ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
15 พฤษภาคม 2559 เวลา 08:46 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/life/life/432028

โดย…ภาดนุ ภาพ : กิจจา อภิชนรจเรข
ไม่มีใครสามารถหยั่งรู้ล่วงหน้าได้ ว่าวันหนึ่งจะมีเรื่องร้ายๆ อะไรเกิดขึ้นกับตัวเองบ้าง ช้อป-สุวิชัย บัวงาม นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะนิเทศศาสตร์ สาขาวารสารศาสตร์มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่เคยคาดคิดเลยว่า การอยู่ผิดที่ผิดเวลาจะนำเรื่องเลวร้ายมาสู่ตัวเขาจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
ชีวิตประจำวันของช้อปก็ปกติธรรมดาเหมือนวัยรุ่นวัยเรียนทั่วไป เป็นคนเฟรนด์ลี่ชอบเข้าสังคม เขาจึงมีเพื่อนเยอะเป็นธรรมดาช้อปยอมรับว่ากลุ่มเพื่อนเป็นเด็กที่เซี้ยวๆหน่อย แต่ก็ไม่เคยทำตัวเกเรยกพวกตีกับใครสักที แต่เมื่อถึงคราวเคราะห์ร้าย ก็ทำให้เขาเกือบตายเพราะถูกกลุ่มโจรรุมทำร้ายทั้งฟันทั้งแทงจนอาการสาหัส!!
“แม้นิสัยส่วนตัวผมจะกวนๆ แต่ก็ไม่ชอบมีเรื่องกับใคร ผมมีเพื่อนเยอะ แต่นานๆ ทีกลุ่มเราจะชวนกันกินเหล้าสักครั้ง แถวบ้านบ้าง ไกลบ้านบ้าง เรียกว่าเป็นแก๊งเด็กเฮ้วที่ชอบสังสรรค์กันมากกว่า ในวันเกิดเหตุ พี่ชายผม (แชมป์) นัดกับผมว่าเดี๋ยวพอเขาเลิกงานผมเลิกเรียนแล้ว ตอนเย็นพวกเราจะกลับมาดื่มเบียร์ที่บ้านกัน เดี๋ยวเขาเลี้ยงเอง

พอถึงบ้านเพื่อนผมก็โทรมาหา แล้วชวนว่าวันนี้เขาจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปหาแฟนที่งานกาชาดแถวบางใหญ่ อยากให้ไปด้วยกัน เรานัดกันตอนสองทุ่ม ระหว่างนั้นผมกับพี่ชายก็ดื่มเบียร์กันไปบ้างแล้ว พอพี่ชายรู้ว่าผมจะไปกับเพื่อนก็บอกว่า งั้นจะเก็บเบียร์ไว้ให้สองขวดนะ แล้วผมก็ออกไปกับเพื่อนตอนสองทุ่มกว่าๆ แต่ระหว่างทางเพื่อนรุ่นน้องในกลุ่มก็โทรมาชวนให้แวะไปกินเหล้าที่ร้านหน้าหมู่บ้านก่อนแล้วค่อยไป”
ช้อปเล่าว่า พอสี่ทุ่มเขากับเพื่อนที่มารับและเพื่อนรุ่นน้องอีก 4 คน ก็ตกลงกันว่าจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวที่บางใหญ่กัน หลังจากไปถึงงานพอเดินเล่นกันได้สักพัก ห้าทุ่มพวกเขาก็กลับมานั่งที่ร้านเดิมหน้าหมู่บ้านอีกครั้งจนตีหนึ่งก็คิดว่าจะแยกย้ายกันกลับ
“ผมยอมรับว่าช่วงนั้นพวกเราก็กรึ่มๆ อยู่เหมือนกัน แต่ไม่ได้เมามาก ยังมีสติกันดีทุกคน พอจะแยกกลับจริงๆ ก็มีเพื่อนในกลุ่มชวนว่า พวกเราน่าจะไปขี่มอเตอร์ไซค์เล่นกันที่ถนนเส้นซอยวัดลาดปลาดุก เราจึงไปกันทั้งหมด คัน 6 คน ผมก็ซ้อนท้ายเพื่อนที่มารับเหมือนเดิม ด้วยอารมณ์และจุดประสงค์ในตอนนั้นพวกเราแค่ต้องการไปขี่มอเตอร์ไซค์เพื่อล่าท้าผีกันเล่นๆ ซะมากกว่า เพราะถนนเส้นนี้ขึ้นชื่อว่ามีคนโดนผีหลอกบ่อยมาก แล้วยังมีช่วงที่เปลี่ยว ซึ่งมีศาลเพียงตาตั้งเรียงรายมากมาย”

ช้อปบอกว่า ก่อนที่จะขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาล่าท้าผีกันมอเตอร์ไซค์คันที่เขานั่งมาก็หวิดโดนรถกระบะเฉี่ยวซะแล้ว สาเหตุเพราะเพื่อน (คนขี่)มาถึงถนนใหญ่แล้วเห็นว่าถนนโล่ง ทำให้ไม่ทันสังเกตว่ามีรถกระบะเลี้ยวมาพอดี แต่ยังเบรกได้ทันซึ่งน่าจะเป็น ลางบอกเหตุว่า คืนนั้นจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น แต่ยามนั้นเขากลับไม่ได้ใส่ใจ
“พวกเราขี่มอเตอร์ไซค์มาเรื่อยๆ โดยคันผมนำหน้า อีกสองคันตามหลังมา สักพักเพื่อนที่ขี่มอเตอร์ไซค์รุ่นทีซีเอ็กซ์และอีกคันก็ขับแซงไป ผมยังแปลกใจว่าทำไมพวกเขาขับเร็วจังมารู้ทีหลังว่าเพื่อนทั้งสองคันโดนโจรไล่จี้จะปล้นเอาทีซีเอ็กซ์ แต่กว่าผมจะเฉลียวใจก็มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งเลี้ยวมาปาดหน้าผมกับเพื่อน อีกคันมาประกบข้าง และอีกคันประกบหลัง จนเราต้องเบรกจอด
นาทีนั้นผมก็ตกใจ แต่เท่าที่สังเกตโจรเหล่านี้น่าจะอยู่ในวัย 18-19 ปี (แม้จะใส่ไอ้โม่งมา) แล้วโจรคนที่ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์คันแรกที่มาปาดหน้าพวกเราก็เอามีดมาจี้เพื่อนผมซึ่งเป็นคนขี่ แล้วบอกว่า ‘มีของมีค่าอะไรเอามาให้หมด’ เพื่อนผมก็เริ่มควักหาเงินในกระเป๋า มือถือ และสร้อยคอ ปากก็ขอร้องว่าอย่าเอามอเตอร์ไซค์คันนี้ไปเลยเพราะใช้ทำมาหากิน นาทีนั้นหางตาผมก็เหลือบไปเห็นว่าโจรที่ขี่มาประกบด้านข้างกำลังเงื้อมีดจะฟันที่แขนเพื่อนผม ผมจึงถีบโจรที่เงื้อมีดในทันที

คราวนี้โจรจากมอเตอร์ไซค์ ที่ด้านหลังผมคนหนึ่งก็กระชากผมลงจากรถ ผมก็เลยจับแขนโจรคนที่ถือมีดไว้แล้วต่อยไปสามหมัด ทีนี้แหละพวกโจร 7-8 คนก็มารุมสกรัมผมคนเดียวเลยทั้งมีดทั้งหมัดเทมาที่ผมคนเดียวเลยล่ะ”
ช้อปบอกว่า เขาโดนสารพัดมีดที่พวกโจรใช้ ทั้งมีดดาบ มีดสปาร์ต้า และอื่นๆ โดยถูกฟันที่หลัง 2 แผลเป็นรอยยาว แขนซ้าย 3 แผลแขนขวา 1 แผล และขาซ้าย 1 แผล ซึ่งนาทีนั้นยังไม่รู้สึกเจ็บ แต่พอโดนมีดฟันเสยหน้าผากเฉียงเป็นทางยาวอีก 1 แผล ซึ่งเป็นแผลที่ผิวหนังเปิดเกือบถึงกะโหลก แผลนี้เองที่ทำให้เขาเริ่มรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา แล้วพวกโจรยังแทงเข้าบริเวณลำตัวเขาอีก 2 แผล ซึ่งตอนนั้นบอกเลยว่าเขาอาการหนักสุด ส่วนเพื่อนซึ่งขี่มอเตอร์ไซค์ (ชื่อแบงก์) ที่มากับเขาถูกแทงที่หลัง 2 แผล แต่บาดเจ็บไม่มาก
เมื่อความเป็นและความตายมีค่าเท่ากัน
“หลังจากพวกโจรมันทำร้ายเราแล้ว มันก็รีบหนีไป คราวนี้เพื่อนผมสองคันที่ขี่มอเตอร์ไซค์แซงหนีไปก็รีบย้อนกลับมาดู มาถึงเพื่อนๆเหน็ ผมอาการหนักนอนฟุบอยู่บนตกั ของแบงก์ก็รีบโทรแจ้งรถป่อเต็กตึ๊ง พอมาถึงเจ้าหน้าที่ก็ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ตอนนั้นผมยังรู้สึกตัวเลยคลำดูที่กระเป๋ากางเกงจึงรู้ว่ามือถือยังอยู่ผมจึงบอกให้เพื่อนใช้มือถือโทรบอกพี่ชายผมสักพักผมก็รู้สึกวืบไป

มารู้สึกตัวอีกทีผมก็อยู่บนรถป่อเต็กตึ๊งซึ่งกำลังพาผมไปส่งที่โรงพยาบาลบางบัวทอง ไปถึงหมอก็ช่วยดูอาการเบื้องต้นและสันนิษฐานว่ามีดแทงโดนตับหรือปอดและกะโหลกร้าวแต่ทางโรงพยาบาลก็ไม่ได้รับไว้รักษา เจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ๊งจึงรีบพาผมไปส่งที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้านนทบุรี ระหว่างทางผมเริ่มหายใจไม่ออก แต่เพื่อนชื่อใหม่ที่มาด้วยก็คอยพูดกับผมว่า ‘ช้อป มึงอยู่กับกูก่อนๆ’ ตอนนั้นที่จำได้คือรู้สึกเจ็บหน้าอกมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการถูกแทงและเสียเลือด ผมจึงเริ่มวืดและเริ่มไม่รับรู้อะไร แต่ก็ยังได้ยินเสียงเพื่อนชื่อใหม่แว่วมาในจิตสำนึกตลอด”
ช้อปเล่าย้อนว่า ในนาทีนั้นเขารู้สึกว่าเวลาช่างผ่านไปเนิ่นนานเหลือเกินกว่าจะถึงโรงพยาบาล มารู้ตัวอีกทีก็อยู่บนรถเข็นเพื่อนำตัวไปยังห้องไอซียูแล้ว ผลปรากฏว่าเขาต้องโดนปั๊มหัวใจถึงสองรอบ เพราะความดันลดต่ำสุดเรียกว่าอาการหนักมากจนอาจตายได้ทุกเมื่อ
“นาทีนั้น จิตใต้สำนึกผมบอกเลยว่า ชีวิตหลังความตายนั้นมีจริง เพราะระหว่างที่ถูกปั๊มหัวใจ ผมเห็นใบหน้าของญาติๆ ที่ตายไปแล้วลอยเรียงรายมาเป็นแถว แต่สักพักก็เห็นใบหน้าของญาติพี่น้องที่ยังมีชีวิตอยู่ลอยมาให้เห็น เช่นกัน ผมจึงเข้าใจว่า นั่นคือ จิตใต้สำนึกของคนที่อยู่ระหว่างความเป็นกับความตายเท่าๆ กัน สักพักผมได้ยินเสียงพี่ชายผมเรียก แถมเขายังมาตีมือจนผมรู้สึกเจ็บอีกด้วย ดวงผมอาจยังไม่ถึงที่ตาย ผมจึงฟื้นกลับคืนสติมาได้ในที่สุด

แล้วมารู้สึกตัวว่าเจ็บอีกทีตอนที่หมอเย็บแผลที่หลัง ที่แขนสองข้าง และที่ขา แต่แผลที่ถูกแทงที่ลำตัวยังไม่ได้เย็บเนื่องจากเลือดยังไหลไม่หยุด และหมอต้องเช็กก่อนว่ามีดแทงถูกอวัยวะสำคัญหรือไม่ เดชะบุญที่มีดแทงสะกิดตับไปนิดนึง จึงไม่ต้องถึงกับผ่าตัด ส่วนแผลยาวที่ถูกฟันบริเวณหน้าผากนั้นก็ยังไม่ได้เย็บเช่นกัน เพราะหมอยังต้องเช็กก่อนว่าสมอง
โดนกระทบกระเทือนหรือไม่ จึงทำแผลไว้และมาเย็บแผลอีกวัน หลังจากนั้นเมื่อตรวจแล้วไม่เป็นอะไร แต่บอกเลยว่าตอนที่หมอฉีดยาชาเข็มใหญ่ก่อนเย็บแผลที่หน้าผาก มันเจ็บมากซะจนผมต้องจดจำไปอีกนาน เพราะตอนฉีดยาชานี่เจ็บปวดกว่าตอนที่เย็บแผลอีกครับ สรุปแล้วคือที่บริเวณศีรษะโดนเย็บแผลไปทั้งหมด 280 เข็มได้ เมื่อรวมกับแผลตามลำตัวด้วยก็น่าจะไม่น้อยกว่า 300 เข็ม”ช้อปบอกว่า เขานอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 7 วันเต็ม ระหว่างนั้นก็มีการให้น้ำเกลือและให้เลือดติดต่อกัน 2-3 วัน รวมทั้งให้ออกซิเจนและต่อสายดูดเลือดเสียออกจากร่างกายด้วย เรียกว่าสายระโยงระยางเต็มตัว ซึ่งหมอห้ามดื่มน้ำโดยเด็ดขาด พูดได้ว่าเป็นช่วงที่ทรมานที่สุดในชีวิตก็ว่าได้
ชีวิตหลังจากผ่านเรื่องร้ายๆ มาได้
ช้อปบอกว่า ชีวิตนี้ไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องร้ายๆ อย่างนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะถนนเส้นนี้ตั้งแต่เด็กจนโตเขาก็ผ่านไปผ่านมาหลายครั้งโดยไม่เกิดเหตุการณ์อะไร แม้จะมีข่าวการจี้ปล้นเป็นระยะๆ ก็ตาม
“เรื่องคดีในตอนนี้พี่ชายผมเป็นคนเดินเรื่องเห็นว่าเจ้าหน้าที่มีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดไว้แล้ว แต่กลุ่มคนร้ายใส่ไอ้โม่งคลุมหน้าไว้จึงต้องหาหลักฐานเพิ่มเพื่อดำเนินคดีกับคนพวกนี้ต่อไป หลังจากผ่านเรื่องร้ายนี้มา ผมก็ยังไปกับเพื่อนปกตินะ แต่พวกเราไม่เคยผ่านไปแถวถนนเส้นที่เกิดเหตุอีกเลย เวลาจะสังสรรค์กัน พ่อแม่ผมก็ให้ชวนเพื่อนมาดื่มที่บ้านหรือร้านหน้าหมู่บ้านเท่านั้น ไม่อยากให้ไปไหนไกลๆ
แถมเดี๋ยวนี้พี่ผมจะโทรตามตลอดว่าอยู่ไหน หลังสี่ทุ่มไป ถ้าผมยังไม่กล้าบ้านพ่อจะโทรตามตลอด อีกอย่างตอนนี้เวลาผมซ้อนมอเตอร์ไซค์เพื่อนไปไหนก็จะรู้สึกระแวงหลังอยู่เสมอ เหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นมันทำให้เราเป็นคนขี้ระแวงไปเลย ทุกวันนี้แผลที่โดนฟัน โดนแทงหายสนิทดีแล้วหลังผ่านมาหลายเดือน แต่มีสิ่งหนึ่งคือดวงตาข้างขวาของผมที่โดนมีดฟันหน้าผากแล้วแฉลบมาเข้าตาขาว (โชคดีว่าไม่ถูกตาดำ) ทำให้ตาข้างขวาจะมัวๆ นิดหน่อยเวลาโดนแสงจ้า แต่ก็ยังมองเห็นได้ดีครับ อ้อ! แล้วก็มีเจ็บหน้าอกบ้าง ถ้านั่งมอเตอร์ไซค์แล้วรถเกิดกระแทก นอกนั้นก็ปกติดีครับ”
ช้อปทิ้งท้ายว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น เขาจะเชื่อคำที่พ่อแม่หรือพวกผู้ใหญ่คอยบอกคอยเตือนอยู่เสมอว่ายามกลางค่ำกลางคืนไปไหนมาไหนให้ระวังตัว ซึ่งคำเตือนเหล่านี้เขาเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่แน่ว่าวันดีคืนร้ายเกิดดวงตกขึ้นมา เรื่องไม่ดีเหล่านี้อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ที่ตั้งอยู่บนความประมาทและขาดความระมัดระวังตัว!!