ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
16 ตุลาคม 2558 เวลา 17:15 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/nightlife/394276

โดย…คีตะ ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน
ตอนนั้นเป็นเวลาใกล้เที่ยงคืน หลังจากน้ำสีสวยแก้วสุดท้ายถูกดื่มลงคอ ผู้มาเยือนเตรียมตัวกล่าวคำอำลากับสถานที่และผู้คนซึ่งแสนสวยงามภายใน “เดอะ บาร์ (The Bar)”
เมื่อ เดอะ เฮาส์ ออน สาทร (The House on Sathorn) เปิดตัวขึ้น สถานที่แห่งนี้ก็กลายมาเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ จนทำให้ใครๆ ตั้งใจจะไปเยือนให้ได้สักครั้ง นอกจากร้านอาหาร เดอะ ไดน์นิ่งรูม แล้ว ส่วนหนึ่งของ เดอะ เฮาส์ ออน สาทร แห่งโรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพฯ ยังแบ่งพื้นที่ให้สำหรับคนที่อยากจะใช้เวลาสำหรับการแฮงเอาต์ในชื่อ เดอะ บาร์
ตั้งอยู่ในอาคารสไตล์โคโลเนียลอายุ 126 ปี เดอะ บาร์ เป็นมุมพิเศษสำหรับการดื่มสังสรรค์หลังเลิกงาน หรือที่พบปะในช่วงระหว่างวัน บรรยากาศดีงามท่ามกลางการตกแต่งในสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกอันหรูหราสง่างาม ทั้งยังให้กลิ่นอายความเป็นไทยผสมผสานในรายละเอียด

อาคารหลังนี้ถูกสร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5 เดิมเป็นบ้านพักของครอบครัวหลวงสาทรราชายุกต์ นักธุรกิจผู้มั่งคั่งและเป็นผู้ริเริ่มขุดคลองสาทร กระทั่ง พ.ศ. 2463 ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นโรงแรมหรู โฮเทล รอยัล ต่อมาก็กลายเป็นที่ทำการสถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทย ต่อมาทางกรมศิลปากรเข้ามาช่วยบูรณะให้กลับมาสวยสง่าดังเดิม โดยรักษาโครงสร้างเดิมไว้
ที่ เดอะ บาร์ มีเมนูเครื่องดื่มหลากหลาย โดยเฉพาะ “คราฟท์ ค็อกเทล” สร้างสรรค์ขึ้นตามฤดูกาลจากสมุนไพรและเครื่องเทศท้องถิ่น โดยได้รับอิทธิพลทางแนวคิดเรื่องการสร้างสรรค์อาหารของเชฟ ฟาติห์ ทูทัค จากตุรกี ผู้อำนวยการด้านอาหารของ เดอะ เฮาส์ออน สาทร ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเดินทางท่องไปทั่วเอเชียและประเทศอื่นๆ ทำให้ค็อกเทลที่นี่มีกลิ่นอายความเป็นเอเชียผสมผสานอยู่ด้วย

ค็อกเทลเด่นคือ เดอะ ฟลายอิ้ง พิก (The Flying Pig) ผสมจาก จอห์นนี่วอล์กเกอร์โกลด์เลเบิ้ลกับกรองด์ มาร์นิเยร์ เสาวรส และ ซินนามอน อีกหนึ่งแก้วเป็น ดิว่า (DIVA) ผสมด้วย เบลเวเดียร์วอดก้า พาตรงซิตรง (สุรารสส้ม) น้ำมะพร้าว น้ำเชื่อมกลิ่นกุหลาบและมะลิ
นอกจากค็อกเทลแล้ว เดอะ บาร์ ยังมีแชมเปญ สาเก ไวน์ ฯลฯ พร้อมเสิร์ฟคู่กับแกล้มที่น่าลิ้มลองเพื่ออุ่นเครื่องสำหรับปาร์ตี้ในตอนดึก (ที่ อัพสแตร์ส (Upstairs) คลับเลานจ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มีทั้งดนตรีสดและดีเจ) หนึ่งใน “บาร์ไบท์” ที่น่าลองคือ มูสตับไก่กับขนมปังไรย์และชัตนีย์ลูกแพร์ นอกจากนั้นยังมีอาหารรับประทานง่ายๆ สไตล์เอเชียอีกหลากหลายเมนูให้เลือกสั่ง

ด้วยองค์ประกอบทั้งมวลทำให้ เดอะ บาร์ เป็นมุมพิเศษสำหรับคนพิเศษ เป็นสถานที่ซึ่งเหมาะสมกับการพบปะสังสรรค์พูดคุยแบบสบายๆ ในบรรยากาศคึกคักมีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะด้วยบทเพลงไพเราะ เครื่องดื่ม หรือ อาหาร ที่นี่ทำให้ผู้มาเยือนผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยเคร่งเครียดได้อย่างดี
เดอะ บาร์ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เที่ยงวันถึงเที่ยงคืน ที่โรงแรม ดับเบิ้ลยู กรุงเทพฯ ถนนสาทรเหนือ โทร. 02-344-4000 หรือ www.thehouseonsathorn.com
หลังลุกจากโซฟากว้างใหญ่หนานุ่มอย่างอาลัย เราเดินผ่านพนักงานสาวสวย เธอเอื้อนเอ่ยสวัสดีและ “แล้วพบกันอีกนะคะ…” เราตอบกลับด้วยรอยยิ้มพร้อมความมุ่งมั่นในใจที่จะสนองตอบคำเชื้อเชิญของเธออย่างจริงจัง
