ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
25 ธันวาคม 2558 เวลา 16:17 น….. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/travel/restaurant/406831

โดย…เมธี เมืองแก้ว
“หม้อข้าวหม้อแกงลิง” เป็นไม้เลื้อยมีระบบรากที่ตื้นและสั้นสามารถสูงได้หลายเมตร ลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร หรืออาจหนากว่านั้นในบางชนิด ก้านใบที่มีลักษณะยาว ใช้เป็นมือจับยึดเกี่ยว ก่อนแปรสภาพมาเป็นหม้อ โดยเริ่มแรกจะมีขนาดเล็กและค่อยๆ โตขึ้นอย่างช้าๆ จนกลายเป็นกับดักทรงกลม หรือกรวย ซึ่งสามารถพบได้ทั่วประเทศ และ 1 ในแหล่งใหญ่สำหรับการอนุรักษ์พันธุ์ “หม้อข้าวหม้อแกงลิง” ของภาคใต้ อยู่ภายในสวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง
เนื่องจากในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าทุ่งค่าย หมู่ที่ 2 3 และ 9 ต.ทุ่งค่าย มีสภาพเป็นป่าดิบชื้น และป่าพรุ ทำให้ “หม้อข้าวหม้อแกงลิง” ขึ้นอยู่กระจายทั่วไปเป็นหย่อมๆ ในเนื้อที่ 2,600 ไร่ นับเป็นแหล่งเดียวที่ยังคงหลงเหลืออยู่ของ จ.ตรัง ขณะที่พื้นที่อื่นๆ ได้ถูกทำลายสูญพันธุ์ไปเกือบหมดแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแห่งนี้ จึงมีทั้งนักวิชาการและนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้ความสนใจและเดินทางมายังสวนพฤกษศาสตร์ฯ เพื่อศึกษาและชมความงดงามของหม้อข้าวหม้อแกงลิง

นอกจากชาว ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จะช่วยกันอนุรักษ์ “หม้อข้าวหม้อแกงลิง” ทั้งภายในสวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย และบริเวณพื้นที่สาธารณประโยชน์แล้ว ยังพยายามสืบทอดขนมไทยภูมิปัญญาพื้นบ้านของภาคใต้อย่าง “ข้าวเหนียวหม้อแกงลิง” ซึ่งขณะนี้เริ่มหาซื้อกินตามท้องตลาดได้ยาก เพราะมีคนทำน้อย ขณะเดียวกันหม้อข้าวหม้อแกงลิงก็หาได้ยากมากขึ้น เนื่องจากมีจำนวนลดลงมากตามธรรมชาติ จากการที่มีผู้คนลักลอบเข้าไปเก็บต้นเพื่อนำไปจำหน่ายเป็นไม้ประดับ
วิธีการทำ “ข้าวเหนียวหม้อแกงลิง” ไม่ต่างไปจากการทำข้าวต้มมัด โดยมีข้าวเหนียวกับกะทิเป็นหลัก ซึ่งแรกเริ่มก็ต้องเข้าไปเก็บกรวยของต้นและเลือกอันที่อวบงามน่ากิน ก่อนนำมาตัดแต่งให้ดูสวยงามและล้างให้สะอาด โดยเฉพาะภายในกรวยและต้องล้างแบบเบาๆ มิเช่นนั้นกรวยอันบอบบางอาจจะปริแตกได้ง่าย จากนั้นจึงนำข้าวเหนียวมาแช่น้ำเอาไว้ประมาณ 15 นาที แล้วทิ้งให้หมาดก่อนที่จะนำไปกรอกใส่ให้ได้ประมาณครึ่งกรวย แล้วหยอดกะทิที่มีส่วนผสมของเกลือป่น และน้ำตาลทรายพอประมาณ

หลังจากนั้นนำกรวยมาเรียงใส่ถาด แล้วนึ่งประมาณ 20 นาที จนสุกดีก็จะได้ “ข้าวเหนียวหม้อแกงลิง” ที่เห็นหัวกะทิมันย่องลอยอยู่ตรงปากหม้อ ซึ่งสามารถกัดกินได้เลย ทั้งส่วนตัวกรวยและข้าวเหนียวภายใน ยกเว้นกรวยที่แก่มาก อาจต้องลอกเปลือกออก แล้วทานเฉพาะข้าวเหนียว สำหรับข้าวเหนียว 1 กิโลกรัม จะสามารถทำ “ข้าวเหนียวหม้อแกงลิง” ได้ประมาณ 120 ลูก ปัจจุบันยังคงมีขายในตลาดนัด ต.ทุ่งค่าย และตลาดบางแห่งของ จ.ตรัง ราคา 7 ลูก 10 บาท ซึ่งถือว่าถูกมาก เมื่อเทียบกับขั้นตอนการผลิต
แอด มืดมาก อายุ 65 ปี ชาวบ้านเขาไม้แก้ว ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว บอกว่า ทำอาชีพนี้มาถึง 15 ปีแล้ว และตั้งใจจะทำต่อไปจนหมดเรี่ยวแรง เพราะเป็นขนมไทยภูมิปัญญาพื้นบ้านที่หาทานได้ยาก และกว่าจะทำออกมาขายได้ต้องใช้ระยะเวลานานนับตั้งแต่การไปหาหม้อ หรือกรวยในป่า ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกงูกัด แล้วต้องมาทำความสะอาดอย่างพิถีพิถัน เพื่อล้างแมลงที่อาจหลงเหลืออยู่ในกรวยออกไปให้หมด
จากนั้นต้องมาเตรียมข้าวเหนียวและกะทิ ซึ่งจะเน้นมะพร้าวที่คั้นแบบสดๆ เพื่อให้รสชาติออกมาหอมหวานมันที่สุด ดีที่การนึ่งเดี๋ยวนี้หันมาใช้หม้อไฟฟ้า ทำให้เกิดความสะดวก อย่างไรก็ตาม ด้วยอายุที่มากขึ้นจึงยังทำขายได้แค่อาทิตย์ละ 1 ครั้ง เฉพาะวันพฤหัสบดีประมาณครั้งละ 7 กิโลกรัม หรือมีรายได้ครั้งละประมาณ 1,200 บาท ยกเว้นในงานศพที่มีการสั่งล่วงหน้า ซึ่งอาจทำได้ถึงครั้งละ 10 กิโลกรัม