ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
https://www.posttoday.com/life/life/569673
- วันที่ 03 พ.ย. 2561 เวลา 14:01 น.

เรื่อง : นกขุนทอง
ตอนนี้เกษียณอายุการทำงานไม่ได้อยู่ที่ 60 ปีอีกต่อไป บางคนยังต่อเวลาให้ยืดยาวออกไป เพราะการทำงานประหนึ่งการใช้ชีวิต และเขายังสนุกกับการใช้ชีวิตมากกว่าเลือกนอนพักผ่อนอยู่บ้าน บางคนเลือกเกษียณจากงานเดิมแต่เปลี่ยนไปทำงานอื่นๆ ไม่ให้อายุมาเป็นข้อจำกัด บางคนเลือกเกษียณงานตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะที่ผ่านมาได้ทุ่มเทอย่างหนักแล้ว จะด้วยเหตุผลใดก็ตามทุกคนมีวิถีทางของตัวเอง
นพ.อดิศร ศิริสรรหิรัญ เองก็เช่นกัน มีแผนการทำงานไว้ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงานเสียด้วยซ้ำ นับตั้งแต่จบการศึกษา หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำงานแรกที่โรงพยาบาลใน อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ได้เห็นความยากลำบากของผู้ป่วยที่หาเช้ากินค่ำ คุณภาพที่ชีวิตที่ยากลำบาก
หากเส้นทางชีวิตของเขาได้หักเหมาสู่แพทย์ด้านเสริมความงาม นับตั้งแต่ได้รู้จักแฟนที่มีดีกรีเป็นนางงาม ปัจจุบัน นพ.อดิศร เป็นแพทย์เสริมความงามและผู้บริหาร วายบี คลินิก
“ผมเกิดมาในครอบครัวชนชั้นกลาง สมัยนั้นเด็กเรียนดีก็มี 2 ทางให้เลือก ไม่เป็นหมอก็เป็นวิศวกร ผมเกิดตรงกับวันมหิดล 24 ก.ย. ก็เหมือนกับถูกปลูกฝังโตมาต้องเป็นหมอนะ ซึ่งตรงกับความชอบของเราจึงไม่กดดันในการเรียนจากที่ใช้ชีวิตแต่ในกรุงเทพฯ พอไปเป็นหมอที่โรงพยาบาลต่างจังหวัด ได้ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ เห็นชาวบ้านที่ยากลำบากมาหาหมอ ตอนนั้นผมตั้งเป้าหมายชีวิตไว้ว่า อยากช่วยเหลือคนไข้ อยู่ที่นั่น 2 ปี
จุดหักเหได้คบผู้หญิงคนหนึ่งเขาเป็นนางงาม ดูแลเรื่องความสวยความงามเรื่อยๆ ผมได้พาแฟนไปดูแลเรื่องความสวยความงามอยู่บ่อยๆ ได้คลุกคลีกับการแพทย์ทางนี้
จนในที่สุดออกมาจากระบบราชการ มาอยู่กับหมอนิติพล อาจารย์คนแรก จากนั้นก็เรียนหาประสบการณ์เรื่อยๆ อยู่คลินิกอีกหลายแห่ง จนออกมาออกมาเปิดคลินิกของตัวเองได้ 7 ปีแล้ว”
แม้จะเป็นแพทย์ด้านเสริมความงาม แต่ นพ.อดิศร ก็ไม่ละทิ้งเป้าหมายในการช่วยเหลือคนไข้
“ทุกวันนี้เรายังรู้สึกได้ช่วยเหลือคน ผมไม่ทำธุรกิจในรูปแบบเชียร์ขาย อันไหนที่เป็นปัญหาของลูกค้าเราตอบโจทย์ได้ไหม อันไหนไม่ตอบโจทย์ทำไปแล้วไม่ได้แก้ปัญหา จะบอกตรงๆ ว่าทำไม่ได้
ลูกค้าที่อยากสวย เราพิจารณาว่าทำได้อีกไหม อย่างเสริมจมูกผิวหนังรับได้อีกไหม จะแก้ทรง ทรงที่เราเห็นเราสามารถทำได้ดีสวยกว่านี้ไหม ถ้าทำได้เราจะทำให้เขา เพราะผู้หญิงทุกคนตื่นมาเขาก็อยากเห็นตัวเองสวยมีความสุข ถ้าทำไม่ได้ จะแจ้งเขาทราบ ให้เขาดูข้อมูลทางการแพทย์ต่างๆ ว่าทำได้แค่นี้ ก็มีคนที่ดื้อดึงลักษณะที่ว่าขอทำรับผลที่จะเกิดขึ้นได้ ถ้ารับได้กับการเปลี่ยนแปลงไม่ชัดเจนแต่ทำแล้วมีความสุขเราก็ทำ แต่ถ้าดื้อดึงแบบหวังผลมากเราจะปฏิเสธคติของหมอ อย่าทำให้เกิดอันตรายมากขึ้น อันไหนที่ดูแล้วมีความเสี่ยง ผลที่ได้แลกคืนมาน้อย เราจะไม่ทำ”
ไม่ว่าทำงานประเภทไหนย่อมเผชิญกับปัญหาที่ก่อให้เกิดความเครียดได้ทั้งนั้น
“ต้องรับมือกับการดีลในความคาดหวังของลูกค้า ซึ่งเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ หน้าที่ของเรานอกจากผ่าตัดคืออธิบายว่าความคาดหวังที่เขามีเหมาะสมกับเขาไหม เพราะแต่ละคนมาก็มีหลายรูปแบบ
ตอนนี้สิ่งที่เราทำเป็นธุรกิจใหญ่มีทีมงานเยอะ แล้วพนักงานส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ก็จะมีปัญหาการบริหารพนักงาน ก็จะมีแบบทำไมคุณหมอเอ็นดูคนนี้ ทำไมใส่ใจแต่คนนั้น แต่เรามองทุกคนคือลูกทั้งหมดเราดูแลแบบครอบครัว
เมื่อก่อนผมเครียดผ่อนคลายด้วยการไปหาของอร่อยๆ กิน ใช้ชีวิตแบบนี้มาเกือบทั้งชีวิต พอมีลูกต้องมีความรับผิดชอบที่ดูแลเขา ลูก 3 คน มีอายุ 5 ขวบ 4 ขวบ และ 2 ขวบกว่า เมื่อก่อนคนไข้ทักคุณหมออ้วนเราก็ไม่ได้สนใจ แต่มีเหตุการณ์ญาติผู้ใหญ่เสียชีวิต แล้วลูกสาวบอกว่า ไม่อยากให้ปะป๊าไปสวรรค์ ผมจึงได้สติ เราต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้นเพื่อรับผิดชอบดูแลคนอื่นๆ ได้
ตอนนี้ออกกำลังกายมากขึ้น ที่คลินิกมีหนึ่งชั้นทำเป็นฟิตเนส นอกจากผมจะเล่นวันละ 1 ชั่วโมง ยังให้พนักงานเล่นด้วย หลังจากดูแลตัวเองได้รับคำชมจากคนรอบข้าง หลักๆ ดูดีขึ้น สุขภาพดีขึ้น คล่องตัวขึ้น เวลาทำงานยืนผ่าตัดนานๆ ทนได้มากขึ้น เมื่อก่อนปวดหลัง มีปัญหาเรื่องหมอนรองกระดูกเคลื่อน”
นอกจากหันมาออกกำลังกาย เรื่องการไปเที่ยวพักผ่อนเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทำเป็นประจำกับครอบครัว หากมีเวลาเพียง 1-2 วันก็เลือกทะเลใกล้ๆ กรุงเทพฯ
“งานจะเยอะแค่ไหนก็ต้องมีเวลาสำหรับลูกๆ ไปเที่ยวไปว่ายน้ำ กิจกรรมที่ลูกๆ ชอบคือเล่นเกมทายอะไรเอ่ย เรามีเกมให้ปะป๊าเป็นต้นไม้รัดตัวเขาไว้แน่นๆ ถ้าเขาทายคำปริศนาถูกก็จะปล่อยตัว ผลัดกันทายทีละคน เกมนี้เล่นแทบทุกคืนก่อนนอน เขาสนุกกันมาก
มีไปทำบุญทั้งที่วัดและตามสถานที่ต่างๆ นอกจากเราได้ดูแลจิตใจตัวเองยังเป็นการปลูกฝังให้กับลูกๆ ได้รู้จักแบ่งปัน ทำบุญกับคนกับสัตว์ ไปไหนจะพาลูกไปด้วย ให้เขาได้เห็นจริงๆ เวลาเรามีตังค์ต้องเผื่อแผ่”
ตอนนี้ธุรกิจกำลังไปได้ดี นพ.อดิศร บอกว่า เป้าหมายคือขยายสาขาไปต่างจังหวัด ซึ่งตอนนี้มีที่ จ.ขอนแก่น และ นครราชสีมา และต้องการขยายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
“วางมาตรฐานทีมงานที่ดีให้สามารถดำเนินงานต่อไปได้ แม้ไม่มีเขาคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะเมื่อถึงเวลาหนึ่งเขาขอกลับไปทำตามความฝัน ที่ทิ้งไว้กลางทางมาเพื่อก่อร่างสร้างตัวร่วมกับครอบครัว
ผมคิดว่าอายุ 50 กว่าๆ ผมอยากกลับไปเป็นหมอประจำโรงพยาบาลที่ต่างจังหวัด คงเป็นที่ จ.ขอนแก่น เพราะตอนนี้ภรรยากับลูกๆ อยู่ที่นั่น แต่จะเลือกโรงพยาบาลในอำเภอที่ห่างไกลความเจริญ
ผมคุยกับภรรยาตลอด อยากไปตรวจคนไข้ที่เขาเจ็บป่วย ซึ่งภรรยาก็มีแนวคิดเดียวกัน เราวางรากฐานไว้ให้ลูกๆ หมดแล้ว ถึงเวลาที่ต้องทำความฝันของตัวเอง เราอาจจะไม่ต้องลงมาควบคุม สร้างทีมคุณหมอฝีมือดี ไว้ใจได้ ดูแลแทน
ภาพตอนที่ผมทำงานที่โรงพยาบาลยังจำไม่เคยลืม คนไข้ป่วยมาหาหมอเดินทางมา 20 กิโลเมตร ต้องจ่ายเงินจ้างรถมา 2,000 บาท ไม่ได้มาง่ายๆ ถ้าเขาป่วยตรงกับช่วงเกี่ยวข้าวเขาก็อดทนทำจนเสร็จถึงมาหาหมอ บางคนมาไส้ติ่งแตกก็มี เพราะเขาทำงานรายวัน วันไหนหยุดก็ไม่มีเงินซื้อกินเลย เราเห็นแล้วอยากช่วยเหลือ
ความฝันในบั้นปลาย ผมเลยอยากกลับไปรักษาคนไข้ที่เขายากลำบาก โอกาสที่เขาจะได้รับเรื่องการดูแลสุขภาพเขาเข้าไม่ถึง เมื่อเขาป่วยแต่ละครั้งชีวิตเขาแทบจะทรุดไปเลย ขาดรายได้ หรือเสียเงินเพิ่มเมื่อเราส่งตัวเขาเข้าโรงพยาบาลประจำจังหวัด ชีวิตเขาขาดโอกาสต่างๆ เลยอยากกลับไปช่วย
โดยส่วนตัวผมอยู่เฉยไม่ได้ แม้จะพักงานจากคลินิกตัวเองก็ต้องทำงานรักษาคนไข้ การอยู่เฉยๆ ยิ่งทำให้เราเครียดมากขึ้น แล้วการเป็นหมอผมไม่เคยรู้สึกเหนื่อย มีความสุขที่จะทำอาชีพหมอต่อไป แนวคิดตรงกับภรรยาที่เราจะทำ เราบอกกับเขาแล้วเขารับรู้มาตลอด ถึงวันนั้นเขาก็พร้อมสนับสนุน
ผมมาจากครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย เราต้องสร้างเนื้อสร้างอะไรเอาไว้ ผมมองว่าการไม่มีธุรกิจคือความเสี่ยง เราวางรากฐานให้ลูกให้ทีมงานเขาจะไปต่อได้ แล้วเมื่อเรามีพร้อมแล้วเราควรจะให้กลับ คนเป็นหมอก็อยากรักษาคนไข้มาตลอด ถึงเวลาก็คงได้ทำ”


