ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
08 เมษายน 2559 เวลา 16:53 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/restaurant/425805

โดย…เพ็ญแข สร้อยทอง
ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบมื้อบรันช์ (Brunch) เป็นชีวิตจิตใจ เหตุเพราะว่า เป็นคนตื่นค่อนข้างสาย จึงไม่เคย (ไม่ค่อย) ได้รับประทานมื้อเช้าหรือเบรกฟาสต์ (Breakfast) กับใครเขา กว่าร่างกายและเวลาจะพร้อมก็ปาเข้าไปใกล้ๆ มื้อเที่ยง (Lunch) แล้ว การรับประทานควบรวมระหว่างมื้อเช้าและมื้อกลางวันที่สากลนิยมเรียกว่า บรันช์ นั้นจึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเสมอๆ จนกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดา
มื้อบรันช์นั้นมีเสน่ห์เฉพาะตัว ประกอบด้วยอาหารที่ไม่หนักเกินไป สำหรับรับประทานให้ท้องไส้คุ้นเคย เพราะเป็นอาหารมื้อแรกของวัน และสามารถตามด้วยเมนูหนักๆ มาเติมท้องให้อิ่ม เพื่อจะได้อยู่ยาวๆ ไปถึงบ่ายแก่ๆ หรือค่ำผสมรวมมาด้วย
ในร้านอาหารทั่วๆ ไปมักจะจัดให้มีเมนูบรันช์เฉพาะในวันหยุด เช่น เสาร์หรืออาทิตย์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ ที่ผู้คนอาจจะตื่นสายเล็กน้อย เพราะเป็นวันสบายๆ ไม่ต้องรีบเร่งไปทำงาน ก่อนจะออกจากบ้านไปรับประทานบรันช์กันในราวๆ 11.00 น. โดยเฉพาะซันเดย์บรันช์นั้นเป็นเทรนด์ที่บ้านเราเองก็นิยมมาก จนทำให้หลายร้านอาหาร มีคนรอคิวรับประทานบรันช์กันยาวเหยียด ใครที่ไม่ชอบรอหรือจองล่วงหน้าถึงกลับเบื่อบรันช์ (นอกบ้าน) กันไปเลย

และเมื่อมีร้านที่ประกาศตัวเป็น “ออล เดย์ บรันช์” ออกมา จึงเติมเต็มความต้องการของคนรักอาหารมื้อสายนี้ได้เป็นอย่างดี เมื่อมีออลเดย์ (และเอเวอรี่เดย์บรันช์) แล้ว เราก็ไม่ต้องไปจองล่วงหน้าหรือรอคิวรับประทานบรันช์แบบนานๆ อีกต่อไป
เริ่มเรียกว่า “บรันช์” กันเมื่อไหร่
คำว่าบรันช์ปรากฏขึ้นมาในช่วงศตวรรษที่ 18 พจนานุกรมออกซฟอร์ดเริ่มมีคำนี้ปรากฏใน 1985 หลังจากนั้นก็จะเริ่มมีใช้ในสื่อเช่นบทความหนังสือพิมพ์ เป็นต้น
ต้นกำเนิดของคอนเซ็ปต์มื้อบรันช์นี้ก็มีหลากหลายทฤษฎี ทางฟากอังกฤษบอกว่า เป็นมื้ออาหารของเหล่านักล่าสัตว์ ซึ่งมักออกล่าตอนเช้าตรู่กว่าจะเสร็จสิ้นก็สาย จึงได้รับประทานอาหาร (ส่วนใหญ่จะ
รับประทานนอกบ้าน) ซึ่งเรียกว่า บรันช์ ขณะที่บางตำรับบอกว่า มื้อนี้มักจะเป็นมื้อสายหลังจากการไปโบสถ์ในเช้าวันอาทิตย์ของคริสต์ศาสนิกชนที่รับประทานด้วยกันทั้งครอบครัว
มีหนึ่งหลักฐานหนึ่งปรากฏทางฝั่งอเมริกา โดยนักหนังสือพิมพ์ชาวนิวยอร์กชื่อ แฟรงค์ วอร์ด โอมัลลีย์ ซึ่งทำงานให้กับหนังสือพิมพ์เดอะ ซัน ระหว่างปี 1906-1919 เขาใช้คำว่า บรันช์ เพื่ออธิบายถึง “นิสัยการรับประทานอาหารกลางวันของนักข่าวหนังสือพิมพ์” เรียกได้ว่า อาชีพนี้เขาเป็นผู้นำแห่งการรับประทานบรันช์จริงๆ (ฮา…)

อีกหนึ่งเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับบรันช์มาจากบันทึกของ เอแวน โจนส์ นักประวัติศาสตร์อาหารชาวอเมริกัน เขาบอกว่า ช่วงปี 1933 นั้น ร้านอาหาร ปั้มพ์ รูม ของโรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ในชิคาโก มีชื่อเสียงมากเรื่องบรันช์ ที่นี่เป็นแหล่งรวมของคนดัง รวมทั้งดาราแห่งยุคอย่าง คลาร์ก เกเบิ้ล และ เฮเลน เฮย์ส เขาและเธอจะมาแวะรับประทานบรันช์ที่นี่ในสายวันอาทิตย์ เป็นการพักครึ่งทางระหว่างนั่งรถไฟจากนิวยอร์กไปลอสแองเจลิส (หรือกลับกัน) เสมอๆ สมัยนั้นถ้าใครไม่ไปรับประทานบรันช์ที่ ปั้มพ์ รูม เรียกได้ว่า ไม่เก๋
บรันช์มาได้รับความนิยมอย่างมากในช่วง 1980 ต่อมาด้วยซีรี่ส์เรื่อง Sex & The City ก็ทำให้สาวๆ (หรือไม่สาวก็ตามที) ออกจากบ้านไปสังสรรค์มื้อบรันช์ตามตัวละครนำของเรื่องนี้เป็นการใหญ่ และปี 2016 นี้ ผู้เชี่ยวชาญในวงการอาหารก็ยังทำนายทายทักว่า บรันช์จะกลับมาเป็นเทรนด์ของอาหารอีกรอบ
ตามคอนเซ็ปต์ของบรันช์แล้ว มื้อนี้ไม่ได้เน้นเฉพาะการรับประทานอาหารเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ “อารมณ์” และ “บรรยากาศ” เพราะเป็นมื้ออาหารในช่วงเวลาสบายๆ ไม่มีภาระให้กังวล ไม่ต้องเร่งรีบ ทั้งยังเป็นมื้อสำหรับ “โซเชียล” คือ รับประทานไปคุยกับผู้คนแบบไม่เป็นทางการไปด้วย นอกจากนี้ชาวตะวันตกยังบอกว่า มื้อบรันช์นั้นคือ มื้อของการรักษาเยียวยาอาการแฮงโอเวอร์อีกต่างหาก โดยเฉพาะหลังจากปาร์ตี้ค่ำคืนวันเสาร์อันหนักหน่วง ทำให้ซันเดย์บรันช์เป็นมื้อไม่ธรรมดาจริงๆ

อาหารบรันช์นั้นมักเน้นความหลากหลาย ตับไก่ ไข่ เนื้อสัตว์ เบคอน ผลไม้สด และขนม เครื่องดื่มไวน์หรือแชมเปญก็มักรวมอยู่ด้วย ในปัจจุบันอาหารที่มักรับประทานในมื้อบรันช์ก็เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยนิยม อย่างบ้านเราก็มักเป็นอาหารตะวันตกมีทั้งเมนูไข่ต่างๆ ขนมปัง เบอร์เกอร์ พาสต้า เนื้อสัตว์ ผัก รวมทั้งแพนเค้ก ขนมอื่นๆ
ออลเดย์บรันช์ที่ ‘มันช์’ สิ
ในส่วนของผู้นิยมบรันช์มีหนึ่งร้านอาหารออลเดย์ บรันช์ ใหม่ล่าสุดที่เพิ่งถือกำเนิดในกรุงเทพฯ คือ มันช์ (MUNCH)
ตั้งอยู่ในย่านทองหล่อ ตกแต่งร้านโดยได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมยุโรป หินอ่อนสีสว่าง อิฐสีขาว ผนังกระดานดำ เฟอร์นิเจอร์ไม้ ให้ความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลายเหมือนอยู่บ้าน
เมนูอาหารของมันช์ประกอบด้วยเบอร์เกอร์หลายแบบ รวมทั้ง มันช์ เบอร์เกอร์ สูตรเฉพาะของทางร้าน มีให้เลือกทั้งเนื้อและหมู ส่วน มันช์ แม็ค แอนด์ ชีส ทำจากเนื้อบดและชีสซอส คนชอบไก่ไม่ควรพลาดกับคริสปี้ จาเลเปโน ชิคเก้น เบอร์เกอร์ อาจจะเป็นร้านสไตล์ยุโรปแต่มีกลิ่นอายญี่ปุ่นผสมผสาน เช่น เมนูคนรักเส้นควรลอง มากูโร พาสต้า ที่นำเส้นสปาร์เกตตี้ปรุงกับมากูโรหรือบลูฟินทูน่า พาร์เมซานชีส และ แอนโชวี่ ส่วนเมนูเส้น ชิโซ เพสโต้ วิท อูนิ อร่อยด้วยชิโซเพสโต้และซีเออร์ชินหรือหอยเม่น เมนูคนรักชีสต้อง ทรัฟเฟิล กริล ชีส อร่อยด้วยทรัฟเฟิล บัตเทอร์, มอสซาเรลล่า ชีส และขนมปังซาวร์โด
มันช์ยังมีของหวานให้เลือก เช่น มันช์ แพนเค้ก เสิร์ฟพร้อม ฮอกไกโด ซอฟต์ ครีม พวกขนมปังเช่น ซอลเตด เอ้ก มันช์ โทสต์ หรือครัวซองต์ แอนด์ บัตเตอร์ พุดดิ้ง วิท ซอฟต์ เซิร์ฟ ร้านนี้จะทำให้ลูกค้านึกถึงวันเวลาเมื่อยังเด็กด้วยมีเครื่องทำป๊อป คอร์น รวมทั้งเครื่องทำซอฟต์ ครีม ซึ่งเริ่ดเลอด้วยส่วนผสมนำเข้าจากฮอกไกโด พร้อมมุมโชว์ขนมอบ
ทุกวันที่มันช์ มีบรันช์เสิร์ฟตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. ร้านตั้งอยู่ในย่านทองหล่อ ซอย 10 โทร. 02-381-4711 หรือ 08-7920-7222 IG: #munch_official @munch_official
ทุกมื้อบรันช์นับเป็นความหรรษาสำหรับคนรักความอิ่มเอมในอารมณ์สบายๆ