จากรุ่นพี่รุ่นน้อง สู่เพื่อนร่วมงานสุดซี้

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

03 กันยายน 2559 เวลา 10:17 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/life/life/452335

จากรุ่นพี่รุ่นน้อง สู่เพื่อนร่วมงานสุดซี้

โดย…โยธิน อยู่จงดี ภาพ… ภัทรชัย ปรีชาพานิช

สองหนุ่ม โป๊ป-ฎีกา ผาธรรม ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “I love you ผู้ใหญ่บ้าน” และ เฟรม-ปรัชญ์ รุ่งศรีทองวัฒนา นายแบบโฆษณาและนักแสดงภาพยนตร์ที่โป๊ปกำกับ พวกเขาเป็นคู่ซี้รุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทสนมกันอย่างยาวนานกว่า 6 ปี เพราะต่างมีเคมีที่ตรงกันตั้งแต่แรกเห็น โป๊ป เคยเรียนเอกดนตรีสากล ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม แต่ออกตอนปี 3 ไปเรียนจบเอกสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยรามคำแหง ส่วน เฟรม เรียนจบนิเทศศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม แต่ไม่เคยได้เจอกันจนกระทั่งไปร่วมงานวันเกิดเพื่อนสนิทจึงได้รู้จักจนกลายเป็นก๊วนเดียวกัน และนำไปสู่การเป็นพี่น้องและเพื่อนร่วมงานที่รู้ใจกันมากที่สุด

ถูกชะตาตั้งแต่เจอกันครั้งแรก

โป๊ป ย้อนความหลังซึ่งยังจำได้ดีวันแรกที่เจอกันเราเจอกันในงานวันเกิดเพื่อนเมื่อ 6 ปีก่อน แต่ตอนเรียนที่จันทรเกษมไม่ได้เจอกันทั้งที่อยู่ห่างกันแค่อาคารห้องสมุดกั้น ในงานวันเกิดเพื่อนแนะนำน้องให้รู้จักพอเห็นครั้งแรกก็รู้สึกสะดุดตาเห็นแววว่าหล่อดีคิดว่าน่าจะได้ร่วมงานด้วยกันประกอบกับดูน้องเขาเป็นคนที่สุภาพนอบน้อม พูดจาไพเราะไม่หยาบคาย ก็ทำให้รู้สึกว่าน่าคบหาด้วย

“ตอนนั้นก็เริ่มคิดว่าถ้ามีงานก็น่าจะดึงน้องเข้ามาทำงานร่วมกันหลังจากนั้นก็ได้เจอกันบ่อยขึ้นร่วมงานกันมากขึ้น อาจจะเรียกได้ว่าเป็นพระเอกคู่บุญก็ว่าได้ เพราะตอนที่ผมทำเอ็มวีเพลงแรกก็นึกถึงน้องเขาก่อนเลยอยากให้เขามาเป็นพระเอกเอ็มวีแรกที่ทำ แต่เอ็มวีตัวที่ 2 เราเลือกใช้นักแสดงคนอื่นเพราะเดี๋ยวจะหาว่าดันน้องคนนี้มากเกินไป และพอเราได้มากำกับภาพยนตร์ก็เลยเลือกน้องคนนี้มาเป็นพระเอกภาพยนตร์ให้กับเราจะเรียกว่าเป็นพระเอกคู่บุญของผมก็ได้นะ(หัวเราะชอบใจ)”

พี่พูดถึงน้อง

“สิ่งที่เราประทับใจในตัวเฟรม ก็คือเขาเป็นคนที่มีวินัยดี มีความรับผิดชอบสูงถือเป็นจุดแข็งในการทำงานของเขาก็ว่าได้ อีกอย่างเขาเป็นคนที่เตรียมงานได้ดี เวลาที่เราโยนบทโยนงานไปเขาจะมีการทำการบ้าน ให้ความสนใจใส่ใจดี พอถึงเวลาแสดงงานเขาออกมาดีมากผมแทบจะไม่ต้องบอกเขาเลยว่าจะต้องทำอะไร เล่นได้เป็นธรรมชาติ เวลาผมอยากให้เขาปรับรูปแบบการแสดงเขาก็จะปรับได้อย่างที่ผมต้องการ

 

“เวลาทำงานกับเขา ผมจึงรู้สึกสบายใจมากที่ได้ร่วมงานกับน้องเขา ทำงานแล้วไม่เครียด บางทีเขาก็เสนอข้อคิดมาว่าเราเปลี่ยนมาเล่นแบบนี้ไหมพี่ผมจะทำแบบดีไหมจะได้รู้สึกเข้ากับอารมณ์ตัวละครมากขึ้น ผมรับฟังน้องแล้วก็รู้สึกว่าโอเคน้องเขาทำการบ้านมาดี เราก็ฟังและก็ใช้อย่างที่น้องเขาแนะนำ จากที่ผมรู้สึกว่างานเวลาออกกองเป็นเรื่องเครียดเลยกลับกลายเป็นเรื่องง่ายๆ ไปเลยเวลาที่ได้ทำงานกับน้องเขา ไม่ต้องกำกับอะไรให้ยุ่งยากอาจจะเป็นเพราะ เฟรมทำงานมาหลายอย่างเป็นพริตตี้บอย เป็นนายแบบ ถ่ายงานโฆษณาหลายตัว ซึ่งทำให้เขาเรียนรู้เรื่องการแสดง ระบบการทำงานจากการถ่ายโฆษณามาเยอะ เป็นการเรียนรู้จากการทำงานจริง

“ตั้งแต่รู้จักเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันมาผมไม่เคยต้องมานั่งปวดหัวกับเรื่องของเฟรมไม่เคยทะเลาะกันเลย แม้แต่ในวงงานสังสรรค์ก็ไม่เคยเพราะเฟรมเป็นคนที่ค่อนข้างสุภาพ นอบน้อม เวลาพี่น้องเดินเข้ามาเขาจะยกมือไหว้สวัสดีถ่อมตน ถ้ามีใครแรงใส่เขาจะไม่ตอบโต้ ใครแรงมาเขาก็เฉย จนเรานี่ละที่ต้องเป็นคนคอยปกป้องน้องใครแรงใส่น้องเราๆ จะปรามให้เบาๆ หน่อย  แต่ตัวเฟรมเองที่ไม่เคยมีปัญหาด้วยความนอบน้อมของเขาทำให้ความสัมพันธ์ของเราค่อนข้างดีอยู่ด้วยกันแล้วผมรู้สึกสบายใจ”

น้องเรียนรู้จากพี่

“ด้วยความที่ได้เจอกันบ่อย สังสรรค์กันบ่อยเราก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น ถ้าจะนับรุ่นพี่ที่ผมสนิทน่าจะเรียกได้ว่าผมสนิทกับพี่โป๊ปเขามากที่สุดแล้วครับ เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรมาผมไม่เคยไปนั่งสังสรรค์ปาร์ตี้เที่ยวบ่อยๆ ทำงานหรือเรียนเสร็จก็กลับห้องมีเที่ยวกับเพื่อนบ้าง แต่ตั้งแต่รู้จักพี่เขาผมว่าผมไปเที่ยวฉลองสังสรรค์กับพี่เขาบ่อยสุดแล้วครับ

“เวลาผมไปบ้านพี่โป๊ป ภาพที่เห็นประจำเลยก็คือ พี่เขาจะนั่งเขียนเพลงและมีสมาธิกับสิ่งที่ทำมาก จะไม่สนใจอย่างอื่นเลยจนกว่างานที่ทำจะสำเร็จ เรียกได้ว่าจริงจังมากที่สุด แต่เสร็จงานแล้วจะกลายเป็นอีกคนไปเลยดูจากโหมดเครียดกลายเป็นคนอินดี้สบายๆ ผมเลยเรียนรู้ในเรื่องความตั้งใจในการทำงานต้องทำให้ดีให้สำเร็จ สิ่งที่พี่แนะนำผมมาเสมอก็เรื่องเวลาอยู่ในวงการมันเป็นเรื่องมายา เมื่อเราสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ก็เราก็ต้องคงความเป็นตัวเราเอาไว้ตัวเราที่สุภาพนอบน้อมถ่อมตน ไม่ว่าใครจะพูดถึงเราในทางไหน แต่เราคิดดีไว้เราก็จะเติบโตในวงการไปได้ด้วยดี”

เมื่อน้องชมพี่ขนาดนี้ ผู้กำกับหนุ่มหล่อก็เอ่ยเสริมทิ้งท้ายขึ้นมาว่า “สิ่งที่เราเรียนรู้จากน้องเขาก็คือเรื่องวินัยและความรับผิดชอบที่ดี เพราะเขาเคยทำงานประจำหลายอย่างเวลาเขาจะเป๊ะมากไม่เคยพลาดเลย วินัยเขาสูงมาก เราก็ได้เรียนรู้จากน้องดูว่าเขาบริหารเวลาอย่างไร เวลาทำงานผมมักจะโฟกัสไปกับงานตัวเดียว แต่เฟรมเขาทำงานหลายอย่างและทำได้ดีหมด ผมว่านั่นคือสิ่งที่ผมจะต้องเรียนรู้จากเขา และเราคงได้เรียนรู้กันอย่างนี้ไปตลอด”

 

Leave a comment