ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
11 ธันวาคม 2559 เวลา 08:16 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/life/life/469688

โดย…วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ ภาพ : เป็นไทพับลิชชิ่ง/อนุชิต นิ่มตลุง
เมื่อโครงสร้างอายุของประชากรกำลังเปลี่ยนไปทั้งสังคมโลกและสังคมไทย อาจทำให้คำว่า “บั้นปลายชีวิต” เปลี่ยนไปจากความรับรู้เดิม อันที่จริงสังคมไทยถูกจัดให้เป็นสังคมสูงวัย (Aging Society) มาตั้งแต่ปี 2547 และตามหลักสถิติเราก็สามารถประมาณการได้ว่า ภายในปี 2574 หรืออีกไม่เกิน 15 ปีจากนี้ สังคมไทยจะถูกยกระดับเป็น “สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์” (Aged Society) สัดส่วนประชากรผู้สูงวัยคิดเป็น 20% ของประชากรทั้งหมด!
“ชาญชรา” เป็นหนังสือเล่มแรกในชุดผลึกความรู้ ชุดงานวิจัยฉบับเคี้ยวง่าย ภายใต้การพัฒนาระบบหนังสือของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) งานวิจัยคัดสรรในชุดโครงการ “มิติทางเศรษฐกิจของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร” ซึ่งเป็นผลงานของนักวิจัยจากหลายสถาบันที่ได้พยายามเชื่อมโยงให้เห็นปัญหาในทุกมิติ สร้างความตื่นรู้ ขณะเดียวกันคือข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ
วีรพงษ์ สุนทรฉัตราวัฒน์ หนึ่งในทีมนักเขียน เล่าว่า หนังสือชาญชราจับประเด็นเรื่องสังคมสูงวัย โดยใช้บทสัมภาษณ์เป็นกลวิธีเล่าเรื่อง ผู้สัมภาษณ์มี 2 คน ส่วนผู้ให้สัมภาษณ์คือ ศ.ดร.วรเวศม์ สุวรรณระดา คณบดี คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักวิจัยที่ติดตามเรื่องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรมาอย่างต่อเนื่อง
วีรพงษ์
นั่นก็เพื่อให้ผู้อ่านได้อ่านงานวิจัยได้ง่ายขึ้น หรืออีกนัยหนึ่งคือการนำงานวิจัย “ลงจากหิ้ง” ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์สูงสุดของหนังสือชุดนี้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมหนังสือจึงถูกจัดทำให้บางที่สุด เล็กที่สุด เบาที่สุด เพื่อทำให้มันถูกอ่าน เพื่อที่หนังสือจะได้ทำความเข้าใจกับผู้คนในสิ่งที่มีความสำคัญต่อไป
“หน้าที่ของชาญชราก็คือการเปิดประเด็นหรือเปิดบทสนทนาของคนในสังคมถึงเรื่องที่มีความสำคัญสูงสุดเรื่องหนึ่งในอนาคตอันใกล้ ทั้งหมดถูกย่อยในรูปแบบของบทสัมภาษณ์ที่บางๆ เบาๆ อ่านง่าย ฝ่ายหนึ่งถาม อีกฝ่ายหนึ่งตอบ ย่อยประเด็นองค์ความรู้ของงานวิจัยที่ถูกบดละเอียด เคี้ยวง่าย ย่อยง่าย คนทั่วไปอ่านแล้วไม่หนักเกินไป”
ศ.ดร.วรเวศม์ ผู้ให้สัมภาษณ์ เล่าว่า ไทยกำลังมีประชากรวัยทำงานมากที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา คิดเป็น 48 ล้านคน หรือ 71.4% ของประชากรทั้งหมดในปี 2014 ขณะที่อาเซียนจะมีกำลังแรงงานอายุ 15-64 ปี จำนวนมากที่สุดราว 500 ล้านคน ในปี 2050 ข้อท้าทายสำหรับไทยก็คือ เราจะสามารถพัฒนาให้เกิดแรงงานที่มีทักษะสูงเพื่อเพิ่มผลผลิตของประเทศไทยได้อย่างไร ในเมื่อไทยกำลังจะเป็นประเทศที่มีประชากรสูงวัยมากที่สุดในอาเซียนในอีก 15 ปีข้างหน้า
“อัตราการเติบโตของประชากรสูงวัยของไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 2 เท่าในอีก 15 ปีข้างหน้า จึงมีความสำคัญมากที่ประชากรของเราจะต้องมีการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุ ทั้งในมิติของการเงิน การออม และในมิติของสังคม สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข” ศ.ดร.วรเวศม์ กล่าว

ลองมองดูชีวิตของคนคนหนึ่งที่จะต้องมีลมหายใจอยู่ต่อไปอีกนานหลังเกษียณ เมื่อล่วงเข้าสู่วัยชรา อะไรคือความมั่นคงทางการเงิน เงินออมของตัวเองหรือเงินเกื้อหนุนจากบุตรหลาน เงินบำนาญหรือเงินสงเคราะห์จากรัฐ จะดีกว่าหรือไม่หากทุกฝ่ายมาช่วยกันมองใหม่รื้อใหม่ในทุกมิติ สังคมสูงวัยในอนาคตกำลังต้องการการสร้างกรอบและกติกาใหม่ เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงในชีวิตวัยชรา
“จะเห็นว่าคนที่เกษียณตอนอายุ 55-60 ยังหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวกันอยู่เลย แล้วเขายังต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกนาน ตรงนี้เป็นผลกระทบอย่างหนึ่ง บางทีอาจต้องมีการปรับสมดุลใหม่ระหว่างชีวิตวัยทำงานกับชีวิตหลังเกษียณ เพราะต่อจากนี้ไป ช่วงเวลาที่คุณอยากจะเอนจอยไลฟ์หลังเกษียณ มันอาจจะนานเป็นพิเศษ”
สุดท้ายแล้วคือการสูงวัยอย่างมีศักดิ์ศรี ส่งเสริมการเตรียมตัวเข้าสู่วัยสูงอายุล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นการออม การเตรียมความพร้อมด้านสุขภาพ เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเมื่อสูงวัย อีกทั้งควรจะสร้างงานที่เอื้อให้ผู้สูงอายุยังคงมีความสามารถหรือมีรายได้ เพื่อดูแลตนเองได้อย่างมีศักดิ์ศรีต่อไป สุดท้ายแล้วไม่ใช่เรื่องไกลตัวหรือเรื่องของคนอื่น หากคือเรื่องของเรา เรื่องของคนอ่านหนังสือเล่มนี้ทุกคน
“ชาญชรา” หากมัวรอให้ถึงวันนั้นวัยนั้น โดยไม่คิดเตรียมการวางแผนการใช้ชีวิตเสียตั้งแต่วันนี้ ถึงตอนนั้นทุกอย่างอาจสายเกินไป ความรู้มิควรเก็บไว้บนหิ้ง ถึงเวลาที่สังคมต้องแชร์และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ผลึกความรู้:ชุดงานวิจัยเคี้ยวง่าย ยังประกอบด้วย Relearning คนพรมแดนรัฐชาติ คอร์รัปชันในสังคมสีเทา และสันติวิธี เส้นทางสู่สันติภาพ