#ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ซีพี จับมือเครือข่ายกลุ่มเกษตรยั่งยืนแม่วากโมเดล มอบกล้าพืชสวน 74,048 กล้า ให้ชาวอำเภอแม่แจ่ม

20 สิงหาคม 2563 – 09:12 น.
ซีพี ผนึกเครือข่าย กลุ่มเกษตรยั่งยืนแม่วากโมเดล มอบกล้าพืชสวน 74,048 กล้า ให้ชาวอำเภอแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ สร้างอาชีพใหม่ ทางรอดหลังวิกฤตโควิด-19
วันที่ 19 สค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อโลกตกอยู่ในสถานการณ์ที่ ไม่สามารถควบคุมได้ การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้น หลายคนทั่วโลกไม่ทันตั้งรับ หลายธุรกิจต่างปิดกิจการลงไปภายในระยะเวลาอันสั้น เหตุจากภัยไวรัสโควิด-19 ที่เข้ามาทำราย วิถีชีวิต ระบบเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและหากเรามองให้ครบในทุก มิติ จะเห็นถึง บริบทของสังคมที่ยังต้องการรับความช่วยเหลือ เมื่อมีคนล้ม อีกคนต้องช่วยกันพยุงกันขึ้น ที่มาสู่การเป็นของศูนย์เพาะพันธุ์กล้าไม้ ในพื้นที่ บ้านแม่วาก ต.แม่นาจร อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เพื่อการจ้างงานและฟื้นฟูป่า คืนการกลับมาของอาชีพ แก่ชาวบ้านและเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 จากสถานการณ์โควิด -19 ที่ผ่านมาส่งผลให้ชาวบ้านต่างได้ระผลกระทบจากการเลิกจ้างาน เป็นจำนวนมาก ตลอดในระยะเวลา 3 เดือน ที่บ้านแม่วาก ต.แม่นาจร อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ซีพีได้มอบศูนย์เพาะชำกล้าไม้ให้เพื่อช่วยเหลือยืนหยัดเคียงข้างคนไทยสู้ภัยโควิด-19 จ้างคนตกงานเข้าทำงานที่ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ฟื้นฟูป่าและเพิ่มพื้นที่สีเขียว


นายบุญลือ ธรรมธนานุรักษ์ นายอำเภอแม่แจ่ม กล่าวว่า ขอบคุณเครือเจริญโภคภัณฑ์ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ตระหนักและเล็งเห็นถึงปัญหาของชุมชนภายในพื้นที่ พร้อมทั้งยังเป็นเสมือนตัวช่วยในการขับเคลื่อนผลักดันให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง พร้อมเรียนรู้สู่ความยังยืนต่อไปในอนาคต พร้อมรับมือกับสถานการณ์ในวันข้างหน้าซึ่งในวันนี้ได้เกิดการจ้างงานของกลุ่มของเกษตรกรในพื้นที่อย่างแท้จริง โดยการนำต้นกล้าผักจากโรงเรือนเพาะปลูกมากระจายและส่งมอบให้กับ ชุมชนและผู้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อสร้างการกลับมาของอาชีพและประกอบการใช้โยชน์ของเกษตรกรต่อไป


นายนนท์ นาคะเสถียร ผู้จัดการทั่วไป หน่วยงานพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐ สำนักบริหารความยั่งยืน ธรรมาภิบาล และสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า ทางเครือมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนชุมชน สังคม ให้เกษตรกรในพื้นที่มีอาชีพและรายได้ สามารถเลี้ยงดูตนและครอบครัวอย่างมีความสุข หากการช่วยเหลือเยียวยา คือการกลับมาซึ่งความสุขของเกษตรกร เราพร้อมที่จะยืนหยัดเคียงข้าง ชุมชน สังคม ประเทศชาติ ให้เกิดการพัฒนามุ่งสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน ทางเครือฯ คาดหวังเพียงอยากให้ ชุมชน สามารถพึ่งพาตนเอง มีความเข้มแข็ง เกิดแรงขับเคลื่อนจากภายในมีความเข้าใจร่วมกัน โดยศูนย์เพาะพันธุ์กล้าไม้แห่งนี้จะกลายเป็นศูนย์กลางแห่งการขยายพันธ์พืช ฟื้นฟูป่า เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ในชุมชนโดยภายศูนย์เพาะชำกล้าไม้ฯนี้ประกอบไปด้วยโรงเรือนเพาะชำกล้าพันธุ์ไม้จำนวน 4 โรงเรือน ซึ่งสามารถเพาะชำกล้าไม้ ทั้ง ระยะสั้นและระยะยาวได้ถึง 102,500 กล้า/รอบ นอกจากนี้สถานที่แห่งนี้ยังสามารถใช้เป็นพื้นที่อรรถประโยชน์กับชุมชน ที่ได้มาจากการเพาะกล้าพืชผักระยะสั้น เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายครัวเรือน และเพื่อการฟื้นฟูป่าเพิ่มการกลับมาของพื้นที่สีเขียว สร้างเศรษฐกิจและ สังคม ชุมชน อันนำมาซึ่งสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่


ฟงหวิน ศักดิ์อัศวิน ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เชียงใหม่