พลิกอดีต-ดันตัวเองสู่ความสำเร็จ ภศภม ศิริเจริญโรจน์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

24 พฤศจิกายน 2558 เวลา 11:28 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/ent/celeb/401280

พลิกอดีต-ดันตัวเองสู่ความสำเร็จ ภศภม ศิริเจริญโรจน์

โดย…วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข

นี่คือผู้อำนวยการบริหารฝ่ายขายที่หนุ่มที่สุดของบริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต ภศภม ศิริเจริญโรจน์ ในวัย 33 ปี เขาได้รับรางวัลผู้บริหารยอดเยี่ยมแห่งปีคนล่าสุด Leader of The Year 2014 ของบริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต ในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ ก่อนหน้านี้ก็กวาดมาหมดทั้งตำแหน่งตัวแทนยอดเยี่ยมแห่งปี Agent of The Year 2013 และ SM Manager คุณวุฒิ MDRT ในปี 2012… หากก่อนชีวิตที่ประสบความสำเร็จ เงินทองความมั่งคั่งพรั่งพร้อม คือชีวิตที่พลิกอดีตฝ่าด่านความเจ็บปวด

ภศภม แปลว่า ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นชื่อที่พระตั้งให้ เขาเกิดมาในครอบครัวมีฐานะ อากงอาม่ามีลูกหลายคน แต่ลูกที่อากงอาม่ารักมากที่สุดคือพ่อของภศภม คำว่ารักคำเดียวอาจไม่พอ หากต้องใช้คำว่ารักและตามใจอย่างที่สุด…เท่าที่พ่อแม่จะรักตามใจลูกคนหนึ่งได้ เรื่องความรักลูกจนไม่ลืมหูลืมตานี้ นำมาซึ่งโศกนาฏกรรมและจุดผันเปลี่ยนชีวิต จากสูงสุดลงสู่ต่ำสุดของคนคนหนึ่ง แน่นอนมันกลายเป็นโศกนาฏกรรมของลูกของคนคนนั้นด้วย

“พ่ออายุ 17 ปีตอนแต่งงานกับแม่ กินเหล้าดูดบุหรี่พ่อผมเอาทุกอย่าง จนอายุยังไม่ทันจะยี่สิบก็เลิกกับแม่ แยกลูกกัน ผมอยู่กับพ่อ เมื่อเลิกกับแม่ พ่อก็ยังกินเล่นเที่ยว ผมโตมาแบบนั้น เห็นทุกอย่างที่พ่อทำ เห็นทุกอย่างที่พ่อเป็น พ่อชวนผมด้วย ทุกอย่าง ผมก็เอาด้วยทั้งกินเหล้าเล่นการพนัน ไม่ดูดบุหรี่อย่างเดียว”

 

ตอนภศภมอายุได้ 2 ขวบ แม่ก็แยกไปแล้ว แม่ออกจากบ้านไปเพราะแหลกลาญไปจากพ่อ อาม่าคือคนที่เลี้ยงเขามา กับคู่แฝดอีกหนึ่งคน แม่กลับไปอยู่กับยายที่พัทยาและแทบไม่ได้เจอกันอีก แม้ในห้วงเวลาที่พายุพัดโหมกระหน่ำ เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่อากงอาม่าสร้างขึ้น ถูกทำลายย่อยยับลงด้วยน้ำมือของพ่อ

ขณะนั้นภศภมเรียน ปวช.อยู่ปี 2 ชีวิตเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เพราะพ่อเอาเงินไปเล่นการพนันหมด อากงอาม่ามีโรงงานทำพลาสติกใหญ่แถวบางแค นครปฐม มอบโรงงานให้ลูกชายที่รักมากที่สุดคือพ่อ ซึ่งเสียพนันโครมเดียวหมดทั้งโรงงาน พี่น้องคนอื่นได้แต่มองตาปริบๆ ส่วนเขาเรียน ปวช.เกือบไม่จบ บ้านที่อยู่มาโดนธนาคารยึดแล้วในตอนนั้น

อาม่าเสียใจมาก นอนเตียงอยู่ 5-6 ปี ไม่ลุกเลย ภศภมบอกว่า ตอนนั้นไม่ให้อภัยพ่อ โกรธพ่อ พ่อเหมือนปีศาจซาตาน ทั้งผลาญสมบัติ ทั้งทำลายทรัพย์สิน ทั้งทำร้ายคน ทุกคนในชีวิตพ่อ ทุกคนที่อยู่ใกล้พ่อ ไม่มีใครที่ไม่เสียใจ ไม่มีใครที่ไม่ทุกข์ทรมาน ตอนอยู่ด้วยกันกับแม่ก็ตบตีแม่ไม่เกรงใจ เรื่องราวในอดีตภศภมบอกว่ายิ่งกว่าในหนัง

 

ทุกคนในบ้านกระจัดกระจายและจากกันไป ภศภมกับพ่อต้องไปหาอพาร์ตเมนต์อยู่ จากบ้านหรูต้องไปอยู่รังหนู ช่างน่าเศร้า เขาหางานทำอย่างด่วนที่สุดเพราะไม่มีเงินจะกิน ไม่มีเงินจะเรียน เห็นความเสียใจอยู่ในแววตาพ่อ แต่ก็เป็นตอนที่พ่อไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีก พ่อคงอยากลุกขึ้นสู้เหมือนกันแต่ร่างกายไม่ไหวด้วยมะเร็งปอด โรคภัยเบียดเบียน ทั้งดูดบุหรี่หนัก ทั้งตรอมใจ พ่อตายอายุ 42 ปีเท่านั้น

“จากคนที่มีพ่อแม่ดี ร่ำรวยเงินทอง กินเล่นเที่ยวใช้จ่ายเพลิดเพลินมาตลอดชีวิต ในที่สุดพ่อก็ใช้ชีวิตหนึ่งปีสุดท้ายนอนอยู่บนเตียง กินแต่เหล้าและขอบุหรี่ดูดจนตาย นาทีสุดท้ายของพ่อ ผมรู้ว่าพ่อเสียใจ”

ภศภมเล่าว่า พ่อใจดีกับลูก ในชีวิตนี้เคยตีเขาเพียงครั้งเดียว ตอนพ่อตายภศภมไม่คิดว่าจะทำอะไรให้แกได้ น้องคู่แฝดอีกคนของเขายิ่งเกลียดและขมขื่นเรื่องพ่อ ตั้งแต่เกิดเรื่องน้องเสียใจและไม่เคยพูดกับพ่ออีก ใช่! พ่อทำให้ทุกคนลำบาก ทำให้ทุกคนระหกระเหินกันหมด บ้านแตกสาแหรกขาด ทุกอย่างล่มสลายลงไปต่อหน้า โกรธพ่อแต่ไม่สำคัญกว่าการเอาตัวเองให้รอด เราต้องอยู่ให้รอด ต้องเอาตัวให้รอดให้ได้

“นี่อาจทำให้ผมเป็นอย่างที่ผมเป็นทุกวันนี้ เพราะถ้าไม่ใช่พ่อ ก็อาจเป็นผมเองที่เป็นแบบพ่อ” ภศภมเล่า

 

มองพ่อแล้วบอกตัวเองว่าต้องไม่เป็นอย่างพ่อ ต้องไม่ล้มเหลวอย่างพ่อ ใช้ชีวิตต้องรับผิดชอบ ต้องรวย ต้องมีเงินขึ้นมา ตอนนั้นเลือกหางานที่ได้เงินดี แต่เป็นอยู่ในสังคมกินดื่ม ไปเป็น “บอย” ดูแลบาร์ญี่ปุ่นย่านสีลม คอยดูแลแขกญี่ปุ่นที่เปย์หนักจ่ายหนัก รายได้ดีและทิปดีมาก ออกรถมอเตอร์ไซค์คันแรกได้ ขับไปให้พ่อดู พ่อน้ำตาไหลเดี๋ยวนั้น มองฝ่าม่านน้ำตาเห็นลูกนั่งอยู่บนมอเตอร์ไซค์ แกพึมพำถ้อยคำที่ไม่อาจคาดเดา ตัวพ่อเองไม่เคยซื้ออะไรได้ด้วยเงินของตัวเองเลย ถ้าอากงอาม่าไม่ให้ พ่อก็ไม่เคยหาเงินได้แม้แต่บาทเดียว

“ใช้ชีวิตกลางคืนอยู่พักใหญ่ แต่เพราะงานบางทีต้องมีจิบมีดื่มเอาใจแขก วันหนึ่งก็ฉุกคิดว่า ไม่เอา! เดี๋ยวมีชีวิตเหมือนพ่อ ผมเลิกเลย ทั้งที่เงินดีมาก บาร์ที่ผมทำงานอยู่มีผู้หญิง 200 คน มีบอย 13 คน เป็นบาร์ใหญ่ เงินดี แต่ตัดใจไปหางานอื่นที่ไม่ต้องกินเหล้า”

ชีวิตเจ็บช้ำด้วยเรื่องเงิน งานใหม่จึงยังต้องตอบโจทย์ตัวเองในเรื่องเงิน รายได้ต้องดี ได้งานขายบัตรเครดิตทางโทรศัพท์ วันหนึ่ง 8 ชั่วโมงต้องคุยอย่างต่ำแปดสิบคนแปดสิบสาย งานนี้บังคับให้ตัวเองรวยเพราะขายได้ขายดีแต่หนองขึ้นคอ เดือนหนึ่งขายบัตรเครดิตได้ประมาณหนึ่งพันใบ ได้ใบละ 500-1,000 บาท แล้วแต่ฐานเงินเดือนลูกค้า พูดมากจนคออักเสบ เส้นเสียงอักเสบ เทเลเซลส์…ชีวิตเป็นแบบนี้ รายได้ตอนนั้นไม่ต่ำกว่าเดือนละ 5 หมื่นบาท เฉลี่ยแล้วอยู่ที่  7 หมื่นบาท/เดือน

 

“เคยได้สูงสุดเดือนหนึ่งเกือบแสน แต่คอเกือบหลุด เจ็บคอและแหบถาวร ชีวิตถ้ามองในมุมของเงิน ซัคเซสแล้ว”

ทำงานขายบัตรเครดิตจนรู้สึกว่าไม่ค่อยท้าทายตัวเองแล้ว ตัดสินใจเปลี่ยนมาขายประกันชีวิต ทั้งที่ช่วงแรกไม่มีความรู้เรื่องประกันแต่ท้าทายตัวเอง คิดว่าทำได้ อีกรายได้ดีกว่าขายบัตรเครดิต เลือกไทยพาณิชย์ประกันชีวิตเพราะเป็นบริษัทในเครือของธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารของคนไทย ภูมิใจในความเป็นไทย

ย้อนกลับไปสมัยเริ่มทำงานด้านสายบัตรเครดิตและสินเชื่อ เริ่มต้นจากบริษัท พรูเด็นเชียล จากนั้นก็ย้ายไปเรื่อย ตั้งแต่ HSBC จนถึง KTC รถยนต์คันแรกเป็นรถยาริส ได้ออกรถคันแรกก็ช่วงทำงานสายบัตรเครดิต ล่าสุดเปลี่ยนรถตอนย้ายมาอยู่กับไทยพาณิชย์ ซึ่งถือเป็นแบงก์ในฝันและได้รถยนต์ในฝันคือเบนซ์ก็ช่วงย้ายมาอยู่กับแบงก์ในฝันนี่เอง ถึงปัจจุบันรวมกว่า 7 ปีแล้ว

สำหรับเคล็ดลับการก้าวสู่ตำแหน่งผู้อำนวยการบริหารฝ่ายขาย บริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต ตำแหน่งที่ไม่ได้มาง่าย เพราะต้องทำยอดต่อปีด้วยหลักสิบล้านบาทขึ้นไป ภศภมเล่าว่า เขาขอ 3 คำ คือ 1.การออมเงิน 2.ครอบครัว และ 3.สวัสดิการ ทั้งหมดอยู่ภายใต้หลักการกระจายความเสี่ยง ต้องอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจ ไม่! คืออุทานธรรมชาติของคนที่ไม่ต้องการซื้อประกัน (ฮา) ตัวเราและเลเวลในจิตใจของเราต้องเข้มแข็งกว่าเขา

“ส่วนใหญ่ลูกค้ายังไม่มีความเข้าใจเรื่องการประกัน ก็เป็นหน้าที่ของตัวแทนที่จะต้องอธิบาย ต้องรับผิดชอบ และมีทัศนคติที่ดี คีย์เวิร์ดในใจผมคือเราเป็นผู้ให้ เราให้ประโยชน์แก่เขา ผมคิดอย่างนี้จริงๆ”

พลิกอดีตและผลักดันตัวเองสู่ความสำเร็จ ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำได้ 2558 ปีนี้ของภศภมรวมรายรับทั้งหมดแล้ว ไม่น่าต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้ง 5 ล้านบาท เคล็ดลับความสำเร็จคือการมองที่เป้าหมายและคนต้นแบบ ต้องพัฒนาตัวเอง และต้องพัฒนาทุกวัน วันแรกพัฒนาตัวเองได้ 1 เปอร์เซ็นต์ 100 วันก็พัฒนาได้ 100%

ฝากคาถาสำหรับคนอยากรวย ถ้าอยากรวยต้องมี 3 อย่าง 1.ต้องหาเงินให้เก่ง หาเงินให้ได้มากกว่าค่าใช้จ่ายอย่างน้อยหนึ่งเท่าตัว 2.หาเงินได้แล้วต้องเก็บเงินให้อยู่ หรืออย่างน้อยขอให้ได้เก็บ จะมากจะน้อยนั่นอีกเรื่อง 3.บริหารเงินให้เป็น เงินที่เก็บมาได้ บริหารให้ได้ ตั้งเป้าผลตอบแทนให้สูงเข้าไว้ อย่างน้อย 10-20%

“สำคัญที่สุดคือเริ่มให้ได้ สำคัญที่ใจ เริ่มแล้วอย่าเลิก ตั้งเป้าหมายความสำเร็จปีต่อปี เป้าหมายต้องมีทุกปี แล้วจะสำเร็จทุกปี เป้าหมายเรื่องเงินก็อย่างหนึ่ง เป้าหมายเรื่องที่ไม่ใช่เงินก็อย่างหนึ่ง ชีวิตอย่ามองแค่เงิน ชีวิตมีมากกว่าเงิน ดูพ่อของผมเป็นตัวอย่าง”

 

Leave a comment