ไปแล้วไม่ขึ้นคาน ‘ตลาดไร้คาน’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

12 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 10:02 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/thailand/480528

ไปแล้วไม่ขึ้นคาน ‘ตลาดไร้คาน’

โดย…กาญจนา อายุวัฒน์ธนชัย

ใกล้วาเลนไทน์เข้ามาทุกที น่าจะดีถ้าจะไปตอกย้ำความมีคู่ที่ “ตลาดไร้คาน” ตลาดประจำชุมชน “บ้านบุ” ริมคลองบางกอกน้อย ที่นอกจากจะมีตลาดชื่อแปลกขายอาหารอร่อยราคาไม่แพงแล้ว ในย่านยังมีโรงงานขันลงหิน วัดทอง และโรงรถจักรธนบุรี ครบหมดทุกวิถีวัยรุ่น

ใครนั่งเรือด่วนเจ้าพระยามาให้ขึ้นที่ท่าเรือสุวรรณฯ (ที่ไม่ใช่ท่าวัดสุวรรณ ย่านคลองสาน) ส่วนใครที่ขับรถมาก็ให้สละไว้ที่วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร เพราะการ “เดิน” ทางจะเริ่มตั้งแต่จุดนี้ วัดสุวรรณฯ เดิมชื่อ วัดทอง สันนิษฐานว่าเป็นวัดที่สร้างขึ้นเมื่อปลายสมัยอยุธยา ในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัย ฝีมือช่างเดียวกันกับพระศรีศากยมุนีที่วัดสุทัศน์ และจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่สวยงาม

สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์นับเป็นฤกษ์งามยามดีที่จะเดินเข้าสู่ชุมชน เลาะไปตามถนนที่กว้างแค่ให้จักรยานพอสวนกัน โดยจะเดินเลียบคลองบางกอกน้อยไป ผ่านท่าเรือบ้านบุ เห็นป้ายสื่อความหมายของชุมชน แล้วจะพบตลาดไร้คาน

ตลาดไร้คาน (วัดทอง) มีโครงสร้างหลังคาที่ไม่มีคานอันเป็นที่มาของชื่อตลาด สันนิษฐานว่ามีอายุมากกว่า 80 ปี เดิมเชื่อว่าบริเวณนี้มีทั้งตลาดบกที่เป็นเรือนแถวและเรือนแพต่างๆ ที่มาจอดค้าขายริมคลองบางกอกน้อย โดยตลาดเจริญรุ่งเรืองเป็นแหล่งค้าขายของชาวจีนในย่านบ้านบุ เป็นที่รวมสินค้าและอาหารสดจำนวนมาก แผงที่ยกขึ้นเตี้ยๆ ที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน จะใช้เป็นที่ขายพวกผักและปลา ส่วนแผงที่ตั้งขึ้นสูงกว่าจะใช้เป็นที่ขายเนื้อหมูและเนื้อสัตว์ใหญ่

ถือได้ว่าเป็นตลาดกลางของชุมชนทัดเทียมกับตลาดพรานนกและตลาดวังหลัง เพราะทำเลที่ตั้งใกล้กับคลองบางกอกน้อยทำให้สัญจรสะดวก ชาวบ้านจากชุมชนบางขุนนนท์ บางขุนศรี ตลิ่งชัน และชาวนนทบุรีแถบบางกรวย ก็ต่างมาจับจ่ายซื้อของจากตลาดบ้านบุนี้

ในเวลาต่อมา ตลาดเริ่มซบเซาลงหลังจากคนเปลี่ยนไปใช้ถนนแทนลำคลอง ประกอบกับเกิดเหตุไฟไหม้ใหญ่ในชุมชนถึง 3 ครั้ง ทำให้ชาวบ้านดั้งเดิมย้ายออกไปอยู่ที่อื่น ตลาดที่เคยคึกคักก็เหลือเพียง 1-2 ร้านเท่านั้น แต่ด้วยคุณค่าทางวัฒนธรรมของชุมชนบ้านบุและตลาดไร้คานที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ ชาวชุมชนและเครือข่ายต่างๆ จึงได้ร่วมมือกันพลิกฟื้นชีวิตของตลาดกลับมาอีกครั้ง และเริ่มทำการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยชุมชนเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตของชุมชนและตลาดได้ตลอดไป

พ่อค้าแม่ค้าจะมาเปิดแผงในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 1 และ 3 ของเดือน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. โดยมีลิสต์ของอร่อยที่ห้ามพลาด ยกตัวอย่าง ร้านป้าเล็ก ทอดมันปลาโบราณ ร้านคุณแอ๊ว ขนมหวาน ร้านคุณตุ๊ก ขนมเบื้องญวนและข้าวยำปักษ์ใต้ ร้านคุณป๊อก ถั่วแปบไส้เค็ม ร้านผัดไทยโบราณและกระยาสารทโบราณ ร้านแม่เพ็ญศรี ขนมเรไร ขนมขี้หนู และลอดช่อง ร้านคุณแอร์ บัวลอยไข่หวานน้ำขิง ร้านคุณสมใจ หมูสะเต๊ะ ร้านคุณแขก ก๋วยเตี๋ยวแกง เป็นต้น ในวันที่มีตลาด บรรยากาศจะคึกคักทั้งคนขายและคนซื้อ ครึกครื้นด้วยการแสดงของเด็กๆ ในชุมชน และครื้นเครงกับบรรยากาศเก่าๆ ที่กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ใกล้กับตลาดไร้คาน ในซอยข้างๆ จะเป็นที่ตั้งของ ร้านยาสงวนโอสถ ก่อตั้งมานาน 75 ปี มียาขึ้นชื่ออย่าง ยาหอมอินทจักร์ ช่วยบำรุงหัวใจแก้วิงเวียน น่าซื้อฝากคนรัก จากนั้นเดินเลียบคลองบางกอกน้อยไปต่อไม่ไกลจะเจอ โรงงานขันลงหิน เจียม แสงสัจจา บ้านหลังสุดท้ายที่ยังสืบสานวิชาการทำขันลงหิน เครื่องใช้อย่างหนึ่งที่มีความประณีต ทำจากมือทุกขั้นตอน และมีคุณค่ามากกว่ามูลค่า โดยนักท่องเที่ยวสามารถขออนุญาตเข้าไปชมขั้นตอนการทำได้ ในบ้านจะแบ่งเป็นขั้นๆ พร้อมช่างฝีมือตัวจริง จากนั้นเดินต่อไม่กี่ก้าวจะพบกับบ้านผลิตเครื่องใช้สเตนเลส บ้านบุ คอลเลกชั่นสเตนเลส ที่ยังคงความดั้งเดิมกับทำลายผิวด้วยค้อน นับเป็นบ้านหลังสุดท้ายของการชมบ้านนักฝีมือ ก่อนจะเดินไปตามตรอก ผ่านบ้าน ผ่านคน ผ่านหมา ผ่านคนชรา และเส้นทางจะทะลุไปยัง โรงรถจักรธนบุรี ด้วยตัวมันเอง โรงรถจักรธนบุรีเป็นที่จัดเก็บและจัดซ่อมรถไฟทั้งรถจักรดีเซลและรถจักรไอน้ำ ปัจจุบันยังคงเปิดใช้งานอยู่และเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเก็บภาพรถไฟโบราณ รวมทั้งยังสามารถขออนุญาตเจ้าหน้าที่ขึ้นไปถ่ายภาพในรถไฟได้ด้วย

จากเช้าจรดบ่ายสามารถใช้เวลาทั้งหมดไปกับชุมชนเล็กๆ แห่งนี้ ที่นี่คนยังน่ารักใจดีเหมือนคนชนบท บ้านเรือนยังเป็นไม้สองชั้นแบบเรือนริมน้ำโบราณ ผู้คนยังยึดอาชีพตามบรรพบุรษที่สืบทอดกันมา ถึงแม้ว่ายุครุ่งเรืองทางการค้าจะเหลือแค่ร่องรอย แต่ชาวบ้านยังคงคอยรักษาวัฒนธรรมของบ้านบุไว้ไม่ให้สูญหาย อันเป็นเสน่ห์ชุมชนที่พบได้เพียงที่เดียวเท่านั้น

 

Leave a comment