ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160117/220716.html
‘คตร.’ยันไม่มีล้วงลูกตั้งบอร์ดสสส.ใหม่ ชี้ไม่จำเป็นตั้งคนกลางคุมช่วงสรรหา ‘หมอวิชัย’ชี้นายกฯ ขอโทษบอร์ด สสส.ถือเป็นสัญญาณดี ‘ภาคประชาสังคม’ร่วมชื่นชม
‘คตร.’ยันไม่มีล้วงลูกตั้งบอร์ดสสส.ใหม่ ชี้ไม่จำเป็นตั้งคนกลางคุมช่วงสรรหา ‘หมอวิชัย’ชี้นายกฯ ขอโทษบอร์ด สสส.ถือเป็นสัญญาณดี ‘ภาคประชาสังคม’ร่วมชื่นชมและจับตาคำคืนตำแหน่งบอร์ด สสส.
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. พล.อ.ชาตอุดม ติตถะสิริ ประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใชจ่ายงบประมาณภาครัฐ(คตร.) กล่าวถึงกรณีวันที่ 18 ม.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)จะมีการออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 57 ให้บอร์ดของคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เดิมที่เหลืออยู่ มีอำนาจสามารถปฏิบัติงานได้ และจัดตั้งตำแหน่งรองประธานให้ครบองค์ประชุม ภายหลังก่อนหน้านี้ออกคำสั่งให้ 7 บอร์ด สสส.หยุดการปฏิบัติ ว่า นายกฯต้องการให้สสส.เดินต่อไปได้ โดยต้องดำเนินการอย่างมีจริยธรรม ตรงตามวัตถุประสงค์ ส่วนอะไรที่เป็นปัญหากระทรวงสาธารณสุขกำลังดำเนินการแก้ไข เพื่อให้การใช้งบประมาณเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ส่วนตำแหน่งบอร์ด สสส.ที่ว่างอยู่ นายกฯให้มีกระบวนการคัดสรรตามขั้นตอนที่ถูกต้อง และนายกฯได้พูดแล้วว่า คสช.จะไม่เข้าไปล้วงลูก
เมื่อถามว่า กรรมการสสส.ทั้ง 7 คนที่ถูกปลด เมื่อรัฐบาลยืนยันไม่เกี่ยวกับการทุจริต แต่เป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน สามารถมาสมัครใหม่ได้หรือไม่ พล.อ.ชาตอุดม กล่าวว่า ตรงนี้ต้องดู ซึ่งตนไม่รู้คุณสมบัติกำหนดไว้อย่างไร ถ้ามีคุณสมบัติก็เข้ามาได้
เมื่อถามว่า ระหว่างนี้ จำเป็นต้องได้คนเข้าไปรักษาการในบอร์ดสสส.ก่อนหรือไม่ อย่างนพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับหรือนพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระหว่างรอตั้งกรรมการสสส.ใหม่ พล.อ.ชาตอุดม กล่าวว่า กรรมการที่เหลือ 14 คน จาก 21 คน ก็สามารถทำหน้าที่ต่อไปได้ ยังไม่ต้องตั้งคนกลางอะไรเข้าไป และนายกฯได้สั่งกระทรวงสาธารณสุข เข้าไปดูกรอบการทำงานของสสส.ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ให้สังคมได้รับประโยชน์อย่างแท้จจริงแล้ว จึงยังไม่จำเป็นต้องตั้งคนกลางเข้าไปดูแลระหว่างการสรรหา
‘หมอวิชัย’ชี้นายกฯ ขอโทษบอร์ด สสส.ถือเป็นสัญญาณดี
นพ.วิชัย โชควิวัฒน อดีตรองประธานคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) คนที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในวันที่ 18 มกราคม จะมีการออกคำสั่งให้ สสส. สามารถดำเนินการจัดประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ ได้ และขอโทษกรณีที่มีการออกคำสั่งให้คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สสส. 7 คนพ้นการทำหน้าที่ ว่า ตนยังไม่มีโอกาสได้ฟังคำสัมภาษณ์ทั้งหมดของนายกฯ แต่เข้าใจว่าการที่นายกฯ กล่าวขอโทษผู้อาวุโส น่าจะหมายถึง ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส และระบุถึงการปลดคณะกรรมการกองทุนฯ ทั้ง 7 ท่าน ทำให้การดำเนินงานของ สสส.ต้องหยุดชะงัก เพราะไม่สามารถประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ ได้เนื่องจากองค์ประกอบไม่ครบ ดังนั้นจึงต้องดำเนินการให้ สสส.จัดประชุมได้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณและเป็นจุดตั้งต้นที่ดี โดยส่วนตัวแล้วก็หวังที่จะทำอย่างไรให้ สสส. กลับมาทำงานได้ตามปกติตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย อย่างไรก็คงต้องติดตามกันต่อไป
ส่วนกระแสข่าวระบุว่ามีกระบวนการแทรกแซงการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ นั้น นพ.วิชัย กล่าวว่า โดยกระบวนการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒินั้น ถ้าดูตามคำสั่ง ม.44 กำหนดชัดว่า กระบวนการสรรหาให้เป็นไปตามผู้มีอำนาจหน้าที่สรรหาตามระเบียบที่กำหนดไว้เดิม ซึ่งระเบียบฯ ของ สสส. กำหนดองค์ประกอบของกรรมการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณุวุฒิฯ ไว้ชัดเจน ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนภาคี ผู้แทนเจ้าหน้าที่ และบุคลากรต่างๆ ตามองค์กรประกอบกำหนด อีกทั้งหากดูจากขั้นตอนการสรรหาผู้จัดการกองทุน สสส. เพื่อดำรงตำแหน่งแทน ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. ที่ดำเนินการแล้วเสร็จแล้วนั้น เท่าที่ตนได้ติดตามก็ไม่พบว่ามีกระบวนการที่พยายามแทรกแซงแต่อย่างใด
นายวันชัย บุญประชา เลขานุการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว กล่าวว่า ตนขอชื่นชมท่านนายกรัฐมนตรี ที่กล้าหาญในการออกมาขอโทษ ซึ่งโดยปกติแล้วจะเห็นผู้นำน้อยมาก เมื่อรู้สึกว่าตนเองทำอะไรพลาดไปแล้วจะออกมาขอโทษ แต่สิ่งที่จะต้องติดตามกันต่อไปคือ ท่านนายกฯ จะทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ไปจัดการแก้ไขได้หรือไม่ เนื่องจากท่านนายกฯ ระบุว่าไม่พบการทุจริต ดังนั้นเพื่อให้คำขอโทษของท่านนายกฯ เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ควรดำเนินการคืนตำแหน่งให้แก่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของ สสส. เพราะ สสส.ได้มีการปรับปรุงแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้องไม่ให้ผู้มีตำแหน่งอยู่ในองค์กรที่รับทุน สสส. เข้ามาเป็นคณะกรรมการกองทุนฯ ไปแล้ว ดังนั้นควรคืนตำแหน่งท่านได้ตัดสินใจเองว่าจะลาออกจากกรรมการฯ สสส. หรือมูลนิธิ เพราะต้องถือเป็นสิทธิ์ของแต่ละท่าน รวมทั้งขอให้สั่งการให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ(คตร.) ยกเลิกการชะลอการดำเนินงานของ สสส. ด้วย
“ภาคประชาสังคมขอชื่นชมท่านนายก และจะติดตามว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการดำเนินงานให้คำพูดของท่านนายกฯ เกิดเป็นรูปธรรมหรือไม่ ซึ่งการที่จะปฏิรูป สสส.ให้เป็นเครื่องมือของสังคมอย่างแท้จริงนั้น ต้องเปิดเวทีให้ประชาชน หน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันสร้างสรรค์ ไม่ใช่เพียงแต่คนในระบบราชการ เพราะ สสส.เป็นองค์กรนวัตกรรมทางสุขภาพ ตั้งขึ้นเพื่อลดข้อจำกัดทางราชการในการทำงานด้านสุขภาพ ไม่ควรมองต้องอคติหรือจับผิด แต่ควรเปิดให้ประชาชนมาช่วยกันปฏิรูป” นายวันชัย กล่าว และว่า ในส่วนของประเด็นภาษีซึ่งเป็นความเดือดร้อนของภาคีฯ ขอฝากให้ สสส. เร่งหารือร่วมกับกรมสรรพากรเพื่อหาข้อยุติให้ได้โดยเร็ว
