ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือเทคโนโลยีชาวบ้าน
http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05115150858&srcday=2015-08-15&search=no
| วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 27 ฉบับที่ 605 |
ฎีกาชาวบ้าน
โอภาส เพ็งเจริญ o-pas@matichon.co.th
เจตนาฆ่า
“เดี๋ยวๆ สักวันมึงเจอกูแน่” คุณเงือบไม่พอใจคุณโผง ข่มขู่เอาไว้ เมื่อคุณโผงผู้มีตำแหน่งเหนือกว่าคุณเงือบ ออกปากตักเตือนห้ามปรามไป เพราะเห็นว่าคุณเงือบนั้น ส่งเสียงดังเอะอะระหว่างทำงาน และเกิดมีปากเสียงเถียงกันขึ้น
หลังจากวันนั้น ยังมีเหตุตามมาอีกหลายหน ซึ่งคุณเงือบข่มขู่เอาไว้ว่า สักวันคุณโผงจะต้องโดนดี
ต่อมาคุณเงือบลาออกจากงานไป ขณะคุณโผงยังทำงานต่อในโรงงานเดิม
วันหนึ่งหลังจากนั้น คุณโผงขับรถจักรยานยนต์ไปรับคุณนวลเนียน ภริยา และลูกนั่งซ้อนจักรยานยนต์มาด้วยกันจะกลับบ้าน
คุณเงือบซ้อนจักรยานยนต์ที่พวกขับให้มาขวางหน้า ระยะประชิดเพียง 1 เมตร แล้วคุณเงือบสาดน้ำกรดใส่คุณโผง คุณนวลเนียนและลูก ก่อนจะบึ่งรถหลบหนีไป
คุณโผงโดนเข้าอย่างจัง ทั้งตามบริเวณร่างกาย ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ของร่างกาย ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลถึง 50 วัน จึงหาย คุณนวลเนียนโดนที่ใบหน้า ส่วนลูกโดนที่แขน
พนักงานอัยการดำเนินคดีกับคุณเงือบ ว่าร่วมกับพวกที่หลบหนี โดยเจตนาฆ่า โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันใช้น้ำกรดสาดใส่คุณโผงผู้เสียหาย คุณนวลเนียนภริยาและลูก
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า คุณเงือบกระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) ประกอบ มาตรา 80, 83, 52 (1) ให้จำคุกตลอดชีวิต ให้ชำระเงินค่าเสียหายแก่คุณโผง คุณนวลเนียนและลูก
คุณเงือบอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
คุณเงือบฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้น้ำกรดจะมิใช่อาวุธโดยสภาพ แต่เป็นสารเคมีชนิดกรดเกลือ มีคุณสมบัติกัดกร่อนชนิดรุนแรง ที่ทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต พิจารณาสภาพบาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับ ตามภาพถ่ายประกอบคดี ประกอบภาชนะที่คุณเงือบใส่น้ำกรดมาเป็นถังแกลลอนตักแบ่งครึ่งแล้ว เห็นว่า น้ำกรดที่นำมาสาดใส่ผู้เสียหายทั้งสาม นอกจากมีความเข้มข้นสูงแล้ว ยังมีปริมาณมาก จึงทำให้คุณโผงมีบาดแผล ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ของร่างกาย คุณเงือบย่อมเล็งเห็นได้ว่า การกระทำของตนกับพวก เป็นเหตุให้ผู้เสียหายทั้งสามถึงแก่ความตายได้
การที่คุณเงือบกับพวกเตรียมน้ำกรดดังกล่าว มาเพื่อสาดใส่ผู้เสียหายทั้งสาม จึงเป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ที่ศาลล่างทั้งสอง พิพากษาว่า คุณเงือบมีความผิดฐานพยายามฆ่า ผู้เสียหายทั้งสามโดยไตร่ตรองไว้ก่อนนั้นชอบแล้ว คุณเงือบจึงต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหายทั้งสาม ตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์
ฎีกาของคุณเงือบ ฟังไม่ขึ้น
(เทียบคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9711/2557)
——————————————–
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 59 บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา เว้นแต่จะได้กระทำโดยประมาท ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาท หรือเว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยแจ้งชัด ให้ต้องรับผิดแม้ได้กระทำโดยไม่มีเจตนา
กระทำโดยเจตนา ได้แก่ กระทำโดยรู้สำนึกในการที่กระทำ และในขณะเดียวกันผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น
ถ้าผู้กระทำมิได้รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิด จะถือว่าผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นมิได้
กระทำโดยประมาท ได้แก่ กระทำความผิดมิใช่โดยเจตนา แต่กระทำโดยปราศจากความระมัดระวัง ซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่
การกระทำ ให้หมายความรวมถึงการให้เกิดผลอันหนึ่งอันใดขึ้น โดยงดเว้นการที่จักต้องกระทำเพื่อป้องกันผลนั้นด้วย
มาตรา 289 ผู้ใด
(4) ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ต้องระวางโทษประหารชีวิต
เรื่อง – ฉัตรทอง : ไม้พุ่ม มากสรรพคุณ
คอลัมน์ – ปลูกต้นไม้จากหนังสือ
โดย -สุวรรณ พันธุ์ศรี
เมื่อต้นเดือน นั่งฟังเพื่อนบ่นเรื่องปัญหารถติดของสังคมไทย
เพื่อนมันว่า เมืองไทยมีกฎหมายและผู้ปฏิบัติไม่เข้มแข็ง และศักดิ์สิทธิ์
มีเสรีภาพที่ฟุ่มเฟือย จนเกิดลัทธิเอาอย่าง กระทั่งไม่เคารพกฎกติกา
ความอยากได้ใคร่มีของคนไทย ทำให้เกิดการจราจรติดขัด
ที่สำคัญคือ คนไทยไม่มีวินัยและจิตสำนึกที่ดี
ถ้าหากคนไทยมีวินัยและจิตสำนึกที่ดี กีฬาหลายประเภทจะติดอันดับโลก เพื่อนบ้านบ่นอย่างนั้น
นั่งฟังเพื่อนบ่นแล้วก็พอจะเห็นคล้อยไปกับมัน
และที่อ้างว่า เพื่อความเจริญนั้นจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ดูไปแล้วมันออกจะจลาจลเสียมากกว่า
ปีหน้าก็จะเข้าประชาคมอาเซียน ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่เกิดความวุ่นวาย
เจ้าหน้าที่ที่ต้องดูแลความสงบและความมั่นคง จะต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับปัญหาที่จะเกิดตามมา
ที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก ก็ปัญหาเรื่องอาชญากรรม
เมื่อรั้วบ้านเปิดเสรี ก็ต้องระวังขโมยขโจรที่แฝงมาในรูปแบบต่างต่าง
ทุกคนที่อยู่ในบ้านก็ขอให้คอยระวัง
ปลูกต้นไม้ปักษ์นี้ จะชวนปลูกต้น “ฉัตรทอง”
ต้นฉัตรทองนี้ นักเลงต้นไม้ จัดอยู่ในจำพวกไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นตั้งตรง สีเขียว มีขนอ่อนปกคลุม สูงประมาณ 3 เมตร
ลักษณะของใบฉัตรทอง ออกเป็นใบเดี่ยวสลับกันไปตามลำต้น รูปใบคล้ายดาว สีเขียว ตรงโคนใบจะเว้าเป็นรูปหัวใจ
ฉัตรทองที่โตแล้ว เมื่อมีดอกจะออกดอกเป็นดอกเดี่ยว รูปดอกคล้ายถ้วย มี 5 กลีบ ซ้อนกัน
ดอกฉัตรทอง จะมีทั้งสีแดง ขาว และชมพู กลางดอกจะมีเกสรสีเหลือง
พอดอกเริ่มจะโรยก็จะติดผล ลักษณะของผลทรงกลมแต่แบน ภายในจะมีเมล็ดอยู่เป็นจำนวนมาก
คนแต่โบราณท่านเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากต้นฉัตรทอง โดยนำ ราก ใบ ดอก เมล็ด และยอดอ่อน มาใช้เข้ายาสมุนไพร
ราก มีสรรพคุณแก้หนองใน ตกเลือด ตกขาว แก้อาเจียน ขับปัสสาวะ
ใบ และยอดอ่อน มีสรรพคุณแก้โรคฝี หนอง แผลอักเสบ
ดอก มีสรรพคุณแก้ไข้ ขับปัสสาวะ แก้อาเจียน ตกเลือด หรือตกขาว
เมล็ด มีสรรพคุณแก้ท้องผูก แก้โรคหนองใน
นี่คือ ผลพวงที่ได้จากการปลูกต้นฉัตรทอง
ผลจากภัยแล้งเพราะขาดต้นไม้ ก็อยากให้ช่วยกันปลูก เพื่อลูกหลานในอนาคตจะได้ไม่นินทาลับหลัง
ปลูกวันนี้ พรุ่งนี้จึงมีหวัง