สุดยอดศิลปหัตถกรรมสิ่งทอ อาเซียน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

30 สิงหาคม 2559 เวลา 11:54 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/life/life/451381

สุดยอดศิลปหัตถกรรมสิ่งทอ อาเซียน

โดย…พริบพันดาว

ความร่วมสมัยหรือคอนเทมโพรารี (Contemporary) นับว่าเป็นทางออกของงานช่างฝีมือหรือหัตถกรรมด้านสิ่งทอในการที่จะพัฒนาสู่ตลาดในยุคปัจจุบัน แทนที่จะเป็นของเก่าเก็บเชิงอนุรักษ์เพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นการต่อยอดงอกงามจากสิ่งทอดั้งเดิมที่สืบทอดมาแต่โบราณกาลให้มีชีวิตชีวาเดินคู่ไปกับสังคม และเป็นสินค้าในเชิงทุนวัฒนธรรมที่มีคุณค่าทางศิลปะและความคิดสร้างสรรค์

การคัดสรรศิลปหัตถกรรมเชิงสร้างสรรค์สุดยอดอาเซียน 2016 (ASEANSelections 2016) เพื่อเป็นเกียรติให้แก่นักสร้างสรรค์ผลงานหัตถกรรมด้านสิ่งทอเชิงนวัตกรรม เพื่อสานต่อวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมและพัฒนาช่างชุมชนให้มีความสามารถผสมผสานความคิดสร้างสรรค์และภูมิปัญญามีการร่วมรังสรรค์ผลิตภัณฑ์หัตถกรรม (Co-Creation) ระหว่างช่างชุมชนและนักออกแบบ นักสร้างสรรค์เพื่อให้เกิดการพัฒนาสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีความร่วมสมัย เหมาะแก่การใช้งานในปัจจุบันและสอดคล้องกับรสนิยมของผู้บริโภคที่หลากหลาย จึงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น

 

โดยเฉพาะเพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนและเป็นขวัญกำลังใจให้กับนักออกแบบผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ให้สามารถสร้างสรรค์งานที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในเรื่องของการใช้วัสดุในท้องถิ่นมาประยุกต์ เป็นงานศิลปะเพื่อต่อยอดและพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอในกลุ่มประเทศอาเซียนสู่ระดับสากล

ความสวยงามหัตถกรรมสิ่งทอ สุดยอดอาเซียน 2016

การคัดสรรงานศิลปหัตถกรรมเชิงสร้างสรรค์สุดยอดอาเซียน โดยกำหนดหลักเกณฑ์ไว้ 7 ด้าน ประกอบด้วย 1.Originality เป็นผลงานที่สร้างสรรค์หรือประยุกต์ขึ้นใหม่ 2.Identity แสดงออกถึงอัตลักษณ์ ภูมิปัญญา และวัฒนธรรมของประเทศตนเอง 3.Innovativeness มีความคิดสร้างสรรค์เชิงนวัตกรรม เลือกใช้กระบวนการ วัสดุ เทคนิคการผลิต หรือใช้งานศิลปะสิ่งทอที่ต่อยอดจากภูมิปัญญาของประเทศตนเอง 4.Design & Aesthetic มีรูปแบบที่สวยงามเหมาะสมตามหลักการออกแบบหรือความงามทางศิลปะ 5.Uniqueness มีความโดดเด่นของผลงานศิลปะสิ่งทอที่แตกต่างจากงานหัตถกรรมสิ่งทอพื้นบ้านหรือสิ่งทอทั่วไป 6.Quality คุณภาพผลงานประณีต เรียบร้อย ใช้วัสดุที่เหมาะสม และ 7.Functionality เป็นผลงานที่นำมาใช้งานได้จริง

โดยโครงการนี้เริ่มต้นขึ้นเพื่อที่จะสร้างเครือข่ายนักออกแบบงานศิลปะในอาเซียน โดยการผสมผสานศิลปะแบบดั้งเดิมมาประยุกต์เป็นงานศิลปะสมัยใหม่ที่สร้างสรรค์ และหวังว่าจะมีการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งจะสามารถต่อยอดเทคนิคการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ และผลักดันส่งเสริมให้ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ ศ.ศ.ป. เป็นศูนย์กลางด้านศิลปหัตถกรรมเชิงสร้างสรรค์สุดยอดอาเซียน (Aaean Selections) เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนและพัฒนาทักษะร่วมกันของนักสร้างสรรค์อาเซียน จนสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ

ความคล้ายคลึงกันในผ้าทออาเซียนคือ ผ้ายก รับอิทธิพลมาจากอินเดีย ร่วมแชร์องค์ความรู้ซึ่งกันและกัน การมีประเพณีวัฒนธรรมที่เก่าแก่สืบทอดกันมา ทั้งนี้ มีผู้ผ่านการคัดเลือกประจำปี 2559 จำนวน 10 ราย ได้แก่

ดายง ฮาจาห์ คาดาริอะห์ จากประเทศบรูไนดารุสซาลาม ซึ่งทอผ้ายกที่บ่งบอกถึงเทคนิคและลวดลายของแถบประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และบรูไน จากการสร้างสรรค์ลวดลายใหม่ๆ ของราชสำนักภายใต้กรอบของศาสนามุสลิม โดยหลานสาวของเธอที่เป็นตัวแทนมารับรางวัล บอกว่า

“งานทอที่ได้แรงบันดาลใจที่มาจากงานศิลปะชั้นสูง เป็นงานในครอบครัว ซึ่งอยู่ในสายเลือด มีความชำนาญในการทอ และเธอเป็นครูคนแรกที่สอนและประสิทธิ์ประสาทวิชาการทอในระดับราชสำนักที่บรูไน แต่ปัจจุบันออกแบบอย่างเดียว และออกแบบผ้าทอบรูไนมาแล้ว 1,000 กว่าลาย ลายต่างๆ ที่ออกแบบมาน่าสนใจมาก มีความร่วมสมัย ตอนนี้ ดายง ฮาจาห์ คาดาริอะห์ อายุ 85 ปี และงานของครอบครัวก็มีการแตกหน่อต่อยอดไปยังผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีผ้าทอเหล่านี้ประกอบ”

เสือง มิค ราชอาณาจักรกัมพูชา ที่ทอผ้าไหมมัดหมี่ การทอผ้าแบบ ikat เป็นการคิดผังระบบของการทอผ้าไหมมัดหมี่ใหม่ ออกแบบลวดลายใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากลายผ้าเดิมของกัมพูชา จากการเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียมผ่านลวดลายผ้า เขาบอกว่า

“ได้แรงบันดาลใจจากการไปเที่ยวซึ่งเดินทางไกลเป็นระยะทางเกือบ 500 กิโลเมตร และก็มีการทอภาพพุทธประวัติ มีความปรารถนาที่จะสร้างผ้าทอลายใหม่ๆ ให้กับคนรุ่นใหม่ ถือเป็นงานศิลปะ
ร่วมสมัยที่สร้างขึ้น เพราะครอบครัวก็สืบทอดการทอผ้ามาแต่ดั้งแต่เดิม”

จาวา เบนนี อะเดรียนโต จากสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งสร้างสรรค์งานผ้าในรูปแบบงานศิลปะ โดยออกแบบลวดลายให้มีมิติและโดดเด่น ประยุกต์ลายดั้งเดิมเพื่อสร้างสรรค์ลวดลายที่เป็นนวัตกรรมและร่วมสมัย ได้บอกเล่าถึงการทำงานของตัวเองว่า

“ยังใช้วิธีการทำผ้าบาติกแบบดั้งเดิมอยู่ ทำลงบนผ้าไหมแล้วสร้างโครงสร้างสอดแทรกเข้าไป เพื่อสร้างมิติของผ้าในเชิงที่เป็นเครื่องประดับอย่างผ้าพันคอและผ้าคลุม สามารถแขวนโชว์ได้ เป็นงานศิลปะผ้าชิ้นหนึ่งที่อยู่ในบ้าน และมีอิทธิพลมาจากงานแกะสลักไม้ด้วย”

เทียว นิธาคง สมสะนิท จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มีการสร้างสรรค์งานผ้าในรูปแบบงานศิลปะ โดยออกแบบลวดลายใหม่ที่เน้นนวัตกรรมการทอผ้าร่วมกับวัสดุอื่นๆ เช่น ใบไม้ลงบนผ้า สร้างความแปลกใหม่ให้ชิ้นงาน

“ผ้าปักหุ้มทองและหุ้มเงิน เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรม ที่มาทำเป็นความบังเอิญ ตอนแรกไม่ค่อยชอบ คิดว่าเป็นงานของผู้หญิง ได้มาทอผ้าของราชสำนัก เพราะคุณย่าต้องการให้ฝึกสมาธิ เนื่องจากเป็นเด็กที่ซนมาก การปักดิ้นเป็นการบำบัดอย่างหนึ่ง ในช่วงเวลาที่เรียนแพทย์อยู่ที่ฝรั่งเศส ถือเป็นการวิปัสสนาอย่างหนึ่ง การปักดิ้นเป็นการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ เมื่อกลับมาลาวที่หลวงพระบางก็นำกลับมาเผยแพร่ คนรุ่นใหม่มองว่าเป็นงานของราชสำนักคนชั้นสูง ไม่ใช่งานอาร์ต ก็พยายามนำวัสดุที่ง่ายๆ มาทำเพื่อไม่แสดงถึงความหรูหราฟุ่มเฟือย ก็มีใช้สัญลักษณ์คือใบไม้แห้งที่แทนถึงพุทธศาสนา และนำมาเป็นฐานในการพัฒนาและเชื่อมกับสังคม”

ชาม อาบู บาการ์ จากประเทศมาเลเซีย พัฒนาผ้าบาติกที่มีลวดลาย 3 มิติ โดยผสมผสานงานผ้ามัดย้อมและงานผ้าบาติกเข้าด้วยกัน และยังสร้างงานจิตรกรรมบนผ้าบาติกที่ผสมเทคนิคการพิมพ์ดิจิทัลลงไปในผลงาน

“เล่นกับผ้าในหลายๆ ลีลาที่มีความร่วมสมัยมากขึ้น เพื่อดึงให้คนรุ่นใหม่สนใจในศิลปะของการมัดย้อม ผ้าเป็นบาติกของเดิมแต่พยายามทำให้คนรุ่นใหม่เห็นว่ามีลูกเล่นลีลาที่แตกต่างจากงานช่างฝีมือกลายเป็นงานศิลปะ”

ซานน์ บ๊อก รา สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา นำผ้าซิ่นพม่าของคนคะฉิ่นที่มีสีสันสดใสมาจัดรูปแบบและประยุกต์ให้เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกาย เธอบอกว่าเธอเป็นคนคะฉิ่น

“ใช้ผ้าจากคะฉิ่น อยากเอามาใช้ให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก”

เคน ซามูดีโอ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ คอลเลกชั่น Sirens 2.0 นำแรงบันดาลใจจากเรื่องเล่าของหญิงสาวที่งดงามหรือนางเงือก โดยเปลี่ยนวัสดุรีไซเคิลให้เป็นเครื่องประดับแฟชั่น เล่าถึงที่มาของงานผ้าทอว่า

“เป็นนักชีววิทยาทางทะเล แต่การทอผ้าเป็นความรู้สึกของความสุขและความอิ่มอกอิ่มใจ แรงบันดาลใจมาจากความทรงจำที่ได้มาจากการเรียนหนังสือ เห็นธรรมชาติของน้ำเห็นความเคลื่อนไหวในท้องทะเล และได้เห็นการทำลายสภาพแวดล้อมทางน้ำจนเสื่อมสภาพ ตอนนี้งานได้รับการยอมรับและสร้างความตื่นตัวให้กับผู้ที่ได้ชมผ้าทอเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางทะเล และได้รับความสนใจจากนานาชาติ เป็นแสงไฟนำทางให้กับงานฝีมือจากอาเซียน”

เบนนี ออง ประเทศสิงคโปร์ สร้างลวดลายบนผ้าจากเรื่องราวของชาวจีนที่มาอาศัยอยู่ในสิงคโปร์ รวมถึงความประทับใจจากธรรมชาติ เพื่อสร้างสรรค์งาน Wall Hanging ที่ทันสมัยและใช้งานได้จริง

“ยอมรับว่าการเข้ามาสู่จุดนี้ได้ ยากมาก แต่เดิมเป็นนักออกแบบ ไปศึกษางานในยุโรปและกลับมาสร้างห้องเสื้อของตัวเอง งานหัตถศิลป์ที่สืบทอดกันมาจึงไม่มีเพราะเป็นประเทศเพิ่งก่อตั้ง จึงไม่มีเรื่องงานฝีมือที่ซับซ้อน ผ้าเป็นสิ่งสำคัญและเป็นหัวใจของการออกแบบแฟชั่น เป็นกระบวนการเฉพาะตัวของสิงคโปร์ ผ้าเป็นตัวเล่าถึงสัจธรรมและปรัชญาทางพุทธ บอกถึงความประณีตแสดงให้เห็นถึงความมีสมาธิของการสร้างานที่มีความลึกซึ้ง”

หนึ่งเดียวจากไทยผ้าทอลาวครั่งอุทัยธานี

ความคิดสร้างสรรค์ลวดลายใหม่ๆ ประยุกต์เทคนิคพื้นบ้าน ทอสานรูปภาพประทับใจ จากหมู่เกาะกระบี่ ท้องทะเล ภูเขา และสัตว์น้ำต่างๆ เช่น ปูก้ามดาบ ฯลฯ ศิลปินทอผ้าผู้อาวุโส จำปี ธรรมศิริ จากประเทศไทย ได้สร้างลวดลายระหว่างทอโดยไม่ต้องเขียนหรือออกแบบก่อนทอ จึงทำให้เกิดลวดลายที่แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์

หากเท้าความถึงรากเหง้าบรรพบุรุษของเธอ เป็นคนลาวที่ถูกกวาดต้อนมาจากเมืองเวียงจันทน์ เมื่อ 300-400 ปีมาแล้ว โดยมีสิ่งหนึ่งที่ติดตัวมาคือ ลายผ้าซิ่นตีนแดง ที่ถูกจกและถักทอด้วยชีวิตและจิตวิญญาณของคนลาว ลาวครั่งจะต้องมีผ้าสีแดงอยู่ 1 ผืน ซึ่งมีลวดลายสวยงามที่สุด เพราะผ้าผืนนี้จะเก็บไว้ใช้ห่มก่อนเสียชีวิต ซึ่งเชื่อว่าจะมีชีวิตสุขสบายในภพหน้า นอกจากนี้แล้วจะทอผ้าไว้เพื่ออุทิศส่วนกุศลผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว

การทอผ้าลายลาวครั่งโบราณของคนบ้านไร่ จ.อุทัยธานี จะมีอยู่เกือบทุกหมู่บ้าน แต่ก่อนคนที่นี่ทอไว้ใช้ ซึ่งใช้เวลาจากการว่างงานเกษตรที่เลี้ยงชีพ จนลือชื่อลือเลื่องจากลายผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ และถือเป็นดินแดนแห่งราชินีผ้าทอ

จำปี ถือเป็นบุคคลสำคัญของคนบ้านไร่ เป็นผู้อนุรักษ์และสืบสานศิลปะการทอผ้าลวดลายลาวโบราณ ได้รับการถ่ายทอดความรู้และวิธีการทอผ้ามาจากบรรพชน ตั้งแต่วัยเด็กและยึดเป็นงานหารายได้เลี้ยงชีพ พร้อมกับอาชีพเกษตรกรรมเรื่อยมา ได้รับความรู้และทักษะการทอผ้าลาวโบราณจากแม่ของสามีได้รับมอบผ้าทอลายลาวโบราณ มาจำนวน 2 ถุงย่ามใหญ่ เป็นเหตุให้ชีวิตของนางจำปีได้ผูกพันกับผ้าทอลายโบราณอย่างลึกซึ้ง เป็นเสมือนลมหายใจและจิตวิญญาณของกันและกันอย่างไม่อาจแยกจากกันได้

งานทอผ้าที่เป็นการทอแบบลาวครั่ง นิยมสีแดงเป็นสัญลักษณ์ แต่ว่าผ้าที่ทอจะเป็นเรื่องเล่า ไปที่ไหนก็นำมาเล่าเรื่องบนผ้าทอเพื่อที่จะสอนเด็กๆ เป็นลายโบราณ จำปี บอกว่า

“เทคนิคในการทอ ป้าจะมีกุญแจลายที่สืบทอดกันมา สำหรับชิ้นที่ได้รับรางวัลทอในปี 2558 ป้าเป็นวิทยากรสอนเด็กในการทอผ้า ป้าไปกระบี่เมื่อเด็กถามว่า กระบี่มีอะไรบ้าง ก็เลยทอผ้าให้ดู เล่าเรื่องราวของทิวทัศน์เขาขนาบน้ำ ปูก้ามดาบ ป่าโกงกาง เกาะไก่ทะเลแหวกตรงอ่าวนาง แต่มีพื้นฐานมาจากลายโบราณทั้งนั้นแหละ แล้วก็มีวิวพอยต์ของเกาะพีพี เป็นลายโบราณที่สืบทอดกันมา

“ภาพที่ทอเขาขนาบน้ำใช้ลายโบราณคือ ลายอ้อแอ้ ก็ฝึกหัดมาจากย่าทวดยายทวดจนมาถึงป้าจำปี อย่างพวกทิวเขาก็ใช้จากลายล้างมู่ อย่างเรือก็ใช้ลายตุ้มหรือลายหน่วย ต้นโกงกางก็ใช้ลายปีกไก่ ลายเกาะกำ ส่วนลายข่มก็เป็นคลื่นทะเล ย่าที่สอนให้ก็บอกว่าเรียนไว้เถอะ จะได้มีวิชาติดตัวเกิดศึกสงครามลูกหลานจะไม่ได้ลำบาก ซึ่งป้าก็ไม่อยากทำไม่อยากฝึกเพราะขายไม่ได้ ทำมาตั้งแต่ปี 2509 เรียนกันมาถึงปี 2514 แล้วทำมาเรื่อยๆ ก่อนหยุดไปประมาณปี 2548 มาฟื้นทำพิพิธภัณฑ์ปี 2558”

 

การทอผ้าในแบบฉบับของตนเอง มีความหวังต่อการสานต่อ มุ่งมั่นการทอผ้าให้ถึงมือคนรุ่นต่อๆ ไป ด้วยการสอนให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักการทอผ้าตีนจก ผ้าซิ่นตีนแดงให้เป็นจริง สร้างพื้นที่เล็กๆ ของตนเองให้มีคุณค่าและความหมายแห่งการทอที่แท้ ด้วยการสร้างพิพิธภัณฑ์ผ้าไทยโบราณ ณ บ้านนาตาโพ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มุ่งหวังที่จะเป็นที่สร้างการเรียนรู้และสานต่อด้านการทอผ้าให้กับเด็กๆ ในชุมชน เป็นแหล่งศึกษาลายผ้าทอลาวโบราณ โดยได้เก็บรวบรวมชิ้นส่วนผ้าซิ่นเก่าของคุณยาย คือ นางเคี้ยว แห้วเพชร (เกิดปี 2425) ไว้เป็นตัวอย่างลายในการทอผ้า รวมทั้งลวดลายใหม่ๆ ที่คิดขึ้นโดย นางป๊อก ธรรมศิริ (แม่ของสามีนางจำปี) ต่อมา ได้จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ขึ้น เคยส่งผ้าเข้าประกวดและได้รับรางวัลในโครงการมรดกสิ่งทอของเอเชีย : หัตถกรรมและอุตสาหกรรม เมื่อปี 2535

สำหรับการกลับมาทอผ้า ก็เพื่อที่จะทำให้เด็กๆ ดู สาธิตลายต่างๆ ของโบราณ อย่างอกไก่ ทะเลแหวก จำปีได้บอกกล่าวถึงผ้าทอของประเทศอื่นๆ ในอาเซียนที่ได้รับรางวัลในงานนี้ว่า

“ลายผ้าทอเอกลักษณ์อาเซียนของประเทศอื่นๆ เขาก็ทำเก่ง ส่วนป้าก็ไม่ได้คิดว่าจะได้รางวัลอะไรอย่างนี้เลย ประเทศอื่นๆ ก็มีทั้งความละเอียดในทุกอย่าง การออกแบบก็สุดยอดในแต่ละประเทศตัวเอง อยากให้คนรุ่นใหม่ฝึกฝนให้ดีเด่นสวยกว่าของป้า อยากให้มีคนสืบทอดเพราะในอนาคตจะได้ไม่สูญหายเมื่อไม่มีป้าอยู่แล้ว ป้าอายุเยอะแล้ว อยากให้มีคนทอได้เหมือนป้าหรือเก่งกว่าป้า”

 

Leave a comment