ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
14 มีนาคม 2559 เวลา 10:00 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/life/life/421320

โดย…พริบพันดาว ภาพ…คลังภาพโพสต์ทูเดย์, เอพี, เอเอฟพี
ฤดูร้อนครั้งใดก็ต้องเจอปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก ความเป็นเมืองหรือวิถีเมืองจะถูกข้อครหาว่า มีการใช้น้ำอย่างฟุ่มเฟือย จากสถิติพฤติกรรมการใช้น้ำของคนในเมืองคือ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล (กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ) ใช้น้ำกันไปเดือนละ 157-161 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งคนกรุงเทพฯ ใช้น้ำเฉลี่ยวันละ 200 ลิตร มากกว่าคนต่างจังหวัด หรือคนชนบท ใช้น้ำเพียงวันละ 50 ลิตร ถึง 4 เท่า
ปัจจุบันและหลายปีที่ผ่านมา การรณรงค์จากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการที่จะปลุกจิตสำนึกให้คนเมืองมีการใช้น้ำอย่างประหยัดก็ได้ผลขึ้นเรื่อยๆ ไม่จำเพาะแค่หน้าร้อนที่มีภัยแล้ง แต่คนกรุงเทพฯ และปริมณฑลก็พยายามใช้น้ำอย่างมีคุณค่ามากที่สุดอย่างต่อเนื่อง และยิ่งเห็นได้ชัดเมื่อเกิดวิกฤตภัยแล้งที่สร้างความเดือดร้อนให้ภาคเกษตรกรรมในต่างจังหวัด คนเมืองก็มีความตื่นตัวที่จะร่วมด้วยช่วยกัน ไม่รอคอยจนภัยแล้งมาถึงตัว จึงค่อยรณรงค์ประหยัดน้ำ
ประหยัดน้ำดีเด่นแนวทางการประปานครหลวง
การประปานครหลวง (กปน.) มีโครงการ “ช่วยราษฎร์ ช่วยรัฐ ช่วยประหยัดน้ำประปา” สำหรับผู้ใช้น้ำที่ประหยัดน้ำได้มากกว่า 10% และไม่ต่ำกว่า 5 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) โดยจะให้รางวัลเป็นส่วนลดค่าน้ำจำนวน 100 บาท (ขนาดมาตรไม่เกิน 1 นิ้ว) และจำนวน 200 บาท (ขนาดมาตร 1 ½ นิ้ว ขึ้นไป)
ในปี 2558 ที่ผ่านมา มีผู้ใช้น้ำให้ความร่วมมือประหยัดน้ำได้ตามเกณฑ์เป็นจำนวนถึง 428,819 ราย คิดเป็นเงินรางวัลรวมทั้งสิ้น 43,731,000 บาท และปริมาณน้ำที่ใช้ลดลงรวม 8,965,230 ลบ.ม. ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีในการประหยัดน้ำของคนกรุงเทพฯ

นอกจากนี้ กปน.ยังมีการแจกโล่รางวัลให้หน่วยงานราชการ องค์กร บริษัท ห้างร้านต่างๆ ที่ประหยัดน้ำได้ถึงเกณฑ์ที่วางไว้ โดยในปี 2558 มีผลดังนี้ ประเภทอุตสาหกรรม 1.บริษัท คาราบาวตะวันแดง ลดการใช้น้ำลง 22.44% หรือ 4,778 ลบ.ม. ด้วยการนำน้ำในระบบการผลิต ปริมาณ 40% มารีไซเคิลเพื่อใช้ในการล้างขวด 2.บริษัท กระดาษสหไทย ลดการใช้น้ำลง 19.02% หรือ 6,844 ลบ.ม. โดยการนำน้ำในระบบการผลิตปริมาณ 60% มารีไซเคิลและใช้น้ำบาดาลร่วมด้วย 3.บริษัท ยูแทคไทย ลดการใช้น้ำลง 16.41% หรือ 9,838 ลบ.ม. ประหยัดน้ำโดยการนำน้ำในระบบการผลิตมารีไซเคิลมีการตรวจสอบการรั่วไหลและปรับลดแรงดันในส่วนพื้นที่ที่ไม่จำเป็น 4.บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) ลดการใช้น้ำลง 15.86% หรือ 15,511 ลบ.ม. โดยการใช้อุปกรณ์ก๊อกประหยัดน้ำ นำน้ำจากกระบวนการผลิตที่ยังสะอาดมารีไซเคิลใช้ล้างรถ ล้างกล่องใส่ไก่ที่เปื้อนสกปรก และ 5.บริษัท พัฒนาผ้าไทย ลดการใช้น้ำลง 15.06% หรือ 8,892 ลบ.ม. ประหยัดน้ำโดยการนำน้ำในระบบการผลิตปริมาณ 1,000 ลบ.ม. มารีไซเคิลและใช้น้ำบาดาลร่วมด้วย
ประเภทโรงแรม ภัตตาคาร และสถานบันเทิง 1.โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ ลดการใช้น้ำลง 15% หรือ 3,997 ลบ.ม. ด้วยการการรณรงค์ให้พนักงานประหยัดน้ำโดยปิดป้ายประกาศตามจุดต่างๆ และได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยนเรศวรในการศึกษาวิจัยการประหยัดน้ำในองค์กร 2.สวิสโฮเต็ล ปาร์ค นายเลิศ กรุงเทพฯ ลดการใช้น้ำลง 13.73% หรือ 2,550 ลบ.ม. โดยการจัดอบรมเรื่องการประหยัดน้ำแต่ละแผนก นำน้ำใช้แล้วมารดต้นไม้ มีการซ่อมบำรุงระบบคูลลิ่ง ทาวเวอร์ และอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพ รวมถึงตรวจสอบและเร่งแก้ไขรอยรั่วซึม 3.บริษัท เดอะมอลล์ บางกะปิ คอมเพล็กซ์ ลดการใช้น้ำลง 11.70% หรือ 2,511 ลบ.ม. ประหยัดน้ำโดยการมีมาตรการประหยัดน้ำควบคุมโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ 4.บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป (เดอะมอลล์ บางแค) ลดการใช้น้ำลง 11.21% หรือ 3,823 ลบ.ม. ประหยัดน้ำโดยการนำน้ำที่ใช้แล้วในระบบกลับมารีไซเคิลอีกครั้ง และ 5.บริษัท เดอะมอลล์ ชอปปิ้ง คอมเพล็กซ์ (เดอะมอลล์ ท่าพระ) ลดการใช้น้ำลง 10.63% หรือ 2,907 ลบ.ม. โดยการตรวจสอบยอดน้ำทุกวัน ติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดน้ำทุกจุด และกำหนดมาตรการประหยัดน้ำ โดยมอบหมายเจ้าหน้าที่ให้ควบคุมในแต่ละจุดการใช้น้ำ
ประเภทสถานศึกษา 1.โรงเรียนท่าอิฐศึกษา ลดการใช้น้ำลง 23.96% หรือ 1,246 ลบ.ม. ด้วยการรณรงค์ให้เด็กนักเรียนร่วมกันประหยัดน้ำและเปลี่ยนมาใช้ก๊อกประหยัดน้ำ 2.อิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ลดการใช้น้ำลง 23.77% หรือ 358 ลบ.ม. โดยการเปลี่ยนมาใช้ก๊อกประหยัดน้ำ ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก กปน. โดยโครงการช่างประปาเพื่อประชาชนช่วยเปลี่ยนก๊อกให้กับทางโรงเรียน 3.มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ลดการใช้น้ำลง 20.95% หรือ 1,225 ลบ.ม. โดยการรณรงค์ประหยัดน้ำนำน้ำที่ใช้แล้วมาบำบัดเติมอากาศ และรดน้ำต้นไม้โดยใช้น้ำในสระน้ำพุ เป็นต้น 4.วิทยาลัยเทคโนโลยี สหะพาณิชย์ บริหารธุรกิจ ลดการใช้น้ำลง 19.88% หรือ 353 ลบ.ม. โดยการจัดตั้งโครงการประหยัดน้ำประจำวิทยาลัย และ 5.วิทยาลัยพณิชยการเชตุพน ลดการใช้น้ำลง 19.61% หรือ 636 ลบ.ม. โดยเผยแพร่เอกสารประชาสัมพันธ์รณรงค์ประหยัดน้ำ ขอความร่วมมือจากครูและนักเรียน และมีการใช้สปริงเคลอร์รดน้ำต้นไม้เป็นเวลา

ประเภทหน่วยงานราชการ มีวิธีในการลดการใช้น้ำรูปแบบเดียวกัน คือการรณรงค์ให้ประหยัดการใช้น้ำตามจุดต่างๆ พร้อมทั้งซ่อมบำรุงระบบท่อในหน่วยงานใต้สังกัด 1.กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ลดการใช้น้ำลง 27.98% หรือ 6,154 ลบ.ม. 2.สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง ลดการใช้น้ำลง 17.26% หรือ 3,332 ลบ.ม. 3.กรมศิลปากร ลดการใช้น้ำลง 15.77% หรือ 2,749 ลบ.ม. 4.กรมช่างโยธาทหารอากาศ ลดการใช้น้ำลง 13.88% หรือ 39,369 ลบ.ม. และ 5.เรือนจำพิเศษธนบุรี ลดการใช้น้ำลง 10.01% หรือ 3,435 ลบ.ม.
หนึ่งในองค์กรประเภทสถานศึกษาที่ได้รับรางวัล วิโรจน์ จันทรมณี รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากร วิทยาลัยพณิชยการเชตุพน บอกว่า ทางวิทยาลัยฯ ก็มีการรณรงค์ตามนโยบายของภาครัฐอยู่แล้ว ซึ่งต้องการให้ประหยัดพลังงานในทุกเรื่องให้ได้ 10%
“ปกติแล้วที่วิทยาลัยก็มีอุปกรณ์ชำรุด ซึ่งทำให้น้ำรั่วไหลออกไปโดยเปล่าประโยชน์ ก็ทำการตรวจซ่อมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงก๊อกน้ำ วาล์วน้ำ ท่อน้ำทั้งหมด ทุกจุดที่น้ำเกิดการรั่วไหลได้ บางทีเด็กนักเรียนใช้แล้วลืมปิดหรือปิดไม่สนิท ก็มีการเปลี่ยนจากก๊อกหมุนธรรมดาเป็นก๊อกที่เปิดปิดอัตโนมัติ ซึ่งทำให้เราลดการสูญเสียน้ำโดยเปล่าประโยชน์ แล้วให้ฝ่ายอาคารต่างๆ ดูแลจุดรั่วต่างๆ ของท่อน้ำ ก๊อกน้ำ อย่างเข้มงวด มีการควบคุมแก้ไขและรายงานผลการตรวจสอบเป็นระยะ ผมคิดว่าจากการดำเนินการตรงนั้นก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายเรื่องค่าน้ำประปาลงไป”
สำหรับเด็กนักเรียนนักศึกษา วิโรจน์ ก็ชี้ว่าให้พวกเขาได้มีส่วนร่วมรับผิดชอบ สร้างความตระหนักและสร้างจิตสำนึกในเรื่องการรณรงค์ประหยัดน้ำ แล้วนำนิสัยเหล่านี้กลับไปใช้ที่บ้านด้วย
“ที่ผ่านมาวิทยาลัยก็สามารถประหยัดหรือลดค่าน้ำจากการใช้น้ำลงไปถึงกว่า 10% ก็น่าพอใจพอสมควร การลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ถือเป็นการประหยัดงบประมาณของวิทยาลัย และต้องทำอย่างต่อเนื่อง ทำอย่างไรให้ลดการใช้น้ำลงให้มากที่สุด ก็ทราบดีกันอยู่แล้วถึงวิกฤตขาดน้ำจากภัยแล้ง เราก็แจ้งเด็กตลอดในเรื่องการประหยัดน้ำ โดยเฉพาะการอยู่ในเมืองหลวง ซึ่งเดือดร้อนน้อยหรือช้ากว่าคน
ต่างจังหวัด ซึ่งต้องใช้น้ำในภาคเกษตร รวมถึงน้ำกินน้ำใช้ที่ขาดแคลน เขาเดือดร้อนกว่าคนกรุงเทพฯ เยอะเลย เพราะฉะนั้นคนอยู่ในกรุงเทพฯ ที่สบายกว่าก็ต้องร่วมกันประหยัดน้ำในทุกเรื่อง มีจิตสำนึกที่จะต้องช่วยกันให้มากๆ”

กฎเหล็กและวิธีประหยัดน้ำแบบคนเมือง
กิจกรรมรวมพลังงานหาร 2 กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ซึ่งทำโครงการประหยัดน้ำมาอย่างต่อเนื่องหลายสิบปีให้ข้อมูลเชิงประจักษ์ว่า ถ้าคนกรุงเทพฯ ใช้น้ำลดลงได้เหลือ 70 ลิตร/วัน กรุงเทพฯ เพียงเมืองเดียว ซึ่งมีประชากรจำนวนประมาณ 10 ล้านคน ก็จะประหยัดน้ำได้วันละ 1,300 ล้านลิตร ซึ่งก็มีวีธีประหยัดน้ำง่ายๆ ในวิถีชีวิตประจำวัน ดังนี้
สุขภัณฑ์รุ่นเก่าเมื่อเราชักโครกจะใช้น้ำมากถึง 20 ลิตร/ครั้ง แต่สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำจะใช้น้ำเพียง 6 ลิตร/ครั้ง ซึ่งการใช้สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำจะสามารถประหยัดน้ำได้มากกว่าสุขภัณฑ์แบบเก่าประมาณ 3 เท่า
การติดตั้งอุปกรณ์เติมอากาศที่ก๊อกน้ำ จะช่วยเติมโอกาสในน้ำให้มีปริมาณมากแต่ใช้น้ำน้อย จะช่วยลดปริมาณการใช้น้ำได้ร้อยละ 40-60
ชนิดของผงซักฟอกสามารถประหยัดน้ำในการซักผ้าได้ ควรเลือกใช้ผงซักฟอกที่เหมาะสม เพราะผงซักฟอกชนิดที่ใช้กับเครื่องซักผ้าจะมีฟองน้อย ซึ่งจะลดความเสียหายให้กับตัวเครื่อง และหากใช้
ผงซักฟอกที่มีฟองมากอาจต้องสิ้นเปลืองน้ำในการซักเพิ่มขึ้น
ควรรดน้ำต้นไม้ในช่วงเช้าหรือเย็น ไม่ควรรดน้ำต้นไม้ในช่วงที่มีแดดจัดๆ เพราะจะทำให้เสียน้ำไปโดยเปล่าประโยชน์ ต้นไม้จะได้น้ำน้อยลง
ก๊อกน้ำประเทศไทยมีอัตราการไหลของน้ำเฉลี่ย 9 ลิตรต่อ 1 นาที ถ้าแปรงฟันคนละ 3 นาที เปิดก๊อกเต็มที่กว่าจะแปรงฟันเสร็จ เราจะใช้น้ำถึง 27 ลิตร ซึ่งเป็นปริมาณเท่ากับน้ำอัดลมกระป๋อง 83 กระป๋อง จึงควรปิดน้ำขณะแปรงฟัน
หากเปิดก๊อกน้ำทิ้งขณะล้างจานอาจเสียน้ำมากถึง 130 ลิตร น้ำจำนวนนี้สามารถใช้ประโยชน์ในการล้างรถได้ 1 คัน
สำหรับ 18 วิธีการประหยัดน้ำแบบปัจเจกบุคคลจากคำแนะนำของสำนักงานวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน (สพช.) และสามารถนำไปปฏิบัติได้ทันทีมีดังนี้
1.ใช้น้ำอย่างประหยัด หมั่นตรวจสอบการรั่วไหลของน้ำ เพื่อลดการสูญเสียน้ำอย่างเปล่าประโยชน์
2.ไม่ควรปล่อยให้น้ำไหลตลอดเวลาตอนล้างหน้า แปรงฟัน โกนหนวด และถูสบู่ตอนอาบน้ำ เพราะจะสูญเสียน้ำไปโดยเปล่าประโยชน์นาทีละหลายๆ ลิตร
3.ใช้สบู่เหลวแทนสบู่ก้อนเวลาล้างมือ เพราะการใช้สบู่ก้อนล้างมือจะใช้เวลามากกว่าการใช้สบู่เหลว และการใช้สบู่เหลวที่ไม่เข้มข้นจะใช้น้ำน้อยกว่าการล้างมือด้วยสบู่เหลวเข้มข้น

4.ซักผ้าด้วยมือ ควรรองน้ำใส่กะละมังแค่พอใช้ อย่าเปิดน้ำไหลทิ้งไว้ตลอดเวลาซัก เพราะสิ้นเปลืองกว่าการซักโดยวิธีการขังน้ำไว้ในกะละมัง
5.ใช้สปริงเคลอร์หรือฝักบัวรดน้ำต้นไม้แทนการฉีดน้ำด้วยสายยางจะประหยัดน้ำได้มากกว่า
6.ไม่ควรใช้สายยางและเปิดน้ำไหลตลอดเวลาในขณะที่ล้างรถ เพราะจะใช้น้ำมากถึง 400 ลิตร แต่ถ้าล้างด้วยน้ำและฟองน้ำในกระป๋องหรือภาชนะบรรจุน้ำ จะลดการใช้น้ำได้มากถึง 300 ลิตร ต่อการล้างหนึ่งครั้ง
7.ไม่ควรล้างรถบ่อยครั้งจนเกินไป เพราะนอกจากจะมีความสิ้นเปลืองน้ำแล้ว ยังทำให้เกิดสนิมที่ตัวถังได้ด้วย
8.ตรวจสอบท่อน้ำรั่วภายในบ้าน ด้วยการปิดก๊อกน้ำทุกตัวภายในบ้าน หลังจากที่ทุกคนเข้านอน หรือเวลาที่แน่ใจว่า ไม่มีใครใช้น้ำระยะหนึ่ง จดหมายเลขวัดน้ำไว้ ถ้าตอนเช้ามาตรเคลื่อนที่โดยที่ยังไม่มีใครเปิดน้ำใช้ ก็เรียกช่างมาตรวจซ่อมได้เลย)
9.ควรล้างพืชผักและผลไม้ในอ่างหรือภาชนะที่มีการกักเก็บน้ำไว้เพียงพอ เพราะการล้างด้วยน้ำที่ไหลจากก๊อกน้ำโดยตรง จะใช้น้ำมากกว่าการล้างด้วยน้ำที่บรรจุไว้ในภาชนะถึงร้อยละ 50
10.ตรวจสอบชักโครกว่ามีจุดรั่วซึมหรือไม่ ให้ลองหยดสีผสมอาหารลงในถังพักน้ำ แล้วสังเกตดูที่คอห่าน หากมีน้ำสีลงมาโดยที่ไม่ได้กดชักโครกให้รีบจัดการซ่อมได้เลย
11.ไม่ใช้ชักโครกเป็นที่ทิ้งเศษอาหาร กระดาษ สารเคมีทุกชนิด เพราะจะทำให้สูญเสียน้ำจากการชักโครกเพื่อไล่สิ่งของลงท่อ
12.ใช้อุปกรณ์ประหยัดน้ำ เช่น ชักโครก ฝักบัว ก๊อก และหัวฉีดประหยัดน้ำ เป็นต้น
13.ติดอุปกรณ์เติมอากาศที่หัวก๊อก เพื่อช่วยเพิ่มอากาศให้แก่น้ำที่ไหลออกจากหัวก๊อก ลดปริมาณการไหลของน้ำเพื่อช่วยประหยัดน้ำ
14.ไม่ควรรดน้ำต้นไม้ตอนแดดจัดเพราะน้ำจะระเหยหมดไปเปล่าๆ ให้รดตอนเช้าที่อากาศยังเย็นอยู่ การระเหยจะต่ำกว่า ช่วยให้ประหยัดน้ำ
15.อย่าทิ้งน้ำดื่มที่เหลือในแก้วโดยไม่เกิดประโยชน์อันใด ใช้รดน้ำต้นไม้ ใช้ชำระพื้นผิว ใช้ชำระความสะอาดสิ่งต่างๆ ได้อีกมาก
16.ควรใช้เหยือกน้ำกับแก้วเปล่าในการบริการน้ำดื่ม รวมถึงให้ผู้ที่ต้องการดื่มรินน้ำดื่มเอง และควรดื่มให้หมดทุกครั้ง
17.ล้างจานในภาชนะที่ขังน้ำไว้ จะประหยัดน้ำได้มากกว่าการล้างจานด้วยวิธีที่ปล่อยให้น้ำไหลจากก๊อกน้ำตลอดเวลา
18.ติดตั้งระบบน้ำให้สามารถใช้ประโยชน์จากการเก็บและจ่ายน้ำตามแรงโน้มถ่วงของโลก เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้พลังงานไปสูบและจ่ายน้ำภายในอาคาร