ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160122/221036.html
การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันศุกร์ที่ 22 มกราคม 2559
‘พล.อ.ประยุทธ์’ พร้อมคณะ ลงพื้นที่จ.นครสวรรค์-ชัยนาท ติดตามแก้ปัญหาภัยแล้ง
22 ม.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมคณะ ประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ,พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ,พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และพล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มาถึงโรงเรียนรัฐราษฎร์อนุสรณ์ ต.บึงปลาทู อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ เพื่อปฏิบัติราชการในจ.นครสวรรค์ และจ.ชัยนาท ในเวลา 09.20 น. โดยมีตัวแทนอาจารย์ นักเรียนให้การต้อนรับพร้อมร้องเพลง “เพราะเธอคือประเทศไทย” ต้อนรับโดยนายกฯ ได้ร้องเพลงคลอไปกับนักเรียน ทั้งนี้นายกฯได้พูดคุยกับคุณยายวัย 85 ปี โดยคุณยายกล่าวกับนายกฯว่า “เกิดมา 85 ปี ไม่เคยมีนายกฯคนไหนมา ต.บึงปลาทู นายกฯคนนี้เป็นคนแรก แถมหล่อกว่าในโทรทัศน์ด้วย” นายกฯ ตอบว่า “ชมแบบนี้เขินตายเลย ถ้าเป็นนักการเมืองได้คะแนนเสียงไปแล้ว ดีนะผมไม่ใช่นักการเมือง”
จากนั้นนายกฯ พร้อมคณะเดินทางมาที่ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ต.บึงปลาทู อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ โดยมีนายธนาคม จงจิระ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ และข้าราชการท้องถิ่น ให้การต้อนรับ
ขณะที่การรักษาความปลอดภัยมีตำรวจและทหารร่วมกันรักสาความปลอดภัยตรวจบุคคลที่เข้าออกภายในงานอย่างละเอียด รวมถึงร่วมกันตรวจคัดกรองด้วย จากนั้นนายกฯได้พบปะกับคณะกรรมการบริหารศูนย์ข้าวชุมชนซึ่งนำโดยนายพิชัย โสทะ ประธานศูนย์ฯ และเกษตรต้นแบบจากนั้นได้เยี่ยมชมสินค้าชุมชนจ.นครสวรรค์รวมทั้งให้กำลังใจกับกลุ่มเกษตรกร โดยศูนย์ดังกล่าวมีการเรียนรู้ 3 หลักสูตร 1.การผลิตเม็ดข้าวคุณภาพดี 2.เศรษฐกิจพอเพียงในครัสเรื่อง และ3.การปลูกพืชใช้น้ำน้อย
จากนั้นนายกฯพร้อมคณะเยี่ยมชมนิทรรศการมาตรการช่วยเหลือเกษตรในช่วงภัยแล้ง 8 มาตรการ ได้แก่ 1.มาตรการส่งเสริมความรู้และการสนับสนุนปัจจัยการผลิตเพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน 2.มาตรการชะลอหรือขยายระยะเวลาชำระหนี้ที่เกษตรกรมีภาระหนี้กับสถาบันการเงิน 3.มาตรการจ้างงานเพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร 4.มาตรการเสนอโครงการตามความต้องการของชุมชนเพื่อบรรเทาผลกระทบภัยแล้ง 5.มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ 6.มาตรการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน 7.มาตรการเสริมสร้างสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและ 8.มาตรการสนับสนุนอื่นๆ
ขณะเดียวกันนายกฯได้พบปะประชาชนเพื่อสอบถามถึงสภาพความเป็นอยู่รวมปัญหาที่ต้องการรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลและในโอกาสนี้นายกฯได้เยี่ยมชมแปลงสาธิตย่อยพร้อมรับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานจากนายอำเภอบรรพตพิสัยและมอบกุญแจรถตักข้าวเปลือกให้นายประนอม หงส์เวียนจันทร์ ตัวแทนสหกรณ์การเกษตรบึงพิมพาจำกัด ตามโครงการจัดหาเครื่องจักรกลตามมาตรการสำคัญเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร จ.นครสวรรค์ และมอบสินเชื่อโครงการปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรจำนวน 100,000 บาท ก่อนจะเยี่ยมชมโรงคัดแยกเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียว
นายกฯ กล่าวตอนในหนึ่งในการพบปะกับประชาชนว่า ตนเห็นรอยยิ้มของทุกคนมีความสุขมันทำให้ตนเกิดความกดดันสูงขึ้น เพราะตนต้องทำให้ท่านมากขึ้น แต่ด้วยภาวะหลายประการ ความเข้มแข็งของเรานั้นอยู่ที่พวกเราทุกคน วันนี้ในส่วนของทีมประชารัฐทุกคนข้างบนและจะมีทีมประชารัฐข้างล่างถ้าข้างบนทำ ข้างล่างไม่ทำ ก็ไปไม่ได้ และแก้ด้วยราคาอย่างเดียวก็ไม่จบหรอกขอให้ใจเย็นๆ
ขณะที่นายสมคิด กล่าวว่า ต้องขอบคุณที่สละเวลามาต้อนรับอยากเรียนว่าได้เห็นสิ่งต่างๆในวันนี้มันทำให้พวกตนมีกำลังใจที่จะทุ่มเททำงานให้กับพี่น้องเกษตรกรอยากเรียนว่าวันนี้พวกเราทุกคนเข้าใจถึงความยากลำบากตระหนักดีถึงความทุกข์ยากของเกษตรกรลำพังก็ยากจนอยู่แล้วมาปีนี้ปีหน้าราคาสินค้าก็ตกต่ำเพราะราคาน้ำมันตกทั่วโลกและราคาสินค้ามันตามราคาน้ำมันคือราคาตกทั้งโลกเกษตรกรทั้งโลกลำบากไม่ใช่เฉพาะพวกเราแต่ท่านนายกฯเป็นห่วงกังวลบางครั้งหงุดหงิดเพราะอยากจะลงไปช่วยให้เร็วแต่มันไม่ได้ดั่งใจแต่ทุกคนก็พยายามเต็มที่เมื่อราคาสินค้าตกต่ำสิ่งที่รัฐบาลพยายามช่วยคือช่วยชดเชยจ่ายเงินช่วยเหลือ ซึ่ง 2 เดือนที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยออกโครงการตำบลละ 5 ล้านบาท เพื่อลงไปช่วยเกษตรกรแต่บางครั้งการช่วยเหลือจำนวนมากขั้นตอนก็มีมากและเราต้องการให้ดีที่สุดก็อาจจะช้าไปบ้างแต่รมว.มหาดไทยก็พยายามเร่งให้เงินไปถึงข้างล่างและการช่วยเหลือไม่ได้มาจากราชการเท่านั้นบางครั้งนายกฯอยากให้ชาวบ้านพูดกันเองผ่านกองทุนหมู่บ้าน
“และกองทุนหมู่บ้านที่เป็นเครื่องมือของรัฐทุกรัฐบาลไม่ใช่ของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งผมเป็นคนที่มีส่วนร่วมในการก่อตั้งกองทุนหมู่บ้านเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วไม่ต้องการให้พรรคการเมืองใดมาเคลมว่าเป็นของพรรคการเมืองเหล่านั้นกลไกที่ดีในการช่วยเหลือคนยากจนได้มันต้องเป็นเครื่องมือกลไกของรัฐบาลที่ช่วยเหลือคนไทยทุกคน” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด กล่าวว่ากองทุนหมู่บ้านจัดสรรไปแล้ว 6 หมื่นกว่าล้านบาทผ่านสินเชื่อของธนาคาร ซึ่งเชื่อว่าเม็ดเงินไปถึงข้างล่างแล้วแต่แค่นั้นไม่พอเพราะนายกฯบอกว่าสิ่งที่จะช่วยไม่ใช่แค่ว่าเอาเงินไปแจกเราต้องการรดน้ำที่รากไม่ต้องการรดน้ำที่ใบต้องการให้รากแข็งแรงเพื่อพี่น้องจะได้เข้มแข็งในอนาคตข้างหน้าลูกหลานมีความเข้มแข็งไม่ใช่ว่าขายแต่สินค้าราคาถูกปีไหนมีน้ำก็ปลูกได้ดีปีไหนไม่มีก็ปลูกไม่ได้ดีชีวิตขึ้นอยู่กับธรรมชาติอย่างเดียวไม่ได้ดังนั้นในเวลาไม่นานนักนายกฯกำลังให้พวกตนเสนอโครงการประชารัฐโครงการใหม่่ที่จะไปช่วยพัฒนาความเข้มแข็งของชนบท
“เข้มแข็งยังไงต่อจากนี้จะไม่ใช่ว่าแค่ให้สินเชื่อไปกู้ยืมไปใช้แต่จะให้ทุกตำบลทุกหมู่บ้านเอาเงินเหล่านี้ไปดูสิว่าท่านจะเอาเงินเหล่านี้ไปต่อยอดความเข้มแข็งให้กับท่านทำอะไรได้บ้างเพิ่มรายได้ได้อย่างไรท่านเห็นตัวอย่างที่มาตั้งอยู่แล้วลำพังปลูกข้าวอย่างเดียวราคามันตกถ้าไม่ทำอะไรเลยมันก็จนปลูกยางอย่างเดียวไม่ทำอะไรเลยท่านก็แย่สิ่งที่ต้องทำคือว่าปลูกอะไรที่มันมากกว่าสิ่งท่านปลูกอยู่เอาสินค้าที่ใช้น้ำน้อยเวลาน้ำแล้งก็ทำได้เมื่อสักครู่นักข่าวมาบอกผมว่ามีเกษตรกรอยู่ท่านหนึ่งทดลองปลูกถั่วเขียวได้กำไรต่อไร่ 4,000 บาทสิ่งสำคัญคือมันไม่ใช่ถั่วเขียวอย่างเดียวมันมีถั่วเหลืองข้าวโพดผักสวนครัวและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะนำพันธุ์สัตว์เป็ดไก่ไปแจกเกษตรกรสิ่งเหล่านี้เราต้องช่วยตัวเองให้มีความหลากหลายก่อนทดลองมันดูอย่าไปกลัวนี่จะเป็นตัวช่วยให้เรามีรายได้จุนเจือครอบครัวได้” รองนายกฯ กล่าว
นายสมคิด กล่าวต่อว่า สิ่งที่สองเรื่องความเข้มแข็งถ้าเกษตรกรจะปลูกข้าวท่านต้องมีลานตากโรงสีชุมชนมียุ้งฉางโรงระอุข้าวเครื่องเก็บเกี่ยวสิ่งเหล่านี้เกษตรกรแต่ละคนไม่มีเงินพอ
“ฉะนั้นประชารัฐล็อตใหม่โดยท่านนายกจะลงไปข้างล่างหมายความว่าชุมชนจะต้องประชุมคิดกันเองว่าจะเอาเงินเหล่านี้ไปสร้างเครื่องสีข้าวจะสร้างยุ้งฉางขนาดเล็กไหมไปเช่ารถแทร็กเตอร์ไปเก็บเกี่ยวไหมไปทำโรงงานแปรรูปเล็กหรือไม่เพราะข้าวแต๋นที่ผมกินเมื่อสักครู่มันอร่อยมากเขาขายผ่านโลตัสทั่วประเทศท่านที่เคารพอนาคตข้างหน้าเราจะเอาตลาดมาไว้ที่นี่ไม่ใช่ให้ท่านไปหาตลาดประชารรัฐจะมีโครงการตลาดประชารัฐลงสู่ทุกชุมชนไม่เพียงเท่านั้นรัฐบาลและท่านนายกได้ขอร้องให้ภาคเอกชนร้านสะดวกซื้อทั้งหลายมาช่วยกันรับซื้อสินค้าจากเกษตรกรฉะนั้นแปลว่าสินค้าที่ผลิตได้จะมีโอกาสและช่องทางและตลาดได้มากขึ้น” รองนายกฯ กล่าว
นายสมคิด กล่าวว่า เมื่อวานนี้สั่งการกระทรวงพาณิชย์ว่าแหล่งท่องเที่ยวดีดีในต่างประเทศ เช่น เวียดนาม เขามีสินค้าท้องถิ่นไปขายที่นั่นคนต่างประเทศนับหมื่นนับแสนไปซื้อของเหล่านั้นตนถามว่าทำไมโอท็อปของเราไม่มีขายณจุเหล่านั้นบ้างก็ให้นโยบายว่าต้องกระจายสินค้าไปสู่แหล่งท่องเที่ยวให้ได้กระทรวงท่องเที่ยวฯเขากำลังจะสร้างแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไม่ใช่ไปต่างประเทศหมายความว่าหนึ่งตำบลจะต้องมีแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งแห่งให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วมีตลาดกลางจากกระทรวงพาณิชย์มารับซื้อผักผลไม้และผลิตภัณฑ์ที่ปลูกได้ไปให้ประชาชนมีการแปลกเปลี่ยนระหว่างประชารัฐแต่ละตำบลกับตำบลจังหวัดกับจังหวัด
“ท่านอาจจะไม่เข้าใจในวันนี้แต่มันก็คือการลงทุนในวิทยาการที่จะทำให้ทุกชุมชนทุกหมู่บ้านในอนาคตสามรารถมีเทคโนโลยีเพียงพอที่จะค้าขายผ่านอินเตอร์เน็ตได้ท่านสามารถขายผ่านสหกรณที่เข้มแข็งเรียนรู้วิธีการใช้สามารถขายสินค้างของท่านไปโดยตรงในโลกผ่านเว็บไซต์เราจะช่วยท่านในสิ่งต่างๆ”รองนายกฯกล่าว
รองนายกฯ กล่าวว่า สิ่งต่างๆจะเกิดขึ้นได้ต้องเกิดจากภาครัฐเอกชนที่มีความรู้เขาจะมาช่วยท่านและพวกท่านเองจะเป็น “สมาร์ทฟาร์เมอร์” เราไม่ต้องการให้เป็นเกษตรกรจนๆหน้าดำๆตัวคล้ำผิวเกรียมเราต้องการให้เกษตรกรเป็เถ้าแก่น้อยๆในอนาคตให้ได้ธกส.และธ.ออมสินกำลังจะออกแพคเกจ 1ตำบล1เอสเอ็มอีเกษตรกรอุตสาหกรรมคือเราจะยกระดับเกษตรกรเป็นเถ้าแก่น้อยให้ได้ที่ต้องหาผู้นำในชุมชนที่มีความสามารถสร้างให้เขาเป็นผู้ประกอบการรู้จักยกระดับมูลค่าสินค้าให้ดีสร้างยี่ห้อดีไซน์หีบห่อติดต่อตลาดขายในต่างประเทศแล้วช่วยเหลือคนในชุมชนทุกคนจะได้เรียนรู้ว่ามันทำกันอย่างไร
“ทำไมเกษตรกรถึงเป็นเกษตรกรทั้งชาติทำไมพ่อค้าคนกลางถึงเป็นพ่อค้าคนกลางทั้งชาติ จากนี้ต้องการให้เป็นเถ้าแก่น้อยเหมือนที่ญี่ปุ่นเกาหลีไต้หวันเขาทำกันได้สิ่งเหล่านี้นายกฯกำชับแล้วกำชับอีกแต่ข่าวที่ออกไปมันน้อยเกษตรกรมีจำนวนมากการเมืองมีส.ส.มีสจ.เขาก็จะไปบอกว่าอะไรเป็นอะไรแต่การเมืองวันนี้มีความไม่เป็นปกติเราทะเลาะเบาะแว้งกันมาเป็น 10ปีแล้วทะเลาะจนลาวจะข้ามหัวเราแล้วพวกเราไม่ต้องห่วงจะเลอืกพรรคการเมืองอะไรเลือกตามใจชอบเมื่อมีการเลือกตั้งแต่ระหว่างที่ยังไม่มีการเลือกตั้งท่านนายกฯบอกแล้วว่าจะพยาายามทำให้พวกท่านยืนขึ้นมาให้ได้อย่าไปหลงเชื่อกับคำปลุกปั่นการบิดเบือนมันไม่ช่วยอะไรเลยมันมีแต่ทำให้คนไทยเราทะเลาะกันเองแล้วมันก็จะค่อยๆตกลงและค่อยๆจมดินไปในที่สุด เราไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น คนไทยต้องสามัคคีเพลงแบบท่านนายกฯแต่งออกมาร้องได้หรือไม่ 1 มือ 1 ลมหายใจ มันไม่พอหรอก ทุกคนต้องร่วมมือต่อลมหายใจกันเมื่อนั้นเมืองไทยมันจะเจริญ” รองนายกฯ กล่าว
“ฉะนั้นถ้าท่านได้ยินคำว่าประชารัฐเมื่อไรขอให้ท่านสนับสนุนและขอให้ท่านนึกถึงท่านนายกที่พยายามปลุกปั้นโครงการนี้ขึ้นมาอย่าหลงเชื่อกับคำยุยงคำปลุกปั่นไม่มีสิ่งใดดีหรอกครับขอบคุณครับ”นายสมคิดกล่าว
ขณะที่พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดที่ยังคงมีอยู่โดยระบุว่าเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพราะเป็นต้นตอของปัญหาสังคมอย่างหนึ่งจึงต้องช่วยกันเร่งแก้ปัญหาดังกล่าวโดยทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันอย่างไรก็ตามในขณะที่รัฐบาลกำลังทำงานก็ยังมีคนคอยบิดเบือนข้อมูลอย่างโครงการกองทุนหมู่บ้านหมู่บ้านละ 5 ล้านบาทหากทำเร็วเกินไปก็โจมตีว่าอาจมีการทุจริตแต่หากทำช้าก็ไม่ทันใจชาวบ้าน





