ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160122/221038.html
การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันศุกร์ที่ 22 มกราคม 2559
‘เต้น’ ยื่นเรียงความหัวข้อ ‘ครอบครัวของฉันในวันที่ไม่มีจำนำข้าว’ ถึง ‘นายกฯ’ หวังให้รู้ถึงปัญหาความเดือดร้อนของชาวนา จี้เร่งหามาตรการช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม
22 ม.ค.59 เมื่อเวลา 10.45 น. ที่ศูนย์บริการประชาชนสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ฝั่งสำนักงาน ก.พ. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ผ่านม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้รัฐบาลรับทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของชาวนา ผ่านเรียงความในหัวข้อ “ครอบครัวของฉันในวันที่ไม่มีจำนำข้าว”
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนมายื่นเรียงความของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ตอนปลาย และครอบครัวที่เข้าโครงการรับจำนำข้าว จำนำ5ชิ้น ถึงนายกฯ เพื่อสะท้อนสภาพปัญหาของชาวนาในวันที่ครอบครัวของพวกเขามีและไม่มีโครงการรับจำนำข้าวนั้นมีผลกระทบด้านบวกและลบอย่างไร โดยหวังให้รัฐบาลนำข้อมูลไปพิจารณา เพื่อแก้ปัญหาให้ชาวนาอย่างเร่งด่วน ทั้งการช่วยเหลือเฉพาะหน้าและมาตรการช่วยเหลือในระยะยาว อีกทั้งขณะนี้เริ่มเข้าสู่ปัญหาภัยแล้งจะส่งผลให้ชาวนาได้รับความเดือดร้อนมาก วันนี้นายกฯลงพื้นที่ตรวจปัญหาภัยแล้งที่จ.นครสวรรค์และจ.ชัยนาท จึงถือเป็นเรื่องที่ดีขอให้เร่งกำหนดมาตรการความช่วยเหลือชาวนาให้เป็นรูปธรรม
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้ชาวนาไม่กล้าแสดงตัวเพราะเกรงว่าจะได้รับผลกระทบ จากข้อห้ามที่รัฐบาลมีอยู่ ตนจึงออกมาแสดงตัวแทน และหวังว่าจะไม่มีคนไปคุกคามผู้เขียนเรียงความ เหมือนที่มีเจ้าหน้าที่ทหารไปดูบ้านผู้สื่อข่าวที่ทำข่าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ สำหรับโครงการรับจำนำข้าวได้มีการโอนเงินสดโดยตรงจากรัฐบาลถึงชาวนาที่ร่วมโครงการ ผ่านธนาคารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ถือเป็นโครงการรัฐที่โอนเงินสดตรงจากรัฐเข้าถึงบัญชีชาวนามากที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทยพอไม่มีโครงการนี้ทำให้ชาวนาเดือดร้อน ขอให้รัฐช่วยเร่งพิจารณาด้วย เพราะโครงการจำนำยุ้งฉาง หรือจ้างชาวนาขุดลอกคูคลอง ในช่วงงดเว้นการเพาะปลูก มีชาวนาบอกตนว่า เงินไม่ถึงมือชาวนาโดยตรงอย่างแท้จริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยได้กลับมาเป็นรัฐบาล โครงการรับจำนำข้าวยังจะเป็นนโยบายหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เอาเป็นว่าในฐานะที่ตนจัดประกวดเรียงความและได้อ่านทุกชิ้น ลงพื้นที่พบปะครอบครัวชาวนาบ้างแล้ว ยืนยันว่าชาวนาส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้และคิดถึงโครงการนี้อยู่ ส่วนต่อไปจะเป็นนโยบายหรือไม่อย่างไรก็ให้เป็นวาระของพรรคการเมืองที่จะลงสู้สนามเลือกตั้งได้ประกาศเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ถ้าจะมีมาตรการอื่นใดของรัฐบาลนี้ที่ไม่ใช่รูปแบบโครงการรับจำนำข้าวแล้วเป็นประโยชน์กับชาวนา ตนก็เห็นว่าไม่ใช่เรื่องที่ใครจะไปสกัดขัดขวาง เพียงแต่เห็นว่าตอนนี้ชาวนาเดือดร้อนและหนักขึ้นทุกที
‘เต้น’ ลั่น! นปช.ไม่รับร่างรธน. เหตุเนื้อหาสาหัส ขัดหลักปชต.
22 ม.ค.59 เวลา 10.45 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)ให้สัมภาษณ์ถึงร่างรัฐธรรมนูญโดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)ว่า ประเด็นหลักซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์มาตั้งแต่ครั้งนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.ยกร่างฯ)ยังกลับมาอยู่ในร่างฉบับนี้ จึงเชื่อว่าผู้มีอำนาจต้องการเนื้อหาสาระที่หนักหนาสาหัสแบบนี้ และเห็นว่าทุกฝ่ายต้องออกมาแสดงจุดยืนเพราะปัญหาคือความไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ดังนั้น ใครก็ตามที่ประกาศว่าจะเข้ามาแก้ไขปัญหา ต้องยึดหลักการประชาธิปไตยอย่างชัดเจน และเดินหน้าไปสู่การเป็นประชาธิปไตยอย่างสัมผัสได้ เมื่อรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศชี้ว่าขัดกับหลักการประชาธิปไตย ความหวังที่จะเห็นการแก้ไขปัญหาก็จะหมดลง ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เราไม่สามารถรับในชั้นประชามติได้ และหวังอย่างยิ่งว่าจะเปิดกว้างให้มีเวทีรณรงค์อย่างเสรีในช่วงของการทำประชามติ ทั้งรณรงค์ให้รับหรือไม่รับ นอกจากนี้ อยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยออกมาแสดงจุดยืนต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งไม่ถือว่าเร็วเกินไป เพราะถ้ารอช้ากว่านี้เวลาอาจจะไม่ทันที่จะอธิบายให้สังคมเกิดความเข้าใจอย่างทั่วถึง
นายสายณัฐวุฒิ กล่าวว่า นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องแทงกั๊กหรือเลือกยาก เพราะการเลือกระหว่างหลักการประชาธิปไตยกับท่ออำนาจของเผด็จการ ตนว่าเลือกไม่ยาก สามารถตัดสินใจได้ทันที นปช.มีความชัดเจนว่าจะรณรงค์ไม่รับ แม้จะไม่ได้มีการประชุมมีมติออกมาอย่างเป็นทางการ แต่เราเห็นตรงกันว่า เนื้อหาสาระในฉบับนี้หนักกว่าของนายบวรศักดิ์ เราจึงต้องรณรงค์ไม่รับ
เมื่อถามว่า หากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ผ่านประชามติ จะมีข้อเสนออย่างไรบ้าง นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ระบุว่ามีทางออกอยู่แล้ว เราจะรอดูทางออกของรัฐบาลก่อน การเลือกตั้งที่จะมาช้า ไม่ได้มีปัญหา เท่าประชาธิปไตยไม่มาเลย ดังนั้นจึงไม่ห่วงว่าหากประชามติไม่ผ่านแล้วจะส่งผลให้การเลือกตั้งล่าช้าออกไป ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทยมีความมั่นใจว่า เมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งแล้ว พรรคเพื่อไทยจะกลับมาชนะเลือกตั้งอีกครั้ง แต่การชนะเลือกตั้งภายใต้กติกาที่ไม่เป็นประชาธิปไตย จะนำมาสู่ความพ่ายแพ้ของประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอย่างแท้จริง เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในช่วง10ปีที่ผ่านมา ดังนั้น เลือกตั้งเร็วหรือช้าไม่ใช่ปัญหา แต่มีความประสงค์ให้ผู้มีอำนาจคืนประชาธิปไตยกลับมาด้วย”
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ที่พูดนี้ ตนไม่ทราบในส่วนของพรรคเพื่อไทย แต่พูดในนาม นปช.ว่า พวกเราไม่มีปัญหาเลยกับการเลือกตั้ง ที่จะมาเร็วหรือช้า แต่ประชาธิปไตยต้องมาทันที ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช.ท้านายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ.ดีเบตเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ การอภิปรายเรื่องต่างๆด้วยเหตุผล ถือเป็นเรื่องปกติในสังคมอารยะ ไม่ว่ากรธ.จะดีเบตกับใครก็เห็นด้วยทั้งนั้น เพราะการเปิดเวทีให้ความคิดที่แตกต่างมาถกอภิปรายนั้นเป็นสัญญาณว่าบ้านเมืองนี้ยังมีพื้นที่ของความเห็นที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม ดูจากเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญแล้วเชื่อว่าผู้ร่างรับงานมาจากผู้มีอำนาจ เป็นการร่างตามพิมพ์เขียวอย่างชัดเจน ตนไม่ได้มีอคติกับใครเป็นการเฉพาะ แต่ที่มีการเรียกคำว่าเนติบริกรนั้น เหมือนเป็นผู้รับเหมา เมื่อมีผู้รับเหมาก็ต้องมีผู้ว่าจ้าง ดังนั้น ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเป็นเหมือนที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ได้ประกาศเอาไว้ว่าลงเรือแป๊ะต้องตามใจแป๊ะ

