลมจนแทงมือได้
มิซูกิ มูราตะ พนักงานของร้านคาเฟ่เม่น ซึ่งทำงานในร้านคาเฟ่กระต่ายที่อยู่ในตึกเดียวกัน บอกว่า ร้านคาเฟ่เม่นแห่งนี้ได้รับความสนใจมากขึ้นนับตั้งแต่เปิดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และลูกค้าก็ต้องต่อคิวรอเข้าไปเล่นกับเหล่าเม่นแคระ ซึ่งมีความน่ารักและแสนซน
ในย่านอากิฮาบาระของญี่ปุ่น ยังมีคาเฟ่นกฮูกที่ชื่อ “อากิบา ฟุกุโร” ที่มีนกฮูกราวๆ 25 ตัว จากหลากหลายสายพันธุ์ รอต้อนรับลูกค้าที่ชื่นชอบสัตว์ประเภทนี้
ลูกค้าจะต้องจ่ายค่าบริการ 1,500 เยน หรือ 488 บาท เพื่อเลือกนกฮูกตัวที่อยากเล่นด้วย รวมถึงเครื่องดื่ม และสามารถเล่นกับนกฮูกได้เป็นเวลา 1 ชั่วโมง
คาเฟ่ธีมสัตว์โลกยังมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่สุนัขจิ้งจอก แร็กคูน และเมียร์แคต ซึ่งบางร้านไม่คิดค่าบริการในการเล่นกับสัตว์เหล่านี้ แต่ลูกค้าจะต้องรับประทานอาหารและเครื่องดื่มให้ครบตามที่ทางร้านกำหนด จึงจะได้เล่นกับพวกมัน
ขณะที่คาเฟ่สุนัขที่ผุดขึ้นดาษดื่นๆ ในเมืองต่างๆ ทั่วโลก ก็ปรับคอนเซ็ปต์ให้แตกต่างกันไป อย่างในนครลอสแองเจลิสของสหรัฐ ตอนนี้ผู้คนสามารถเข้าไปอุดหนุนคาเฟ่สุนัขที่มีชื่อว่า “เดอะ ด็อก คาเฟ่”
คาเฟ่แห่งนี้ไม่ได้นำสุนัขสายพันธุ์ดีระดับเพ็ดดิกรีมาเป็นจุดขาย แต่นำเจ้าตูบจากศูนย์พักพิงสัตว์มาไว้ในร้าน เพื่อให้พวกมันได้ใกล้ชิดกับมนุษย์ ซึ่งถือเป็นจุดเน้นของร้านแห่งนี้ที่ต่างจากคาเฟ่สุนัขแห่งอื่นๆ
โดยนอกจากลูกค้าจะได้ละเลียดกาแฟพร้อมๆ กับหยอกล้อเจ้าเพื่อนสี่ขาที่มีหลายพันธุ์ หากลูกค้าคนใดมีความพร้อม ก็สามารถรับเจ้าตูบในร้านไปเลี้ยงที่บ้านได้
“ซาร่า วูลฟ์กัง” เจ้าของร้าน เล่าว่า คุ้นเคยกับคาเฟ่สุนัขมาตั้งแต่เด็ก และประกอบกับทำงานเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือสัตว์ในศูนย์พักพิง ทำให้มองเห็นถึงความต้องการบ้านใหม่ของบรรดาน้องหมา และเกิดแนวคิดที่จะเปิดร้านคาเฟ่เพื่อสนับสนุนให้คนรับสุนัขไปอุปการะ อีกทั้งหวังให้โมเดลธุรกิจแบบนี้แพร่หลายไปทั่วโลก
สนนราคาค่าบริการสำหรับคนรักสุนัข อยู่ที่ 10 ดอลลาร์ หรือประมาณ 350 บาท ซึ่งลูกค้าจะได้รับกาแฟ 1 แก้ว และสามารถเล่นกับเพื่อนสี่ขาได้นาน 55 นาที