ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/566404
โดย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย 23 ม.ค. 2559 05:01

Do and Don’t ในสหภาพเมียนมา ที่ควรให้ความสนใจเรื่องแรกๆ คงหนีไม่พ้นเรื่องอาหารการกินของชาวเมียนมา เพราะการสร้างความสนิทสนมคุ้นเคยกับคนชาติใดก็ตาม เวทีที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีๆ ได้ มีไม่กี่เวทีหรอกครับ ความสนิทสนมทางธุรกิจส่วนใหญ่จะเกิดจากการพบปะพูดคุยเจอกันบ่อยๆ ในการทำงาน การเล่นกีฬาโดยเฉพาะการเล่นกอล์ฟซึ่งมีเวลาพูดคุยในสนามได้เยอะ และการปาร์ตี้สังสรรค์รับประทานอาหารร่วมกัน
สุภาษิตไทยที่ว่า “เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม” ยังคงใช้ได้ดีในทุกยุคทุกสมัยและในทุกสถานที่ เพราะคนทุกชาติจะมีความสุขสดชื่นทุกครั้ง ที่เห็นแขกต่างบ้านต่างเมือง ทำตามขนบธรรมเนียมประเพณีและจารีตของเจ้าบ้านได้สอดคล้องและถูกต้องตามแนวปฏิบัติของตน ทำให้ในกรอบของประชาคมอาเซียน (AC) จึงต้องมีความร่วมมือด้านสังคมและวัฒนธรรม (ASCC) เพื่อให้ประชาชนใน AEC เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนาร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวมากขึ้นและเร็วขึ้น
เราได้รู้จักมักจี่อาหารประจำชาติของชาวเมียนมาไม่ว่าจะเป็น “ขนมจีนนํ้ายาเมียน” “โมฮิงกา” “หล่าเพ็ด” และ “ชาเมียนมา” กันไปแล้วในสัปดาห์ที่แล้ว เราจะมาพูดถึงการรับประทานอาหารกับชาวเมียนมากันต่อครับ สำหรับการรับประทานอาหารในงานสังคมหรืองานเลี้ยงในโรงแรมเพื่อพบปะสังสรรค์ทางธุรกิจนั้น ชาวเมียนมาก็จะใช้ธรรมเนียมปฏิบัติตามแนวตะวันตกทั่วไปที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดีแล้ว คงไม่ต้องพูดเพิ่มเติมอะไรมากนัก
แต่ที่ต้องจำขึ้นใจคือการรับประทานอาหารในร้านอาหารของชาวเมียนมานั้น ควรสนทนาพูดคุยกันอย่างเงียบๆ และไม่ควรส่งอาหารผ่านหรือตะโกนข้ามศีรษะผู้อื่น เพราะถือว่าเป็นการเสียมารยาทอย่างรุนแรง นอกจากนี้ ห้ามปฏิเสธอาหารหรือเครื่องดื่มที่ชาวเมียนมามอบให้โดดเด็ดขาด เพราะถือเป็นการเสียมารยาทอย่างมาก ที่สำคัญ ชาวเมียนมาจะไม่นิยมดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ระหว่างรับประทานอาหาร แต่นิยมดื่มเพียงนํ้าเปล่า นํ้าผลไม้ และชาเท่านั้น
และอีกเรื่องหนึ่งที่ควรรู้ไว้ก็คือ เมื่อได้รับเชิญให้รับประทานอาหารที่บ้านของชาวเมียนมา เราควรนำของขวัญหรือของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ ที่ผลิตในไทยไปให้เจ้าบ้านด้วย เพราะจะสร้างความประทับใจแก่ เจ้าบ้านอย่างมากครับ.
ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย
ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ