คสช.แนวร่วมถดถอย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

13 มกราคม 2559 เวลา 09:54 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/analysis/politic/409834

คสช.แนวร่วมถดถอย

โดย…ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

เสถียรภาพและความเชื่อมั่นที่มีต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำลังลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ ในจังหวะเดียวกับที่ “แนวร่วม” หลายกลุ่มที่เคยยืนเคียงบ่าเคียงไหล่คอยสนับสนุนการทำงานเริ่มตีตัวออกห่าง

นับจาก กปปส.เริ่มจุดประเด็น “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” จนมีมวลชนเรือนล้านออกมาเป่านกหวีดขับไล่รัฐบาลเพื่อไทย ก่อนที่ทุกอย่างเริ่มตีบตันจนสุดท้ายหนีไม่พ้นการรัฐประหาร ​พร้อมเริ่มต้นกระบวนการปฏิรูป

ต้องยอมรับว่า “มวลมหาประชาชน” จากภาคส่วนต่างๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหว กลายเป็น “แนวร่วม” ไม่ว่าจะโดยสมัครใจ หรือไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้

แต่ทั้งหมดต้องทำหน้าที่เสมือน “นั่งร้าน” ค้ำยันประคับประคองให้การทำงานของ คสช.ราบรื่นเพื่อเดินหน้าไปสู่เป้าหมายตามโรดแมป ด้วยความหวังที่ว่านี่ จะเป็นทางออกที่พาประเทศก้าวพ้นวังวนความขัดแย้ง และเป็นจุดเริ่มต้นคลี่คลายสลายความขัดแย้งเดินหน้าสู่การปรองดอง ​

นี่ทำให้เสถียรภาพในช่วงแรกของ คสช.เป็นไปอย่าง “ราบรื่น” และ “เข้มแข็ง” ยิ่งใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในมือจัดระเบียบสังคม วินมอเตอร์ไซค์ วินรถตู้ แผงลอย กลุ่มผู้มีอิทธิพล ยิ่งทำให้คะแนนนิยมพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว

แต่ยิ่งอยู่ในอำนาจนานเท่าไหร่ แนวร่วมที่เคยเหนียวแน่นกลับค่อยถอนตัวออกห่าง ​หลายกลุ่มมีทีท่าจะกลายเป็นปฏิปักษ์ต่อ คสช.ด้วยซ้ำ

เริ่มจากกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากพื้นที่ภาคใต้ แถมมีจำนวนไม่น้อยที่ออกมาร่วมเคลื่อนไหวกับ กปปส.อยู่หลายเดือน และส่งสัญญาณเรียกร้องให้กองทัพเข้ามาผ่าทางตันเดินหน้าปฏิรูปอย่างที่ตั้งใจ

ทว่า หลัง คสช.เข้ามาบริหารประเทศ ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ยังเป็นโจทย์ที่รัฐบาล คสช.​ยังแก้ไม่ตก ตรงกันข้ามปัญหากลับรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

ราคายางที่ต่ำลงเรื่อยๆ จนถึงสามกิโลร้อย ทำให้ชาวสวนยางต้องออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งในช่วงนี้ ยิ่งมาตรการช่วยเหลือเยียวยาของรัฐบาลที่ผ่านมานั้นดูจะไม่เป็นไปตามความต้องการ และไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น

​​ยังไม่รวมกับท่าทีไม่เป็นมิตรของ พล.อ.ประยุทธ​์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ที่ทั้งข่มขู่ กดดันกลุ่มเกษตรกรจนสถานการณ์ย่ำแย่ไปกว่าเดิม

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเกษตรกรกลุ่มอื่นๆ ที่มีปัญหาไม่แตกต่างกัน แต่ยังไม่รุนแรงเท่า ซึ่งหากปล่อยให้สถานการณ์รุนแรงกว่านี้ก็จะยิ่งสร้างปัญหาต่อไปในอนาคตไม่ต่างจากกลุ่มสวนยาง

แนวร่วมกลุ่มถัดมาคือเครือข่ายภาคประชาชนที่เชื่อมโยงกับองค์กรด้านสาธารณสุข ​ซึ่งสัมพันธ์กับ คสช.​สั่นคลอนอย่างรุนแรง เมื่อ ​คสช.ออกคำสั่ง​ปลดบอร์ดกองทุนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) 7 คน ได้แก่ นพ.วิชัย โชควิวัฒน สงกรานต์ ภาคโชคดี เอ็นนู ซื่อสุวรรณ ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ สมพร ใช้บางยาง ประภัทร นิยม และ​วิเชียร พงศธร

นี่ถูกมองว่าเป็นแผนตัดแขนตัดขาเครือข่ายภาคประชาชน จนทำให้กระบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชน (Thai Health Promotion Movement) รวม 20 เครือข่าย ที่ดำเนินงานเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพในด้านต่างๆ ออกมาเคลื่อนไหวให้ทบทวนคำสั่งดังกล่าว

ยิ่งเรื่องนี้​พัวพันไปกับเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น ผลประโยชน์ทับซ้อน ที่ยังไม่มีความชัดเจน แต่กลับหยิบยกมาเป็นเหตุผลในการปลดบอร์ด ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์เสียหายหนัก

ไม่รวมกับ 4,000 โครงการ ที่ถูกแช่แข็งไว้รอการพิสูจน์ความถูกต้องจนกระทบกับงานภาคประชาชนอย่างกว้างขวาง เสมือนเป็นการตัดท่อน้ำเลี้ยงครั้งใหญ่

“มิหนำซ้ำดันไปใช้มาตรา 44 ปลดเขาอีก เป็นการทำร้ายองค์กร ผิดพลาดทางยุทธศาสตร์แล้วไปกระทบคนจำนวนกว้างเลยที่เขาจะมาเกลียดรัฐบาล เพราะเขารู้ว่าองค์กรเหล่านี้ทำงานด้วยความเป็นธรรม ทำงานด้วยความตั้งใจ ทำงานด้วยความสุจริต” ศ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าว

แรงกระเพื่อมครั้งนี้ถึงขั้นทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลงมาบัญชาการหาทางออกด้วยตัวเอง เพื่อตัดตอนไม่ให้สถานการณ์บานปลายไปยิ่งกว่านี้ และเป็นการผลักมิตรไปเป็นศัตรูโดยไม่จำเป็น

ยังไม่รวมกับภาคประชาชนกลางๆ​ ที่เริ่มจะไม่เห็นด้วยกับมาตรการปิดกั้นการแสดงออกหรือการกระทำที่เกินกว่าเหตุ​ หรือกลุ่มนักศึกษาหรือนักวิชาการที่ออกมาเคลื่อนไหวแสดงออกทางสิทธิเสรีภาพที่ถูกปิดกั้นจนถึงทุกวันนี้ กลุ่มเหล่านี้นับวันยิ่งจะยืนอยู่ห่างจาก คสช.ต่อไปเรื่อยๆ

ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม แต่การที่แนวร่วมที่เคยยืนอยู่ฝั่งเดียวกับ คสช.​เริ่มลดน้อยถอยลงไป ย่อมไม่เป็นผลดีในระยะยาว และอาจสร้างปัญหาให้สิ่งที่ คสช.พยายามทำมาทั้งหมดต้องสะดุดหยุดก่อนที่จะถึงเป้าหมาย โดยเฉพาะกับเรื่อง “รัฐธรรมนูญ” ที่ต้องใช้เสียงของประชาชนเป็นตัวตัดสินว่าจะให้ความเห็นชอบหรือไม่

การสูญเสียแนวร่วมจึงเป็นอีกปัจจัยที่อาจจะมีผลกระทบต่อเส้นทางตามโรดแมปนับจากนี้ อยู่ที่ว่า คสช.จะแก้เกมกับสถานการณ์ตรงนี้อย่างไร

 

Leave a comment