ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160121/220879.html
เหล่าทัพเตรียมแผนกู้วิกฤติภัยแล้ง59 : ตะลุยกองทัพ โดยทีมข่าวความมั่นคง
ถือเป็นข้อกังวลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อสถานการณ์ภัยแล้งในปี 2559 ซึ่งคาดว่าจะมีความรุนแรงและเกิดขึ้นเร็วในหลายพื้นที่ จนส่งผลกระทบต่อประชาชนขาดแคลนน้ำอุปโภคและบริโภค ตลอดจนถึงน้ำในภาคเกษตรนานกว่าปีที่ผ่านมา จึงได้สั่งการให้กระทรวง ทบวง กรม หน่วยงานของภาครัฐ ตลอดจนถึงกองบัญชาการกองทัพไทยและเหล่าทัพ ให้ร่วมกันบูรณาการ เตรียมพร้อมในการบริหารจัดการน้ำให้เกิดความพอเพียง และไม่ให้เกิดภาพประชาชนแย่งน้ำเหมือนเช่นที่ผ่านมา
ในส่วนของกองทัพไทย พล.อ.สมหมาย เกาฏีระ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้มอบหมายให้หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา รับผิดชอบขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล 579 แห่งในพื้นที่ภัยแล้งและดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคในพื้นที่ต่างๆ นอกเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา 1,042 แห่ง โดยการดำเนินการทั้งหมดคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 เพราะคาดว่าจะมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก
ขณะที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ได้ดำเนินโครงการแก้ปัญหาภัยแล้งเร่งด่วน 164 โครงการ จนเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินโครงการแก้มลิง 24 แห่งในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จ.หนองคาย จ.บึงกาฬ จ.นครพนม และจ.มุกดาหาร ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2559 เช่นกัน นอกจากนี้ในส่วนของการขุดบ่อขนมครก ในพื้นที่ 18 จังหวัดภาคอีสาน ได้เร่งดำเนินการให้เสร็จสิ้นในสิ้นเดือนมกราคมนี้ สำหรับกองทัพ 4 ภาค ได้สำรวจและกำจัดผักตบชวาในแหล่งน้ำ แม่น้ำ ลำคลองสาธารณะในพื้นที่รับผิดชอบทั่วประเทศ โดยกำหนดกรอบเวลาให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคมนี้
ด้านกองทัพเรือ แม้ว่าพื้นที่ที่รับผิดชอบทั้ง 7 ศูนย์ของศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ไม่ใช่พื้นที่ประสบภัยแล้งซ้ำซาก แต่ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการให้ทั้ง 7 ศูนย์ของศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ เร่งสำรวจข้อมูลเพื่อกำหนดพื้นที่เสี่ยงจะประสบภาวะภัยแล้ง ทั้งในส่วนทัพภาคเรือ 1, 2 และ 3 ฝั่งชายทะเลอ่าวไทยทั้งตอนบนและล่าง รวมถึงฝั่งอันดามัน หน่วยปฏิบัติการจังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.นราธิวาส กองกำลังจันทบุรี-ตราด และหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง พร้อมทั้งเตรียมการเข้าช่วยเหลือให้ทันท่วงที
กองทัพอากาศ โดย พล.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้สั่งเตรียมพร้อมในการสนับสนุนการปฏิบัติการฝนหลวงโดยใช้เครื่องบิน 3 แบบคือ 1.บีที-67 เป็นการทำฝนหลวงในเมฆชั้นต่ำ โดยให้การสนับสนุนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หากมีการร้องขอ 2.เอยู-23เอ จ.ประจวบคีรีขะนธ์ 3.อัลฟ่าเจ็ต กองบิน 23 จ.อุดรธานี ในการทำฝนหลวงในเมฆชั้นสูง นอกจากนี้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ ได้ประสานไปยังศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทุกกองบิน ให้เตรียมน้ำอุปโภคบริโภคเพื่อแจกจ่ายประชาชนในพื้นที่ประสบภัย และสนับสนุนกำลังทหารหากมีการร้องขอขุดเจาะบ่อบาดาล
อย่างไรก็ตาม ทุกเหล่าทัพ ยังได้สั่งการให้หน่วยทหาร สนับสนุนกระทรวงมหาดไทยประสานกับส่วนราชการในท้องถิ่น เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนในภาพรวมถึงแนวทางบริหารจัดการน้ำตามที่รัฐบาลกำหนด ควบคู่กับการตระหนักรู้และการใช้น้ำอย่างประหยัด รู้คุณค่า โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญให้สามารถผ่านพ้นสถานการณ์ภัยแล้งไปด้วยกัน
