วัลลภา-นวินดา ปัจฉิมสวัสดิ์ เพราะการเต้นคือชีวิต

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

01 ตุลาคม 2559 เวลา 11:20 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/life/life/457814

วัลลภา-นวินดา ปัจฉิมสวัสดิ์ เพราะการเต้นคือชีวิต

โดย…อณุสรา  ทองอุไร ภาพ… วิศิษฐ์   แถมเงิน

คุณแม่ต้อย-วัลลภา  ปัจฉิมสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ และผู้อำนวยการ โรงเรียนสอนเต้นบางกอกแดนซ์ อะคาเดมี่ และลูกสาวสุดเก๋ หลอดไฟ-นวินดา วรรธนะโกวินท์ ปัจฉิมสวัสดิ์  ครูสอนเต้นและนักออกแบบท่าเต้นให้กับสถาบันบางกอกแดนซ์ ถือว่าคู่คุณแม่คุณลูกนักเต้น  ถือได้ว่าครอบครัวของฝ่ายคุณแม่นั้นเป็นครอบครัวนักเต้นเนื่องจากพี่น้องทั้งสามคนจบด้านเต้นมาจากต่างประเทศมีโรงเรียนสอนเต้นเป็นของตนเองตั้งแต่วัย 20 กว่าๆ ในส่วนของคุณแม่ต้อย-วัลลภา นั้นก็เปิดโรงเรียนสอนเต้นมาได้ 25 ปีแล้ว

คุณแม่บอกว่าตนเองเรียนเต้นมาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งเรียนจบปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ประสานมิตร) จึงไปเรียนเต้นแจ๊ซแดนซ์ ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทำงานเอเจนซี่อยู่สักพัก มาเปิดสอนเต้นให้กับโรงเรียนสยามกลกาลอยู่ 5 ปี พออายุ 30 ต้นๆ ก็มาเปิดโรงเรียนสอนเต้นของตนเอง ตอนที่ลูกอายุได้ขวบเดียว

“ก็เอาลูกมาเลี้ยงที่โรงเรียนบ้าง อะไรบ้างเพราะแม่กลับดึกไม่ค่อยมีเวลาก็เอาลูกมาวิ่งเล่นที่โรงเรียนจะได้มีเวลาอยู่ใกล้ชิดลูกบ้าง ลูกก็เห็นงานของแม่มาตลอดว่าแม่ทำอะไรยังไง เขาก็เลยอาจจะค่อยซึมซับไปเรื่อยๆ แต่แม่จะไม่ยัดเยียดถ้าเขาชอบ แม่ก็จะสนับสนุนแต่ถ้าไม่ชอบแม่จะไม่ฝืนใจอยากให้เขาเรียนเพราะรักเพราะชอบจริงๆ  อะไรที่เป็นความสุขของลูกแม่สนับสนุนเสมอ เอาลูกเป็นที่ตั้งไม่ใช่เอาตามใจแม่อย่างเดียว”

ทางด้านลูกสาวสุดเก๋ ที่เรียกได้ว่าเป็นลูกไม้ใกล้ต้นของจริง เพราะหลังจากเริ่มเรียนบัลเล่ต์และยิมนาสติกลีลาตั้งแต่อายุ 5 ปี เธอก็รู้ทันทีว่านี่คือเส้นทางชีวิตที่เธอเลือกแล้ว จึงทำให้ชีวิตการศึกษาของเธอที่นอกจากจะเรียนในโรงเรียนเหมือนเด็กทั่วไปแล้ว เธอยังเรียนเต้นควบคู่มาโดยตลอดด้วยเป้าหมายในการเป็นนักเต้นมืออาชีพ โดยภายหลังจบไฮสกูลที่โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี หลอดไฟได้เดินทางไปเรียนต่อปริญญาตรี ด้านศิลปะการเต้น และเรียนจบในปี พ.ศ. 2555 จาก The Victorian College of the Arts, the University of Melbourne ประเทศออสเตรเลีย และได้รับเลือกเป็นคนไทยคนเดียวที่ได้รับทุน DANCE WEB เพื่อไปเข้าร่วมเทศกาล Impulstanz หรือ Vienna International Dance Festival เทศกาลศิลปะการเต้นที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่จัดขึ้น ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย

สำหรับเป้าหมายในชีวิตนั้น เธอตั้งเป้าหมายว่า จะร่วมงานกับคณะในทวีปยุโรป เพื่อพัฒนาตนเองให้เป็นศิลปิน นักเต้น และผู้ออกแบบท่าเต้นที่ดียิ่งๆ ขึ้น รวมทั้งศึกษาเพิ่มเติมที่เกี่ยวเนื่องกันในศิลปะแขนงอื่นๆ คือ สาขาการถ่ายภาพและสาขาภาพยนตร์เกี่ยวกับการเต้น เพื่อช่วยในด้านการคิดสร้างสรรค์งานศิลปะ หลอดไฟตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาวงการศิลปะการเต้นในประเทศไทยให้เท่าเทียมกับที่ตัวเองได้ประสบมาจากต่างประเทศและยังคงหลงใหลในงานศิลปะการเต้นและศิลปะอื่นๆ ทุกแขนง และเธอยังทำงานจิตอาสาให้กับวัดพระราม 9 อีกด้วย

 

คุณแม่คือ ไอดอลของหนู

ลูกสาวบอกว่า คุณแม่นั้นทำงานหนักมาตลอดตั้งแต่เธอยังเด็กๆ จนถึงทุกวันนี้ แทบไม่มีวันหยุดเลย เมื่อก่อนคุณแม่สอนเต้นด้วย บริหารด้วย ตอนนี้เน้นบริหารอย่างเดียว แต่ก็ทำงานหนักเหมือนเดิมเพราะคุณแม่เต็มที่กับทุกสิ่ง ดูแลเด็กๆ เหมือนคนในครอบครัว เป็นห่วงสุขภาพคุณแม่ บ่อยครั้งท่านกินอาหารไม่ตรงเวลาบ้าง หรือกินหวานมันไปบ้าง ท่านทำงานเยอะ อยากให้ท่านแข็งแรงมากๆ

“แม่ใจดีมากกับลูกๆ และทุกๆ คน ท่านใจกว้างกับลูกนี่รับฟังทุกเรื่อง เปิดใจไม่มีอะไรที่บอกคุณแม่ไม่ได้ ไม่เคยมีความลับกับท่านเลย และท่านจะไม่รีบตัดสินวิธีคิดของเรา ท่านฟังและให้ความเห็นแต่การตัดสินใจอยู่ที่เรา แม่ไม่เคยบอกว่าเรื่องนี้อย่าทำนะ เรื่องนี้ไม่ได้นะทุกสิ่ง ขอให้บอกแชร์กัน แม่คิดอย่างนี้ลูกว่าไง แม่ฟังความเห็นลูก แต่การตัดสินใจลูกเลือกเอง แม่น่ารักที่สุดค่ะ” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

ต้องเคารพการตัดสินใจของลูก

ทางด้านคุณแม่วัลลภา บอกว่า แม่เลี้ยงลูกเหมือนเพื่อน ที่พูดคุยได้ทุกเรื่อง การทำให้ลูกกลัวจนมีความลับกับแม่คงไม่ใช่เรื่องที่ดี แม่ไม่บังคับอะไรที่เป็นความสุขของลูกถ้าไม่ผิดศีลธรรมไม่เดือดร้อนใคร แม่ก็จะไม่ห้าม แม่ไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้งยอมรับตัวตนของลูก เขาเป็นเด็กที่มีเอกลักษณ์และมีความเป็นตัวเองสูง บางทีอาจจะดูเป็นศิลปินเกินไป หรือเปราะบางเกินไปในบางเรื่อง แม่ก็จะคอยมองและถ้าเขาจะเจอเรื่องกระทบใจอะไรบ้างแม่ก็คอยเฝ้ามอง เพราะบางที่คนเราต้องเจอเพื่อที่จะได้แกร่งมีบทเรียน ส่วนใหญ่เขาจะทำอะไรแม่ไม่ค่อยห้ามถ้าเขาตั้งใจดีปล่อยให้เขาได้ลองทำ ให้เขามีประสบการณ์

“แม่กับลูกโตมาคนละยุค อย่าเอาตัวเองไปตัดสินลูก ส่งเสริมให้คิด เมื่อมีปัญหาแม่จะประคองบ้าง มีกฎกติกาบ้าง แต่ไม่ใช่ข้อกำหนดซะทั้งหมด เราต้องมีความยืดหยุ่น อย่างเขาขอเดินทางแบ็กแพ็กไปยุโรปเดือนหนึ่ง แม่รู้ว่าเขาตั้งใจห้ามไปก็เท่านั้น ก็ขอแค่ว่าต้องติดต่อแม่ทุกวันเพราะห่วงเรื่องอันตรายเผื่อเขาไปอยู่ผิดที่ผิดเวลา ขอให้รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ปลอดภัยดี แค่นั้นเอง ชีวิตเขาและเขาควรมีสิทธิตัดสินใจ แม่แค่เฝ้ามองดูห่างๆ อะไรมีความสุขถ้าไม่เลวร้ายก็ทำไปแม่ไม่ว่า” เธอกล่าวด้วยความรัก

 

Leave a comment