ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
31 พฤษภาคม 2560 เวลา 19:15 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/analysis/interview/497139
โดย…จะเรียม สำรวจ
คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าร้านสุกียากี้ยุคใหม่ที่เสิร์ฟอาหารใส่ถาดซ้อนกันเป็นคอนโดหลายชั้น มีการเตรียมน้ำซุปที่อุ่นเกือบเดือดเทใส่หม้อไฟฟ้าแวบเดียวก็เดือดพร้อมลวกเนื้อต้มผัก และมีการนำระบบไอทีมาใช้สั่งอาหารเพิ่มความสะดวกรวดเร็ว ร้านที่บุกเบิกยุคใหม่ของวงการสุกี้นี้ก็คือ เอ็มเคสุกี้ ซึ่งปฏิรูปตัวเองจากหนึ่งในร้านอาหารเก่าแก่เมื่อกว่า 50 ปี ที่เป็นร้านอาหารไทยเล็กๆ ตั้งอยู่ในย่านสยามสแควร์ โดยได้ทรานส์ฟอร์มมาจนประสบความสำเร็จมีรายได้ระดับปีละหมื่นล้านบาท
จากจุดเริ่มต้นของร้านอาหารไทยที่ขายข้าวมันไก่ เนื้อตุ๋น ผัดไทย ผัดขี้เมา เนื้อย่างเกาหลี (เตาถ่าน) ยำแซบๆ ทุกชนิด และเค้ก ในย่านสยามสแควร์เมื่อปี 2505 และต่อมาในปี 2507 ได้เริ่มขยายธุรกิจด้วยการเข้ามาเปิดให้บริการร้านอาหารไทยในศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว ด้วยการใช้ชื่อร้านว่า กรีนเอ็มเค ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีจนปี 2509 มีการขยายธุรกิจออกมาในรูปแบบของร้านสุกี้ ภายใต้ชื่อสุกี้เอ็มเค ที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว ด้วยการชูจุดเด่นสุกี้เป็นเมนูเด็ด ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการร้านสุกี้เอ็มเคก็ประสบความสำเร็จ จาก 1 สาขาในวันนั้น ปัจจุบันร้านสุกี้เอ็มเคมีจำนวนสาขาเปิดให้บริการทั่วประเทศไปแล้วมากกว่า 400 สาขา
ฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจร้านอาหาร คือ การทำธุรกิจที่ตามกระแสมากกว่านำกระแส จะเห็นได้ว่าร้านอาหารในเครือทุกแบรนด์สร้างขึ้นมาตามความต้องการของผู้บริโภคและปรับให้เกาะกระแสต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังใช้กลยุทธ์ทำตลาดด้วยการขยายสาขาให้ครอบคลุมกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงร้านอาหารในเครือของบริษัทได้ง่าย โดยเฉพาะร้านสุกี้เอ็มเคที่วางราคาสินค้าไม่แพง ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ความสำเร็จของเอ็มเค กรุ๊ป
ปัจจุบัน เอ็มเค กรุ๊ป มีแบรนด์ร้านอาหารในเครือทั้งหมด 8 แบรนด์ ประกอบด้วย ร้านเอ็มเคสุกี้ ร้านเอ็มเคโกลด์ ร้านอาหารญี่ปุ่นยาโยอิ ร้านมิยาซากิ เทปปันยากิ ร้านฮาคาตะราเมน ร้านอาหารไทย ณ สยาม ร้านอาหารไทยเลอสยาม และร้านกาแฟ-เบเกอรี่ ซึ่งจะเป็นร้านอาหารไทยสไตล์ตะวันตก เลอเพอทิท คาเฟ่ ซึ่งทุกแบรนด์ที่กล่าวมามีจำนวนสาขาเปิดให้บริการรวมกันมากกว่า 600 แห่งทั่วประเทศไทย

จากความสำเร็จที่ได้รับในประเทศไทย ส่งผลให้เอ็มเค กรุ๊ป มีแผนที่จะนำร้านอาหารในเครือไปในตลาดต่างประเทศ โดยมีร้านสุกี้เอ็มเคเป็นหัวหอกหลักในการขยายตลาด ซึ่งหลังจากได้ทดลองทำตลาดในต่างประเทศ พบว่าลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นร้านสุกี้เอ็มเค ร้านยาโยอิ หรือร้านมายาซากิ โดยในส่วนของประเทศที่เข้าไปทำตลาดร้านอาหารแล้วตอนนี้ คือ ญี่ปุ่น เวียดนาม สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ส่วนประเทศที่ฤทธิ์ให้ความสนใจอยากจะนำร้านอาหารในเครือเข้าไปเปิดให้บริการ คือ เมียนมา ลาว และมาเลเซีย
ฤทธิ์ กล่าวต่อว่า การที่บริษัทเดินหน้าขยายธุรกิจแบรนด์ร้านอาหารในเครืออย่างต่อเนื่อง ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กรช่วยกระจายความเสี่ยง เพราะการมีร้านอาหารหลายแบรนด์ทำให้การทำธุรกิจจะไม่เหนื่อยมากเมื่อเทียบกับการทำร้านอาหารแบรนด์เดียวที่นอกจากเหนื่อยแล้วยังมีความเสี่ยง ซึ่งกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจดังกล่าวก็เหมือนกับการที่เรามีลูกหลายคน ทุกคนช่วยกันทำงาน ทำให้การทำงานต่างๆไม่เหนื่อยมากเมื่อเทียบกับคนที่มีลูกคนเดียว
แม้ว่าปัจจุบัน เอ็มเค กรุ๊ป จะมีเจเนอเรชั่นใหม่เข้ามาช่วยดูแลธุรกิจแล้ว แต่ฤทธิ์ก็ยังคงช่วยดูแลธุรกิจว่าควรจะเดินไปในทิศทางไหน ซึ่ง ฤทธิ์ บอกว่า แม้ว่าจะถึงวัยที่ต้องเกษียณ แต่ก็ยังเกษียณ 100% ไม่ได้ เพราะคนรุ่นใหม่ที่เข้ามายังต้องใช้เวลาในการทำงานและสะสมประสบการณ์อีกมาก เพื่อสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งในอนาคต
ฤทธิ์ และ ทานตะวัน ธีระโกเมน
เปิดทางเจน 3 ขยายฐานมิลเลนเนียม
หลังจากเปิดทางให้ทายาทเข้ามาสานต่อธุรกิจ ฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ก็เปิดโอกาสให้ ทานตะวัน ธีระโกเมน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ทายาทรุ่นที่ 3 แสดงฝีมือในการทำธุรกิจอย่างเต็มที่ ซึ่งโปรเจกต์แรกที่ทายาทรุ่นที่ 3 ได้แสดงฝีมือการเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ คือ การเปิดร้านเอ็มเค ไลฟ์ (MK Live) ที่ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
จุดเด่นของร้านเอ็มเค ไลฟ์ ที่ทำให้สามารถมัดใจผู้บริโภครุ่นใหม่ได้สำเร็จ คือ การนำคำว่าไลฟ์มาเล่นกับกลยุทธ์ในการทำตลาด เริ่มจากความหมายของคำว่า Live คือความสดใหม่ ความมีชีวิตชีวา มาเป็นคอนเซ็ปต์หลักในการรังสรรค์ส่วนต่างๆ ของร้าน เช่น การออกแบบร้านที่นำรูปแบบเรือนกระจกของฟาร์มปลูกผักมาเป็นแรงบันดาลใจในการตกแต่ง เน้นวัสดุจากธรรมชาติในการนำมาตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็น ไม้ ต้นไม้ หิน รวมถึงดิสเพลย์ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ที่ผนังร้าน
นอกจากนี้ ยังนำคำว่า ไลฟ์ มาใช้การปรุงอาหารภายใต้ชื่อ Live Showcase หรือครัวเปิด ซึ่งจะมีการโชว์ให้เห็นถึงเมนูที่เชฟจะทำสดภายในร้าน ไม่ว่าจะเป็นลูกชิ้นปั้นสดหรือติ่มซำ
พร้อมกันนี้ยังมีการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม เช่น ลอปสเตอร์จากแคนาดา หอยเชลล์ยูเอส เนื้อวากิวญี่ปุ่น เพื่อพัฒนามาเป็นเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มีเฉพาะที่นี่ที่เดียวเท่านั้น ส่วนเมนูสุกี้ต้มแบบดั้งเดิม ได้รับการเพิ่มความถูกปากด้วย 5 น้ำซุป สตีมชาบู ต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น มีให้เลือก 3 เซต ได้แก่ หมูคุโรบุตะ เนื้อวัวออสเตรเลีย หรือเนื้อวากิวญี่ปุ่นมาให้บริการเฉพาะร้านเอ็มเค ไลฟ์
ยังไม่หมดแค่นั้น ด้านเมนูเครื่องดื่มและขนม ยังสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ของร้าน เช่นเดียวกับพนักงานภายในร้านที่ชูจุดเด่นในด้านความสดใสและใส่ใจบริการทุกขั้นตอน เติมประสบการณ์ของทุกมื้ออาหารให้สมบูรณ์แบบมากสุด
จากจุดขายดังกล่าวที่ร้านเอ็มเค ไลฟ์ นำเสนอ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเอ็มเค ไลฟ์ ประสบความสำเร็จ เพราะทุกบริการที่นำเสนอสอดรับกับพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพได้ดี