ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160122/221020.html
‘จตุพร’เตือน‘ยิ่งลักษณ์’จากบทเรียน‘ทักษิณ’ : สัมภาษณ์พิเศษ โดยสมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์, จักรวาล ส่าเหล่ทู
ตลอดระยะ 10 ปีที่ผ่านมา ความขัดแย้งทางการเมืองของคนไทยยังคงเห็นเด่นชัด ซึ่งปรากฏเป็นเหตุการณ์สำคัญอยู่หลายครั้ง โดยบุคคลที่มีบทบาทสำคัญคนหนึ่งก็คือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)โดยวันนี้เขาได้เปิดใจกับรายการ“คม ชัด ลึก”ถึงแนวทางการทำงาน และอุดมการณ์การเมืองในปัจจุบัน
ภาพที่นั่งร่วมโต๊ะกับ สุเทพ เทือกสุบรรณ เหมือนเป็นบรรยากาศความปรองดอง มีความเป็นไปได้ไหมที่การปรองดองจะเกิดขึ้น?
ผมเองผ่านการต่อสู้ฟาดฟันกับคุณสุเทพมานาน เราไม่ได้มีปัญหาส่วนตัวกัน แต่ว่าเรื่องที่ต่อสู้กันเป็นประเด็นสาธารณะ เป็นความเชื่อซึ่งนำไปสู่การต่อสู้ทางการเมืองที่มีความคิดแตกต่างกันโดยที่ผ่านมามีคณะกรรมการที่เกี่ยวกับปรองดองหลายชุด ซึ่งผมให้ความร่วมมือกับทุกคณะ ในการที่จะออกความคิดเห็น และผมได้พูดทุกเรื่อง เพราะฉะนั้นไม่มีเรื่องใดที่ยังไม่เคยพูด เพียงแต่ว่าคนที่มาคุยนั้น มีหน้าที่เพียงแค่คุย แต่ว่าไม่มีอำนาจดังนั้นจึงติดอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ เพียงคนเดียวในฐานะผู้มีอำนาจก็ไม่ได้เอาผลสรุปจากคนเหล่านั้น นำมาปฏิบัติแม้แต่เพียงเรื่องเดียว
จากการที่คุยกับทุกฝ่าย ต่างก็เห็นว่าควรนิรโทษกรรมให้กับประชาชน ส่วนแกนนำไม่ขอนิรโทษกรรมใดๆ ทั้งนี้ผมเองเป็นคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมแบบสุดซอย ถ้าจำได้ผมเคยถูกถอดรายการออกจากช่องทีวีของคนเสื้อแดงออก
หมายความว่ากลุ่มของคนเสื้อแดงเองที่เป็นฝ่ายพรรคเพื่อไทยถอดรายการ เพราะมีความเห็นไม่ตรงกันใช่ไหม?
ที่เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ก็เพราะจะบอกว่า พวกผมเองนั้นก็ไม่ได้เห็นด้วยกับทุกอย่าง แม้กระทั้งจากพวกเดียวกัน เพราะว่าหลักการนิรโทษกรรมแบบสุดซอยนั้นทำลายเจตนารมณ์การต่อสู้ที่ผ่านมา ไม่ใช่เพียงแต่พวกผมและคณะเท่านั้น แต่ก็มีคนในพรรคเพื่อไทยจำนวนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วย แต่เมื่อการตัดสินใจเป็นเช่นนั้น ผมเองก็ประกาศชัดว่า ถ้ายังไม่ถอยเรื่องสุดซอย ผมจะไปลาออกจากพรรค ไม่ขอร่วมด้วย
อย่างไรก็ดีเมื่อก่อนนั้นม๊อบของคุณสุเทพก็แค่ระดับข้างสถานีรถไฟสามเสน แต่พอมีความพยายามผลักดันร่างกฎหมายให้เป็นสุดซอย กลายเป็นว่าไปเพิ่มพลังให้กับคุณสุเทพ ซึ่งคนที่เข้าร่วมชุมนุมด้วย ไม่ได้ไปเพราะตัวคุณสุเทพ แต่เป็นเพราะเขาไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายเรื่องนั้น จากสถานการณ์ที่ถูกมองว่าง่าย ก็กลายเป็นยาก
แนวทางการต่อสู้ของคนกลุ่มคนเสื้อแดงจะก้าวข้ามคุณทักษิณได้หรือไม่?
คุณทักษิณเขารู้ดีว่าผมสู้เพื่อหลักการประชาธิปไตยไม่ใช่เพื่อตัวบุคคล ซึ่งเขาเองก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง ที่ต่อสู้เหมือนกับผม ไม่ว่าประชาชนได้อะไร คุณทักษิณก็ได้เท่านั้น แม้กระทั่งวันนี้ ถ้าเรามีการเลือกตั้งด้วยกติกาที่ไม่ถูกต้อง ถึงจะชนะการเลือกตั้ง แต่ก็ปกครองไม่ได้ ปัญหาก็จะกลับมาที่จุดเดิม
แต่จริงๆแล้วกลุ่มต้อต้านคุณทักษิณต่างหากที่ไม่ยอมก้าวข้ามเรื่องนี้ ถ้าได้ติดตามการเคลื่อนไหวของเรา มีหลายเรื่องที่เราไม่เห็นด้วยกับคุณทักษิณชัดเจน เช่นเรื่องนิรโทษกรรมสุดซอย หรือการนัดใส่เสื้อก็ตาม แม้เราเคารพกัน แต่เราก็เห็นต่างในกระบวนการประชาธิปไตย ถ้าสู้เพื่อตัวบุคคลแล้ว คนนั้นตายแปลว่าทุกอย่างจบสิ้นใช่ไหม?แต่ถ้าเราสู้เพื่ออุดมการณ์ประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ก็จะมีคนแต่ละรุ่นทำหน้าที่ต่อไป โดยไม่มีวันขาดตอน
สุดท้ายแล้ว ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่มีคุณทักษิณ จะอยู่ได้หรือไม่?
ความจริงคุณทักษิณก็ไม่ได้อยู่นานแล้ว แต่เป็นประวัติศาสตร์ของพรรคการเมือง เช่นพรรคประชาธิปัตย์เองก็มีนายชวน หลีกภัยเป็นต้น เวลาจะอธิบายทางการเมืองก็มีการเท้าความกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือว่า ประชาชนเจ้าของอำนาจเขาคิดอะไร เนื่องจากอำนาจนอกระบบที่เข้ามาเป็นครั้งคราวจนประเทศเดินหน้าไปไหนไม่ได้ เขาจะอยู่ภายใต้หน้าที่เขาได้อย่างไร ปัญหาทางการเมืองต้องแก้ไขด้วยการเมือง และให้ประชาชนจัดการกันเอง แต่ประเทศไทยหนีวงจรอุบาทว์ให้ได้ ซึ่งผมจะบอกนักการเมืองว่า คุณต้องคิดและยกระดับตัวเองให้เป็นนักประชาธิปไตย ถ้ายังทำตัวเป็นนักเลือกตั้ง ก็ไปไม่รอด และที่ผ่านมาก็พิสูจน์ชัดว่ามันไปไม่ได้ เพราะนั้นจะทำอะไรจงคิดถึงประชาชน
พรรคเพื่อไทยเอง หรือแม้แต่ส่วนต่างๆ ก็ต้องปฏิรูป เพื่อจะรองรับเหตุการณ์ในวันข้างหน้า ผมก็บอกกับพรรคเพื่อไทยว่า เรื่องชนะเป็นเรื่องเล็ก แต่ว่าชนะแล้วอยู่ได้นานเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเลือกตั้งอย่างไรก็ชนะ แต่ชนะเพื่อรอการพ่ายแพ้ระยะยาวทุกครั้ง ผมบอกว่าผมเกรงใจประชาชน ที่ให้โอกาสแต่ไม่สามารถรักษาอำนาจนั้นไว้ได้ฉะนั้นปัญหาในวันนี้ไม่ใช่เรื่องของนักการเมืองเพื่อการเลือกตั้งที่ได้มาซึ่งชัยชนะ แต่ว่าเราต้องปฏิรูปเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางประชาธิปไตยที่ยั่งยืนต่อไปได้อย่างไร ถ้าไม่ปรับตัว ชนะเหมือนเดิม แล้วก็ถูกล้มเหมือนเดิม
มีคนมองว่า การที่มีบทบาททางการเมืองเด่น เป็นการสู้เพื่อความร่ำรวย?
ถ้าทิศทางทางการเมืองผมคือสู้แล้วรวย ผมไม่เลือกทางนี้ เพราะว่าการที่จะสู้แล้วรวยนั้น มันต้องไม่มีคดีติดตัว ซึ่งบางคดีที่ผมต้องหาอยู่มีโทษสูงสุดประหารชีวิต ดังนั้นสู้แล้วมีเรื่อง มีศัตรู และอะไรอีกมากมาย อีกทั้งไม่รู้ว่าความตายจะมาถึงเมื่อไหร่ ผมบอกได้เลยว่าในการต่อสู้นั้นมีแต่พวกทรยศเท่านั้นที่จะรวย ซึ่งฝ่ายผมทุกคนก็รู้ว่า ผมไม่ใช่คนแบบนั้นชีวิตที่เหลืออยู่ของเรานั้น เราทำเพื่อใคร โดยจะพิสูจน์ในวันตาย ว่าคนจะสาปแช่ง หรือว่าจะมีคนมาร่วมมากน้อยแค่ไหน
ล่าสุดเหมือนสถานการณ์ของคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตรจะย่ำแย่ ทาง นปช. จะออกมาเคลื่อนไหวช่วยไหม?
ผมมีโอกาสเจอคุณยิ่งลักษณ์ตามงานต่างๆ เขาบอกว่าสิ่งที่คณะรัฐประหารทำทุกอย่างนั้น คือต้องการกดดันให้หนีเท่านั้น เพราะค่าเสียหายหลายแสนล้านบาท เป็นการเรียกร้องที่ไม่ได้ต้องการตัวเงินจริงๆ ใครจะมีเงินไปจ่าย?ดังนั้นกระบวนการทั้งหมดคือต้องการกดดันให้หนีได้ ถ้าจิตใจแข็งพอ ผมก็เชื่อว่าประวัติศาสตร์การเมืองก็จะเป็นอีกแบบ แต่ว่าถ้าไม่อยู่ ประวัติศาสตร์ก็จะซ้ำรอย ไม่มีโอกาสได้กลับประเทศ เหมือนกรณีของคุณทักษิณคือบทเรียนราคาแพง ซึ่งผมเห็นว่ามีโอกาสยากจริงๆที่จะกลับมาได้
ในวันนี้ถ้าคุณยิ่งลักษณ์ยังคงอยู่ จะเห็นว่าประชาชนก็ให้ความเห็นใจมากกว่าตอนเป็นนายกรัฐมนตรี ผมจึงมองว่าการโจมตีชุดนี้เป็นการวัดหัวใจ และผมก็บอกเขาว่า ยืนให้แข็งแรง และอย่าไปตกใจ ถ้าเขาต้องการอะไร เราก็จะทำตรงกันข้าม
มีความเห็นอย่างไรต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันการโหวตคว่ำจะเข้าทางผู้มีอำนาจไหม?
ร่างรัฐธรรมนูญที่จะออกมานั้น ก็เป็นเหมือนอาจารย์ใหญ่ของโรงพยาบาล เพราะตายตั้งแต่แรก เมื่อพิจารณาเนื้อหาแล้ว ทางฝ่ายประชาธิปไตยไม่อาจรับได้ ถ้าเกิดมีการเลือกตั้ง ก็ต้องเผชิญวิกฤติ จากนั้นก็มีคนนอกเข้ามา ประเทศก็กลับมาสู่ปัญหาเดิม เพราะฉะนั้นเราต้องอดทน อย่ากลัวว่าจะไม่มีการเลือกตั้ง แต่จงกลัวว่าการเลือกตั้งภายใต้กติกาไม่เป็นประชาธิปไตย
ผมจึงไม่สนใจว่า คสช.จะอยู่นานเท่าไหร่ หากคิดว่าการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญถูกคว่ำจำให้จะอยู่นานขึ้น แสดงว่าคุณไม่รู้จักการเมืองไทยเลย เพราะขณะนี้ผู้คนก็ยากจนจะตายแล้ว ผมจึงมีความรู้สึกว่า เจตนาของการเขียนนั้น ต้องการให้มีเรื่อง คนระดับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)ไม่รู้หรือว่าแต่ละเรื่องราวมีความเป็นมาเช่นไร เขาเก๋าเกมที่สุด ดังนั้นจึงเป็นการเขียนทียั่วเพื่อให้เกิดการคว่ำ
ส่วนปัจจัยที่ทำให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านได้นั้น ก็มีทางเดียวคือให้ประกาศใช้เลย แต่ถ้าลงประชามติก็ไม่ผ่านแน่ๆ ดังนั้นความเห็นผมก็คือว่า ถ้าไม่เป็นประชาธิปไตยก็ไม่เอา และก็ไม่กลัวว่าจะต้องเสียเวลา เพราะผมเห็นว่าคนที่ต้องการต่อเวลาอยู่ในอำนาจเขา แต่ถ้าจะคืนอำนาจ ก็ต้องคืนมาให้ครบ ถ้าเลือกตั้งก็ต้องมีความเป็นประชาธิปไตย ถ้าเขียนรัฐธรรมนูญออกมาไม่เป็นประชาธิปไตยก็ต้องคว่ำ แต่ผมไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้คว่ำหรือเปล่า กลัวจะมีคนแย่งคว่ำเสียก่อน เพราะว่าตอนร่างฉบับนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ สุดท้ายก็โดน สปช. คว่ำก่อนทำประชามติ
หากมีกติกาที่พรรคเพื่อไทยยอมรับได้ ใครจะเป็นเบอร์ 1 ของพรรค?
ผมคิดว่าตัวพรรคเองยังไม่ได้วางแผนถึงจุดนั้น มีแต่เพียงเจตนารมณ์คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ตอนนี้ต้องดำเนินการทำให้บ้านเมืองมีความเป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่ว่าในขณะที่บ้านเมืองเป็นเผด็จการ แล้วมากำหนดว่าใครจะเป็นเบอร์ 1 สำหรับส่วนตัวนั้นในอนาคตใครมาเป็นนายกก็ได้แต่ขอให้มาจากกระบวนการที่ถูกต้อง และมีจิตใจที่เป็นประชาธิปไตย ไม่มองประชาชนเป็นศัตรู และที่สำคัญต้องเป็นคนที่ประชาชนได้ตัดสินเลือกแล้ว และคนก็เห็นแล้วว่าคนนี้แหล่ะที่จะมาทำหน้าที่คลี่คลายปัญหาของประเทศ
