ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
09 ธันวาคม 2559 เวลา 16:51 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/restaurant/469517

โดย…สาโรจน์ มีวงษ์สม ภาพ ทวีชัย ธวัชปกรณ์
เพิ่งจะรู้กันก็วันนี้ว่าแท้จริงแล้วประเทศออสเตรเลียนั้นไม่มีอาหารประจำชาติ จากถ้อยคำของ ดัลลัส คัดดี้ เชฟใหญ่ชาวออสเตรเลียแห่งร้านฟรี เบิร์ด (Free Bird)
“ออสเตรเลียไม่มีอาหารประจำชาติครับ แต่จะอยู่ที่เทคนิคและวิธีการปรุงที่เป็นของตัวเอง ผสานกับวัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์ลงไป เมนูของชาวออสเตรเลียจึงมีหลากหลายและมีเอกลักษณ์”
จะว่าไปแล้วส่วนใหญ่อาหารออสเตรเลียนั้น จะได้อิทธิพลมาจากยุโรปและเอเชีย โดยเฉพาะอังกฤษที่มีเมนูคล้ายกันหลายอย่าง เพราะคนอังกฤษมาตั้งรกรากอยู่ที่นี่ เมนูที่หากินได้ไม่อยากก็คือ ฟิช แอนด์ ชิป สไตล์อังกฤษ ซึ่งวิธีการทำเขาจะนวดแป้งที่ใส่เบียร์ลงไปด้วย (Beer Batter) ซึ่งเชื่อว่าคาร์โบรไฮเดรตจากเบียร์จะช่วยทำให้แป้งเบา กรอบ และอร่อยมากยิ่งขึ้น

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรม การกินของชาวออสเตรเลียนอย่างแท้จริง สามารถลองชิมอาหารพื้นเมืองออสเตรเลียขนานแท้ ได้แก่ Shepherd Pie หรือจะเป็นอาหารจานโปรดของชาวออสซี่ เช่น Vegemite ถ้าเอ่ยถึงของหวานก็จะเป็น Lamington หรือ Lemmington ขนมหวานออสเตรเลียนที่ใครได้ลองเป็นต้องติดใจไปทุกราย ซึ่งนิยมดื่มกับน้ำชา หรือกาแฟยามบ่าย ทั้งหมดนี้สามารถลิ้มลองได้จากร้านอาหารของโรงแรมในออสเตรเลียที่เราไปพักได้เลย
“อีกอย่างใครๆ ก็ทราบว่าเนื้อที่ออสเตรเลียนั้นอร่อย เมนู Beef Pie จึงเหมือนเป็นของหากินง่ายของคนที่นี่ ถ้าบอกว่า Beef Pie คนที่นึกถึงพายที่เป็นขนมหวานคงจะงง ทั้งที่จริงแล้วจะเป็นเนื้อที่ผสมกับอะไรหลายๆ อย่าง ทำให้รูปร่างคล้ายขนม แต่รสชาติกลมกล่อมอยู่นะครับ”

สำหรับอาหารของร้านฟรี เบิร์ด จะเสิร์ฟเมนูในสไตล์โมเดิร์นออสเตรเลีย โดยการผสมผสานความหลากหลายของวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน จึงทำให้เมนูของที่นี่ได้รับอิทธิพลจากทั้งแถบยุโรปและเอเชีย โดยตัวเชฟเองนั้นได้ผ่านประสบการณ์จากการเปิดร้านอาหารในออสเตรเลียและสิงคโปร์ มาเป็นผู้ครีเอทและดูแลเมนูทั้งหมด ซึ่งหัวใจหลักของอาหารที่นี่ก็คือรสชาติต้องดี ในอุณหภูมิที่เหมาะสม และรสสัมผัสที่หลากหลาย ในราคาที่เข้าถึงได้
“อาหารทุกจานจะเป็นอาหารสไตล์ยุโรปผสมผสมผสานกับวัตถุดิบพื้นถิ่นสดใหม่ของชาวเอเชีย ผมได้แรงบันดาลใจมาจากการเดินทาง อาหารหลายอย่างจะถูกประยุกต์ขึ้นใหม่ โดยคำนึงถึงรสชาติต้องดี อุณหภูมิต้องเหมาะสม และรสสัมผัสที่หลากหลาย ทำให้คนรับประทานจะรู้สึกตื่นเต้น และสนุกสนานกับอาหารแต่ละจาน คิดดูสิครับจากพืชผักสวนครัวในเมืองไทย ผมแค่เห็นก็รู้สึกตื่นเต้น และสนุกกับการปรุงแล้วครับ ยิ่งเวลาเห็นคนไทยเข้ามาที่ร้านรู้สึกตื่นเต้นไปกับอาหารแต่ละจาน ยิ่งเมื่อได้ลิ้มรสจะรู้สึกคุ้นเคยหน้าเขาก็จะมีความสุข ผมก็จะมีความสุขไปด้วย”

เชฟดัลลัสบอกเล่าถึงเมนูที่เขารังสรรค์อย่างออกรสออกชาติ ซึ่งเมนูแต่ละจานจะดูแปลกใหม่ ด้วยการเอาเทคนิคการปรุง รวมกับการครีเอททำให้อาหารจานนั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาทันตา กลับกลายเป็นอาหารจานโมเดิร์นทว่าให้รสชาติที่คุ้นลิ้นจากวัตถุดิบที่คุ้นเคย เช่น ใบบัวบก สาหร่ายพวงองุ่น ที่เชฟแปลงร่างและผสมผสานกันได้อย่างลงตัวทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่แปลกตา แต่ให้รสชาติที่คุ้นเคย ซึ่งแต่ละเมนูการจับคู่ในเรื่องวัตถุดิบเชฟต้องอาศัยความพิถีพิถันในการเลือก กว่าจะกลายเป็นเมนูที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สำคัญเชฟยังบอกอีกว่าเหตุผลที่เลือกวัตถุดิบอย่างพืชผักสวนครัวในบ้านเรานั้น ก็เพื่อสนับสนุนเกษตรกรในบ้านเรา และเป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจพอเพียง อีกประการคือจะได้ความสด มีคุณภาพ มีประโยชน์ และเป็นรสชาติที่คุ้นเคยอีกด้วย
เริ่มต้นด้วยเมนูแรก Organic Sea Urchin With Flaxseed Cracker Parmesan and Sea Grapes เชฟได้แรงบันดาลใจมาจากอาหารญี่ปุ่น คือไข่หอยเม่นทะเลเสิร์ฟพร้อมแครกเกอร์เมล็ดแฟลกซ์ เป็นการนำความนุ่มหยุ่นของเนื้อหอยเม่นมารับประทานร่วมกับความกรอบของแครกเกอร์ สอดแทรกด้วยความเข้มขของชีสและความเย็นของสาร่ายพวงองุ่น ให้ทุกคำที่เคี้ยวปนความซุกซนและน่าค้นหา

ต่อด้วย Shaved Squid With Oyter Cream Cucumber and Seaweed Butterปลาหมึกเสิร์ฟในออสเตอร์ครีม เนยซีวีด และแตงกวา เมนูเด็ดที่ผสมผสานรสชาติความหวานตามธรรมชาติของปลาหมึกเข้ากับรสชาติเค็มของเนยซีวิคอย่างลงตัว เพิ่มความหอมกลมกล่อมด้วยความสดกรอบของแตงกวา
ใครที่มองหาเมนูปลาของแนะนำ Ocean trout 600g with wakame butter,mussel escabeche and Avruga caviar เนื้อปลาโอเชียนเทราต์ย่างเนยวากาเมะหอมๆ ท็อปด้วยคาเวียร์ และผักใบบัวบกของไทย
เรียกความสดชื่นกันอีกสักหน่อยกับ Fresh ricotta cavatelli with roasted and raw beetroot, marjoram and whey พาสต้าโฮมเมดที่ทางร้านทำเอง เป็นพาสต้าที่ยัดไส้ด้วยชีสรีคอตต้า
คาวาเทลลี่รสชาติเข้มข้น นำหมูสันหลังไปทอดแล้วคลุกกับน้ำซุปที่ต้มพาสต้า เสิร์ฟพร้อมกับใบมินต์ ถั่วลันเตา และตัดด้วยความเปรี้ยวของบีทรูทเรียกความสดชื่นดีขึ้นไม่น้อย

ตบท้ายด้วยของหวาน Sneaker เมนูที่ได้แรงบันดาลใจมาจากพีอาร์สาวฝากซื้อรองเท้า Sneaker เมื่อคราวที่เดินทางกลับไปออสเตรเลีย แต่เข้าใจว่าฝากซื้อช็อกโกแลตในชื่อเดียวกันมา ก็เลยเป็นที่มาของเมนูนี้ เริ่มต้นจากพีนัตบัตเตอร์ ไข่แดง น้ำตาลทรายขาวนำไปเคี่ยว แล้วนำช็อกโกแลต ผงโกโก้ เนย แป้ง น้ำตาลไอซิ่ง ราดด้วยคาราเมลให้กลิ่นหอม ท็อปด้านบนด้วย
ช็อกโกแลตทัมโบ้
ร้านฟรี เบิร์ด ซอยสุขุมวิท 47 เปิดบริการทุกวัน วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 17.30-24.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-24.00 น. โทร. 02-662-4936 เว็บไซต์ www.freebirdbkk.com facebook.com/freebirdbkk