กกต.ชงสูตร 3 ป. โรดแมปประชามติ’59

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

09 มกราคม 2559 เวลา 09:50 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/analysis/politic/409161

กกต.ชงสูตร 3 ป. โรดแมปประชามติ’59

โดย…ชัยรัตน์ พัชรไตรรัตน์

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศพร้อมทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญโดย สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง แถลง Mind Map ประชามติ “59” ระบุว่าจะยึดแนวทางสาม ป. คือ ป.ที่หนึ่ง ประชาชนสะดวกทั้งเวลาสถานที่ ขั้นตอน และประชาชนที่มีความจำเป็นแตกต่างกันไป ในมิติต่างๆ เช่น วันลงประชามติ 31 ก.ค. จะขยายเวลาลงประชามติจากเดิม 08.00-15.00 น. เป็น 08.00-18.00 น. เพื่อให้ประชาชนมีเวลาใช้สิทธิมากกว่าเดิม

สำหรับเรื่องสถานที่ เพื่อให้หาหน่วยลงคะแนนง่ายและสะดวก จะมีแอพพลิเคชั่น “ดาวเหนือ” เพียงกรอกหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก เครื่องจะบอกว่าใช้สิทธิที่หน่วยไหน สถานที่ พร้อมแผนที่ไปหน่วยลงคะแนน ซึ่งแม่นยำ 100% เพราะที่ผ่านมาได้มีการส่งคนไปยังสถานที่ใช้เป็นหน่วยเลือกตั้งจริง ยกเว้นบางพื้นที่ที่สัญญาณมือถือเข้าไปไม่ถึง

“แอพพลิเคชั่นนี้จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 ม.ค. พร้อมให้ดาวน์โหลดทดลองใช้ในวันดังกล่าว เวลา10.00 น. โดยมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือในการติดตั้ง เพื่อให้ประชาชนรู้ตัวเองว่าใช้สิทธิที่ไหน ไปสถานที่ถูกต้องหรือไม่ บอกระยะทาง เวลาในการเดินทาง”

ขณะเดียวกัน กกต.ยังอำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการและผู้สูงอายุ ด้วยการสำเร็จว่าอยู่ในพื้นที่ใด โดย กกต.จะจัดจุดรวมพิเศษให้กับผู้พิการและผู้สูงอายุในการทำประชามติ โดยอำนวยความสะดวกทั้งรูปแบบและคูหาบัตร ซึ่งในวันที่ 15 ม.ค. เวลา09.00-12.00 น. กกต.จะเชิญผู้พิการมาทดลองใช้เครื่องมือในรูปแบบใหม่ที่ศูนย์ศึกษาประชาธิปไตย

ด้านเครื่องมือสมัยใหม่ เช่น การ์ดรีดเดอร์ในการอ่านบัตรประชาชนที่เป็นสมาร์ทการ์ด จะใช้นำร่องในบางพื้นที่ โดยประชาชนสามารถเลือกลงคะแนนแบบเดิมหรืออิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ เอกสารแจ้งเจ้าบ้านสามารถฉีกตามรอยปรุขนาดเท่าบัตรประชาชนไปใช้สิทธิได้เลย

สำหรับการลงคะแนนนอกเขตเลือกตั้ง ประชาชนสามารถแจ้งความประสงค์ลงประชามติผ่านทางอินเทอร์เน็ต พร้อมระบุว่าไปใช้สิทธิหน่วยใด เพื่อสะดวกต่อการเดินทาง เช่น ภูมิลำเนาอยู่ จ.แม่ฮ่องสอน แต่มาทำงานกรุงเทพฯ ก็สามารถลงทะเบียนเลือกสถานที่ได้ใน 50 เขตกรุงเทพฯ โดยต้องลงทะเบียนขอใช้สิทธินอกเขตจังหวัดก่อนลงประชามติภายใน 30 วัน เพราะการลงประชามติจะลงพร้อมกันวันเดียวทั่วประเทศ จะไม่มีการลงคะแนนล่วงหน้าเหมือนการเลือกตั้ง รวมถึงจะไม่มีการให้ลงคะแนนนอกราชอาณาจักร

ป.ที่สอง ประชามติเที่ยงธรรม กกต.เปิดโอกาสให้ผู้เห็นด้วยไม่เห็นด้วยได้แสดงความเห็นอย่างเท่าเทียม เที่ยงธรรม สามารถพูดเผยแพร่ได้ โดยจะมีการจัดสรรเวลาให้เท่าเทียม เช่น องค์กรที่ประสงค์แสดงความคิดเห็นระดับจังหวัดหรือประเทศให้มาจดทะเบียนที่ กกต. เพื่อจัดสรรเวลาออกอากาศเท่าเทียมกัน หรือรูปแบบอื่นๆ เช่น โปสเตอร์ ก็สามารถทำได้ แต่ต้องสร้างความเสียเปรียบได้เปรียบทางการเมือง

ทั้งนี้ กกต.เตรียมทำเอกสารชี้แจงผู้มีสิทธิเพื่อให้ตัดสินใจก่อนไปลงประชามติ ทั้งข้อเสนอและคัดค้าน รวมทั้งให้ประชาชนมีสิทธิสอดส่องดูแลการลงประชามติ ด้วยการทำแอพพลิเคชั่น “ตาสับปะรด” ให้ประชาชนสามารถแจ้ง กกต. หากพบเห็นสิ่งผิดปกติไม่เป็นธรรมไม่เป็นกลางของเจ้าหน้าที่ สามารถถ่ายภาพนิ่งหรือเคลื่อนไหวและอัดเสียงส่งให้กับ กกต.ได้ โดยจะมีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างดี

ป.ที่สาม ประชาธิปไตยคุณภาพ การทำประชามติต้องอยู่บนพื้นฐานความรู้ความเข้าใจของประชาชน ในเนื้อหาระดับหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องทุกมาตราหรือเท่ากับนักกฎหมาย ก่อนตัดสินใจว่ารับหรือไม่รับ ถ้าการตัดสินใจมาจากความรู้ ก็ถือว่าเป็นคุณภาพ ดังนั้นจำเป็นต้องเผยแพร่รัฐธรรมนูญและบทสรุป เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ โดยต้องส่งถึงมือประชาชน 80% หรือ 16.7 ล้านฉบับ

ขณะเดียวกัน กกต.เตรียมจัดทำแอพพลิเคชั่น “ฉลาดรู้” เพื่อย่อยสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประชาชนอ่านและเข้าใจง่าย โดยเฉพาะประเด็นสำคัญที่มีการถามตอบกันมากและที่ประชาชนอยากรู้ สามารถดูรายละเอียดในแอพพลิเคชั่นนี้ ทั้งหมดจะเสร็จก่อนทำประชามติอย่างแน่นอน

ขณะที่การรายงานผลการนับคะแนน หากใช้ระบบเดิมจะล่าช้าแม้แม่นยำแต่ต้องนับคะแนนเป็นวัน ดังนั้นเพื่อความรวดเร็วให้รายงานอย่างไม่เป็นทางการให้ประชาชนทราบไม่เกิน 3 ชั่วโมงหลังปิดหีบ และคาดว่าประกาศได้ไม่เกินเวลา21.00 น. ซึ่งเป็นการนับคะแนนจากหน่วยลงคะแนนส่งตรงมาส่วนกลางเพื่อประกาศผล คาดว่าจะรายงานผลได้ถูกต้อง 95% และเกณฑ์การออกเสียงทำประชามติไม่ใช่หน้าที่ของ กกต. เพราะเป็นแค่เครื่องมือทำประชามติ

ทั้งหมดนี้จะสัมฤทธิผลหรือไม่ วัดกันในสถานการณ์จริง ซึ่งอีกไม่นานจะรู้กัน

 

Leave a comment