ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
09 มิถุนายน 2559 เวลา 10:53 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/thailand/436438

โดย…วิทยา เคหสุขเจริญ
อัมพวา เดิมเป็นศูนย์กลางการค้าการคมนาคมที่สำคัญของ จ.สมุทรสงคราม มีตลาดน้ำและชุมชนขนาดใหญ่ แต่เมื่อการสัญจรทางบกมีการพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ การค้าการคมนาคมทางน้ำจึงค่อยๆ ลดความสำคัญลงแทบจะหมดไป จนเมื่อสิบกว่าปีมานี้เองที่ทางเทศบาลตำบลอัมพวาและชาวบ้านในชุมชนได้ร่วมกันฟื้นฟูตลาดน้ำอัมพวาขึ้นมาอีกครั้ง โดยเป็นตลาดน้ำอัมพวายามเย็น เปิดทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. และก็ได้รับความนิยมกลับมาอย่างล้นหลามจนปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนกรุงเทพฯ รวมทั้งเป็นจุดตั้งต้น-จุดหมายปลายทางของเส้นทางปั่นจักรยานอัมพวา คือเริ่มปั่นออกจากที่นี่แต่เช้า จบทริปบ่ายๆ ก็เที่ยวตลาดน้ำต่อเลย …แต่เมื่อฮิตก็แห่… ทั้งนักท่องเที่ยว ทั้งพ่อค้าแม่ขาย แออัดยัดเยียดจนแทบจะหาเสน่ห์ดั้งเดิมของตลาดน้ำไม่เจอ การจราจรก็คับคั่งจนจักรยานแทบไม่มีที่จะแทรก…
แต่ห่างออกไปเพียง 5 กม. ใน อ.บางคนที ยังมีตลาดน้ำอีกแห่งที่ถือเป็นเงาสะท้อนอดีตของตลาดน้ำอัมพวาได้เป็นอย่างดี นั่นคือตลาดน้ำบางน้อย ที่จะเป็นไฮไลต์หนึ่งของทริปจักรยานของเราในครั้งนี้
ทริปนี้เราเลือกที่จะเริ่มต้นย่าน อ.วัดเพลง ซึ่งอยู่ใต้ลงมาเป็นขอบ จ.ราชบุรี แล้ว แล้วจึงปั่นวนขึ้นไปหาตัว อ.อัมพวา แทน เนื่องจากการจราจรแถบนี้จะเบาบางกว่ามากถึงมากที่สุดเรียกว่านานๆ จะมีรถผ่านสักคัน ถนนลาดยางอย่างดีบวกกับบรรยากาศที่ร่มรื่นของสวนมะพร้าวและสวนผลไม้นานาชนิดที่เรียงรายอยู่สองข้างทางทำให้การเดินทางเป็นไปด้วยความสนุก จนเมื่อแดดเริ่มตั้งตรงขึ้นเรื่อยๆ ก็ได้เวลาหาที่หลบร้อนกันแล้ว เราเลือกแวะพักที่ตลาดน้ำบางน้อย อ.บางคนที ที่ซึ่งพาเราย้อนอดีตกลับไปหลายสิบปี นับตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาเราจะพบแต่ของที่แทบจะเหลืออยู่แต่ในความทรงจำ เช่น ขนมสัมปันนี ขนมเทียนสลัดงา ที่หาทานได้ยากเต็มที บรรยากาศเรือนแถวริมน้ำที่เงียบสงบ บ้างเป็นร้านค้า บ้างขายอาหาร เป็นการค้าชุมชนแบบดั้งเดิมที่ทำให้ชีวิตเรารู้สึกช้าลง
เส้นทางจักรยานที่รวมเรียกว่า “อัมพวา” นั้นเป็นวงรอบที่มีระยะทางกว่า 50 กม. กินอาณาเขตกว้างขวางหลายอำเภอ และมีจุดแวะพัก สถานที่ท่องเที่ยวรายทางมากมาย เช่น ตลาดน้ำอัมพวา ตลาดน้ำบางน้อย ตลาดน้ำท่าคา ตลาดน้ำบางนกแขวก วัดบางกุ้ง วัดจุฬามณี โบสถ์คริสต์บางนกแขวก (อาสนวิหารพระแม่บังเกิด) และอื่นๆ อีกมากมายที่แล้วแต่เราจะเลือกแวะ แต่อันที่จริงแล้วเสน่ห์ของเส้นทางจักรยานกลับอยู่ที่เส้นทางที่เลาะเลียบเรียงไปตามเรือกสวนผลไม้นานาชนิด ถนนเหล่านี้เป็นทางรองที่แยกย่อยออกมาจากถนนหลัก มีโครงข่ายถนนที่เชื่อมต่อกันแบบไม่เป็นแบบแผนนัก ปัจจุบันเริ่มมีป้ายบอกทางมากขึ้น หากศึกษาเส้นทางล่วงหน้าสักนิด คิดว่าสามารถปั่นอยู่แต่ภายในถนนเส้นรองได้เกือบทั้งหมดแทบไม่ต้องออกถนนใหญ่เลย
ช่วงบ่าย หลังอาหารเที่ยงที่ร้านคุ้มแสงทอง เราเลือกปั่นไปแวะวัดบางกุ้ง หรือที่เรียกว่าค่ายบางกุ้ง เพราะเดิมเคยเป็นค่ายทหารมีบทบาทสำคัญในการกู้เอกราชสมัยพระเจ้าตากสิน และที่วัดบางกุ้งยังมีโบสถ์ปรกโพธิ์ โบสถ์เก่าแก่ที่มีตันโพธิ์ขึ้นปกคลุมโบสถ์ทั้งหลัง ถือเป็น Unseen Thailand แห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาด แต่ครั้งนี้เราโชคไม่ดีเจอพายุฤดูร้อนเข้าเต็มๆ เลยได้แต่หลบฝนอยู่ไม่ได้ไปเก็บภาพโบสถ์ปรกโพธิ์มาฝากกัน รออยู่นานกว่าฝนจะหยุดจึงปั่นกลับ
เส้นทางกึ่งธรรมชาติกึ่งท่องเที่ยว คือปั่นบนถนนดำแต่ได้วิวแบบปั่นในทางธรรมชาติแบบนี้ แม้จะหาได้ไม่ยากในต่างจังหวัด แต่จะหาที่ใกล้ๆ กทม. มีความปลอดภัย และมีสถานที่ท่องเที่ยวแวะได้รายทางครบเครื่องแบบนี้นับว่าหาไม่ได้ง่ายๆ
ที่สำคัญสามารถไปปั่นร่วมกันได้ทั้งขาอ่อน ขาแรง ทุกเพศทุกวัย เป็นกิจกรรมวัดหยุดร่วมกันของครอบครัว ที่ทำให้ชีวิตคนกรุงได้อยู่ห่างไกลห้างสรรพสินค้าบ้างนะครับ