ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
https://www.posttoday.com/life/life/569261
- วันที่ 30 ต.ค. 2561 เวลา 13:00 น.

เรื่อง กันย์ ภาพ pixabay
เดือน ต.ค.ของทุกปีเป็นเดือนรณรงค์ต่อต้านโรคมะเร็งเต้านม ที่ถือได้ว่าเป็นมะเร็งร้ายอันดับ 1 ของผู้หญิงทั่วโลก จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นของทั่วโลกและในประเทศไทย เพราะขาดความรู้แนวทางการป้องกันที่จะช่วยให้ลดอัตราของโรคนี้ได้
ศ.นพ.ศุภกร โรจนนินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์เต้านม โรงพยาบาลวัฒโนสถ กล่าวว่า มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้หญิงเป็นอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกา และเป็นมะเร็งที่พบเป็นอันดับ 1ในผู้หญิงไทย จากเดิมที่พบมากเป็นอันดับ 2 รองจากโรคมะเร็งปากมดลูก และมีแนวโน้มว่าจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
โรคมะเร็งเต้านมไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่มีปัจจัยหนุนคือฮอร์โมนเอสโตรเจนที่กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เนื้อเยื่อเต้านม จนเจริญเติบโตผิดปกติ ทำให้เซลล์เหล่านั้นกลายเป็นเซลล์มะเร็งและโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจแพร่กระจายออกไปยังอวัยวะอื่นๆ
โรคมะเร็งเต้านมเริ่มแรกจะไม่แสดงอาการ ไม่เจ็บ ไม่ปวด มีเพียงก้อนเนื้อให้สัมผัสได้แต่ไม่รู้สึก หลายคนจึงละเลยจนเข้าสู่ระยะลุกลามปล่อยทิ้งไว้จนไม่อาจรักษาให้หายได้แล้ว อายุเฉลี่ยของคนไข้ที่พบมะเร็งเต้านมคือ 40 ปีขึ้นไปซึ่งจริงๆ แล้วเซลล์มะเร็งอาจจะก่อตัวก่อนหน้านั้นแต่เพิ่งมาตรวจพบในช่วงวัยดังกล่าว
กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งเต้านม คือ บุคคลที่มีญาติใกล้ชิดเป็นมะเร็งเต้านมเกินสองคนขึ้นไป เช่น แม่ พี่สาว หรือน้องสาว คนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงสูงกว่าคนอื่นถึงสิบเท่า และมีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งเร็วขึ้น ดังนั้นจึงต้องตรวจหาความผิดปกติด้วยตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ รวมถึงการตรวจด้วยเครื่องดิจิทัลแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์
นพ.สาธิต ศรีมันทยามาศ แพทย์ศัลยกรรมมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลวัฒโนสถ กล่าวเพิ่มเติมว่า มะเร็งเต้านมเป็นเซลล์มะเร็งที่เกิดกับอวัยวะภายนอก สามารถคลำหาได้ด้วยมือ ผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านมเกินกว่าร้อยละ 85 จึงมักจะมาพบแพทย์หลังจากคลำพบก้อนที่เต้านม
ระยะของมะเร็งเต้านมแบ่งออกเป็นระยะ 0 ซึ่งเป็นระยะเริ่มต้นของเซลล์มะเร็ง ยังไม่ลุกลามไปยังเนื้อเยื่อของเต้านมและสามารถรักษาหายได้ ระยะที่ 1 ก้อนมะเร็งมีขนาดไม่เกิน 2 เซนติเมตร และยังไม่ลุกลามถึงต่อมน้ำเหลือง ระยะที่ 2 ก้อนมะเร็งมีขนาดระหว่าง 2-5 เซนติเมตร และเริ่มลุกลามไปสู่ต่อมน้ำเหลือง บริเวณรักแร้ แต่ยังไม่แพร่กระจายไปสู่อวัยวะอื่น
ระยะที่ 3 ก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่กว่า 5 เซนติเมตร ลุกลามเข้าไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้แล้ว แต่ก็ยังไม่แพร่กระจายไปสู่อวัยวะอื่น และระยะที่ 4 มะเร็งได้แพร่กระจายไปสู่อวัยวะอื่นเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากตรวจพบตั้งแต่ระยะที่ 0 ซึ่งยังไม่มีก้อนมะเร็งจะสามารถรักษาให้หายได้ แต่หากพบเมื่อเข้าสู่ระยะที่ 1 แล้ว โอกาสหายขาดจะเหลือเพียง 80 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
วิธีที่จะช่วยให้พบเซลล์มะเร็งได้เร็วคือ การตรวจด้วยเครื่องดิจิทัลแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์ ที่สามารถหาเซลล์ผิดปกติได้ตั้งแต่ขนาดเล็กในระดับมิลลิเมตร เมื่อตรวจเพิ่มเติมด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ ร่วมกับการตรวจชิ้นเนื้อก็จะวินิจฉัยได้ว่าก้อนเนื้อนั้นเป็นเซลล์มะเร็งหรือไม่
สำหรับโรคมะเร็งเต้านมปัจจัยเสี่ยงสําคัญนอกเหนือจากการมีญาติสายตรงใกล้ชิดเป็นโรคนี้แล้ว การมีการกลายพันธุ์ของยีนที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมในครอบครัวก็เป็นปัจจัยเสี่ยงอย่างหนึ่งที่ส่งผลให้ผู้หญิงเพิ่มโอกาสการเกิดเป็นโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ได้
การตรวจหาการกลายพันธุ์ของยีนที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ต่อการเป็นมะเร็งเต้านม จึงเป็นการตรวจเพื่อหาความผิดปกติของยีนที่สามารถทําได้โดยการตรวจเลือด โดยแพทย์ด้านพันธุศาสตร์มะเร็ง หากผลตรวจพบว่ามีความผิดปกติของยีนเหล่านี้ ก็จะสามารถวางแผนจัดการเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านมในอนาคต หรือช่วยให้ตรวจพบได้เร็วที่สุดเพิ่มโอกาสการรักษาให้หายมากยิ่งขึ้น
