ปั๊มรายได้ท่องเที่ยว 2.4 ล้านล้าน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/561343

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 12 ม.ค. 2559 07:15

 

ททท.ปรับแผนดูดเงินเศรษฐีเพื่อนบ้าน-คนไทย

“สมคิด” กระตุ้นท่องเที่ยวหารายได้ชดเชยส่งออก สั่งเพิ่มรายได้ท่องเที่ยวปี 59 เป็น 2.41 ล้านล้านบาท จากเดิม 2.3 ล้านล้านบาท ด้าน “กอบกาญจน์–ยุทธศักดิ์” เพิ่มแผนดึงเศรษฐี CLMV เที่ยวไทย และจัดโครงการ “เที่ยวช่วยไทย” นักเที่ยวไทยลุ้นโชคทุกเดือน เดือนละล้าน และร่วมชิงบ้าน–รถยนต์ทุกไตรมาส ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นท่องเที่ยวไตรมาสแรกปี 59 พุ่ง หลังภาคธุรกิจท่องเที่ยวเชื่อมั่นมากขึ้น

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังจากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายด้านการท่องเที่ยว โดยเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนมาร่วมรับฟังว่า ที่ประชุมได้ตกลงร่วมกันที่จะเพิ่มเป้าหมายรายได้รวมจากการท่องเที่ยว ทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ และคนไทยเที่ยวในประเทศ ตลอดทั้งปี 59 เป็น 2.41 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นอีก 110,000 ล้านบาท จากเดิม 2.3 ล้านล้านบาท ส่วนตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะไม่พูดถึง เพราะจะเน้นเป้าหมายรายได้เป็นหลัก พร้อมกันนี้ จะมุ่งเจาะนักท่องเที่ยวต่างชาติในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนามให้มากขึ้น

ขณะที่นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการ ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การกำหนดเป้าหมายรายได้ท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 2.41 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.56 ล้านล้านบาท และนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทย 850,000 ล้านบาท ขณะที่ในปี 58 มีรายได้รวม 2.23 ล้านล้านบาท เป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.44 ล้านล้านบาท และนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทย 790,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ นายสมคิด ได้ให้นโยบายส่งเสริมให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น และเที่ยวทุกเดือน ดังนั้น ททท.จะร่วมกับภาคเอกชนจัดโครงการ “เที่ยวช่วยไทย” โดยจัดทำแพ็กเกจท่องเที่ยวราคาพิเศษ ซึ่ง ททท.จะหารือกับสายการบินหลัก 5 สายการบิน ขอตั๋วที่นั่งราคาพิเศษ 100,000 ที่นั่ง และสมาคมโรงแรมลดราคาห้องพักตามวันเกิด หรือคืนที่สองลด 50% ขณะที่ผู้ซื้อแพ็กเกจนี้จะได้ลุ้นโชคเงินล้านทุกเดือน และในทุกไตรมาสอาจมีรางวัลพิเศษ เช่น บ้าน รถยนต์ รวมถึงจะหารือกระทรวงการคลังถึงความเป็นไปได้ที่ให้คนไทยที่เดินทางสนามบินในประเทศช็อปปิ้งในร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) ได้ด้วย

นอกจากนั้น ในปีนี้มีช่วงวันหยุดยาวถึง 11 ช่วงจึงจะจัดกิจกรรมใหญ่ๆทุกไตรมาส เพื่อดึงไม่ให้คนไทยเที่ยวต่างประเทศมากนัก เช่นกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีดำริให้จัดคอนเสิร์ตระดับโลก โดยมีโบราณสถาน หรือแหล่งท่องเที่ยวเป็นฉากหลัง รวมถึงจะจัดถนนคนกิน เพื่อส่งเสริมครัวไทยสู่โลก ซึ่งจากแผนที่จัดแพ็กเกจ “เที่ยวช่วยไทย” และการเจาะตลาด CLMV จะมีรายได้ เพิ่มขึ้นอีก 50,000 ล้านบาท จากเป้าหมายล่าสุดที่ 2.41 ล้านล้านบาท รวมเป็นทั้งสิ้น 2.46 ล้านล้านบาท

ด้านนายสมคิด กล่าวว่า ได้ระดมสมองทุกฝ่ายเพื่อดูแลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ดีที่สุด โดยต้องการให้ได้รายได้เกินเป้าหมาย เพื่อนำรายได้มาทดแทนการส่งออก ซึ่งประเมินว่า ปีนี้จะทำได้ดีขึ้น จากปีที่ผ่านมาทะลุเป้าหมายทั้งจำนวนคนและรายได้ จึงต้องการ 2 ส่วนคือ 1.ลงทุนพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งในช่วงเศรษฐกิจไม่ค่อยดีเป็นโอกาสที่จะพัฒนาท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ขณะที่รัฐบาลมีนโยบายเน้นการเติบโตจากภายใน ซึ่งการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยในประเทศ และการพัฒนาท่องเที่ยวเป็นเรื่องใหญ่ ในปีนี้รัฐบาลมีนโยบายที่จะจัดงบประมาณ ให้ตามวาระที่กำหนด โดยการท่องเที่ยวเป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐบาลสนับสนุน ดังนั้น ต้องเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างดี และมีเหตุมีผล

2.ในเร็วๆนี้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จะออกมาตรการส่งเสริมการลงทุน เพื่อจูงใจการลงทุนที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม หรือบริการที่เกี่ยวข้อง อาจไม่ใช่โครงการขนาดใหญ่ หรือทำแหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่แล้วให้ได้รับความนิยม เช่น การพัฒนาบ้านอรัญญิกให้เป็นจริง ไม่ใช่ห้องแถว และสร้างเรื่องราวของแหล่ง ท่องเที่ยวขึ้น พร้อมกันนี้ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ทำโครงการ “หนึ่ง ตำบล หนึ่งแหล่งท่องเที่ยว” หรือในจังหวัดเล็ก อาจเป็น “หนึ่งอำเภอ หนึ่งแหล่งท่องเที่ยว”

สำหรับการจัดทำโครงการ “เที่ยวช่วยไทย” ได้ขอให้ออกแพ็กเกจราคาที่ชาวบ้านพาครอบครัวไปเที่ยวได้ ซึ่งในเรื่องของรางวัล นายกลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) ททท. ซึ่งอยู่ในคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน ได้รับจะไปจัดหาให้ ส่วนนโยบายของ รมว.การท่องเที่ยว ที่ต้องการดึงเศรษฐีกลุ่ม CLMV ที่มีจำนวนมากเข้ามาเที่ยวไทยได้ขอให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ลดค่า ธรรมเนียมการจอดให้สายการบินต่างชาติที่จะเข้ามาเพิ่มด้วย “ถ้าธุรกิจท่องเที่ยวดีขึ้น การจ้างงานก็จะดีขึ้น การท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ จะไม่ปล่อยให้ฟุบลง ในยามบ้านเมืองสงบ ขอให้ช่วยกันคนละไม้คนละมือพัฒนาท่องเที่ยวไทยให้แข็งแรง”

ส่วนนายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุต– สาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวประจำไตรมาส 1 ปี 59 ว่า อยู่ในระดับ 103 สูงกว่าค่าปกติที่อยู่ในระดับ 100 บ่งบอกถึงความมั่นใจของธุรกิจท่องเที่ยวที่มีต่ออุตสาหกรรมในประเทศ จนทำรายได้สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 30,000 ล้านบาท จึงประเมินว่า ปีนี้รายได้ท่องเที่ยวน่าจะได้ถึง 2.41 ล้านล้านบาทได้ เพราะนอกจากมาตรการด้านท่องเที่ยวแล้ว ยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆที่ช่วยส่งเสริมบรรยากาศภาพรวมที่ดีต่อการท่องเที่ยวด้วย.

Leave a comment