นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยผลจัดระเบียบรถสาธารณะเมื่อเดือน ธ.ค.58 ว่า ขนส่งทางบกได้ตรวจพบการกระทำผิดรวม 1,640 ราย สูงสุดเป็นรถแท็กซี่ 1,001 ราย ความผิดส่วนใหญ่เป็นการปฏิเสธรับผู้โดยสาร 294 ราย ไม่นำรถเข้าตรวจสภาพตามกำหนด 271 ราย ใช้รถไม่จดทะเบียนหรือไม่ชำระภาษี 168 ราย ส่วนรถตู้โดยสารสาธารณะ พบทำผิด 449 ราย ส่วนใหญ่ใช้ความเร็วเกินกำหนด 128 ราย อุปกรณ์ส่วนควบไม่ถูกต้อง 87 ราย ขณะที่รถจักรยานยนต์สาธารณะทำผิด 190 ราย ส่วนใหญ่ฝ่าฝืนใช้รถจักรยานยนต์ป้ายดำ 154 ราย

“จำนวนรถแท็กซี่ที่มีพฤติกรรมปฏิเสธผู้โดยสาร 294 ราย พบว่าเกือบทั้งหมดเป็นรถแท็กซี่ที่ให้บริการบริเวณราชประสงค์ 277 ราย และพบการปฏิเสธผู้โดยสารซ้ำซาก ซึ่งได้พิจารณาพักใช้ใบอนุญาตขับรถทันที 4 ราย และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันทีอีก 2 ราย นอกนั้นได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับ”

นายสนิทกล่าวว่า จากสถิติไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 59 ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค.58 ส่งผลให้ผลรวมการดำเนินการมาตรการพักใช้เพิกถอนใบอนุญาตขับรถ ตั้งแต่เริ่มใช้มาตรการ เมื่อวันที่ 1 เม.ย.57-31 ธ.ค.58 มีผู้ขับรถแท็กซี่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตแล้ว 4 ราย และถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต 236 ราย ส่วนผู้ขับรถตู้ถูกพักใช้ใบอนุญาตขับรถ 19 ราย ความผิดส่วนใหญ่ ได้แก่ ปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร ไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร ใช้รถไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียน ไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ได้ตกลงกันไว้ ทั้งนี้ ขนส่งทางบกได้กำชับผู้กระทำความผิดที่ถูกเปรียบเทียบปรับทุกรายให้ปรับปรุงการให้บริการ หากพบร้องเรียนและตรวจสอบพบความผิดฐานเดิมซ้ำอีก จะพักใช้เพิกถอนใบอนุญาตทันที”.