ซุปเปอร์โฮลดิ้งเกิดไตรมาส 3 “ประสาร” ยันปลอดจากอำนาจการเมืองไม่ได้

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/564702

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 19 ม.ค. 2559 08:20

 

คนร.ไฟเขียวกฎหมายจัดตั้งซุปเปอร์โฮลดิ้ง คาดได้เห็นไตรมาส 3 ปีนี้ “ประสาร” ชี้ไม่ใช่ยาวิเศษ แต่จะเปลี่ยนการบริหารที่ไม่ปกติ ให้กลับมาปกติ ยอมรับตัดการเมืองออกไม่ได้เพราะเป็นกลไกสำคัญในการบริหารประเทศ ยกเลิกให้ใบแดงรัฐวิสาหกิจหลังแก้ปัญหาคืบหน้า แต่กำหนดประเมินผลการแก้ไขปัญหาของ 7 รัฐวิสาหกิจอีกครั้ง มี.ค.2559

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานคณะอนุกรรมการเตรียมการจัดตั้งบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติ (ซุปเปอร์โฮลดิ้ง) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน ได้เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ…. เพื่อรองรับการจัดตั้งซุปเปอร์โฮลดิ้ง และได้มีการปรับปรุงแก้ไขตามความเห็นและข้อเสนอแนะของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน โดยเฉพาะสหภาพ แรงงานรัฐวิสาหกิจ และมอบหมายให้กระทรวงการคลังพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา โดยคาดว่าหลังจากนี้ไป 2 เดือนจะเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และคาดว่าภายในช่วงไตรมาสที่ 3 ปีนี้ จะสามารถเห็นซุปเปอร์โฮลดิ้งได้

“การจัดตั้งซุปเปอร์โฮลดิ้ง มีกระทรวงการคลังถือหุ้น 100% ขึ้นมาเป็นเจ้าของ 12 รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ ที่เป็นบริษัทมหาชน และบริษัทจำกัด โดยกฎหมายใหม่ที่จะออกมาครั้งนี้ ได้กำหนดสัดส่วนของคณะกรรมการซุปเปอร์โฮลดิ้ง ให้มาจาก ฝ่ายรัฐบาล 5 คน ข้าราชการ 5 คน และผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน ทำให้ไม่สามารถตัดขาดจากการถูกแทรกแซงทางการเมือง เพราะต้องยอมรับว่ารัฐวิสาหกิจเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน เป็นกลไกสำคัญในการบริหารประเทศ จึงตัดขาดจากรัฐบาล 100% เป็นไปไม่ได้ แต่ก็ต้องรักษาความสมดุลไว้และหากลไกอื่นมาทำให้เกิดความโปร่งใสและมีการเปิดเผยข้อมูล โดยมีกรอบบรรษัทภิบาลที่ดี ทั้งการสรรหา แต่งตั้ง การบริหาร เปิดเผยข้อมูล และมีมาตรการลดโอกาสถูกใช้ทำนโยบายประชานิยมที่ไม่รับผิดชอบ”

นายประสาร กล่าวด้วยว่า แนวทางที่ดำเนินการนี้เป็นการปฏิรูปเชิงสถาบันไม่ใช่การแปรรูป ไม่ใช่ลดสัดส่วนการถือหุ้นจนรัฐวิสาหกิจพ้นจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จะนำร่างกฎหมายที่ผ่านการปรับปรุงแก้ไขประกาศลงในเว็บไซต์ของสคร.ทันที ขณะที่ซุปเปอร์โฮลดิ้งเกิดขึ้นมาแล้วคงไม่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของ 12 รัฐวิสาหกิจในทันที เพราะไม่ใช่ยาวิเศษ เป็นเพียงการทำให้การทำงานของรัฐวิสาหกิจเป็นไปได้ด้วยความปกติ จากปัจจุบันที่ไม่ปกติ

ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการ สคร. กล่าวว่า ที่ประชุม คนร.ยังรับทราบผลการดำเนินงานตามแผนแก้ไขปัญหาของรัฐวิสาหกิจ 7 แห่ง ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดการแก้ไขปัญหาของทุกรัฐวิสาหกิจมีความคืบหน้าและพัฒนาดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบปัญหาแล้ว และได้สั่งให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองแผนการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจไปดูรายละเอียดของปัญหาสำคัญว่าจะมีแนวทางแก้ไข โดยขอให้ยกเลิกคาดโทษรัฐวิสาหกิจโดยการให้ใบเหลืองใบแดง เนื่องจากแต่ละรัฐวิสาหกิจมีความคืบหน้าในการแก้ปัญหา แต่ขอให้มีการประเมินผลงานออกมาเป็นระดับดีมาก ดี พอใช้ และควรปรับปรุง หากภายในเดือน มี.ค.นี้ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจใดยังแก้ไขปัญหาไม่เสร็จ จะมีมาตรการออกมาบังคับต่อไป

สำหรับความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาของทั้ง 7 รัฐวิสาหกิจนั้น ประกอบด้วย บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสทโทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) มีความคืบหน้าไปในทางที่ดีขึ้น โดยที่ประชุมมอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ไปกำหนดบทบาทและทิศทางที่สำคัญ โดยเฉพาะเรื่องการเจรจาเสาโทรคมนาคมให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ล่าสุดยังมีความล่าช้าเรื่องการส่งมอบพื้นที่ย่านมักกะสันให้กระทรวงการคลัง ที่ต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จภายใน 2 ปี ยกเว้นพื้นที่โรงพยาบาลและบ้านพักให้เสร็จใน 3 ปี และการกำหนดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการต่างๆของ ร.ฟ.ท.เพื่อลดภาระภาครัฐ เช่น การเดินรถไฟสายสีแดง และแอร์พอร์ตลิ้งค์ส่วนต่อขยาย

ด้านองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้เร่งรัดให้เสนอโครงการจัดหารถโดยสารให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาภายในเดือน มี.ค.นี้ โดยพิจารณาประเภทและจำนวนที่เหมาะสม รวมทั้งการ จัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน พร้อมกับระบบตั๋วร่วม และการให้เอกชนเข้ามาเดินรถเพิ่มเติม ส่วนบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แม้ว่าที่ผ่านมาจะปรับลดค่าใช้จ่ายลงไปแล้ว 7,200 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่ได้ตามที่ คนร.กำหนด 10,000 ล้านบาท และสั่งให้เร่งทำแผนและกำหนดเวลาการจัดการตัวแทนจำหน่าย (เอเย่นต์) ให้ชัดเจนและเสนอให้คนร.ในเดือน มี.ค.นี้ พร้อมกับชะลอการจัดหาเครื่องบินที่ยังไม่มีความจำเป็น ขณะที่ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) ให้เร่งรัดลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่มีอยู่ลงอีก.

Leave a comment