‘4เงื่อนไข’ชี้ชะตาร่างรธน.

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160125/221154.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันจันทร์ที่ 25 มกราคม 2559
‘4เงื่อนไข’ชี้ชะตาร่างรธน.

ขยายปมร้อน : ‘4เงื่อนไข’ ชี้ชะตาร่างรธน. : โดย..ขนิษฐา เทพจร /สำนักข่าวเนชั่น

     จากปรากฏการณ์ที่ “พลพรรคเพื่อไทย-แนวร่วมกลุ่มนปช.” กระหน่ำเสนอความคิดสู่สาธารณะ ในทำนองที่ว่า จะรณรงค์ให้โหวตคว่ำรัฐธรรมนูญใหม่ ทั้งที่ยังไม่เห็นเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับว่ามีปัญหาที่เนื้อในจริงหรือไม่
     และแม้ท่าทีของฝ่ายต่อต้านรัฐบาล จะยังไม่ชัดเจนว่า จะยกประเด็นอะไรในร่างรัฐธรรมนูญไปปลุกกระแสคว่ำ แต่ถือว่าการแสดงความเห็นทำนองขู่นั้น สร้างความไม่พอใจให้แก่ “รัฐบาลคสช.” ไม่น้อย จนถึงขั้นที่ “บิ๊กตู่“ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ บอกให้ใช้อะไรทิ่มปาก “ตู่” จตุพร พรหมพันธ์ ประธาน นปช. ผ่านวงสัมภาษณ์ของสื่อมวลชนหลังจตุพรให้สัมภาษณ์ในรายการ “คม ชัด ลึก” เนชั่นทีวี ว่าร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับ “มีชัย ฤชุพันธุ์” บกพร่องทางประชาธิปไตย และจงใจเขียนให้ไม่ผ่านประชามติ
     ขณะที่ท่าทีของผู้ทำร่างรัฐธรรมนูญ เหมือนไม่หวาดวิตก ในคำขู่ของคนฝ่ายคิดต่าง ที่พยายามปลุกกระแสต้านร่างรัฐธรรมนูญแบบรายวัน หากจับอาการผ่าน “อาจารย์มีชัย” ตั้งแต่ที่ประเด็นคว่ำรัฐธรรมนูญถูกจุด จนมาถึงมีบุคคลที่แสดงตัวเป็นผู้นำการรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ยังคงสงบนิ่งและเยือกเย็น แม้จะถูกตั้งคำถาม แต่คำตอบที่ได้ คือใครที่ไม่เห็นด้วยต่อให้อธิบายจนสุดไม้ถ่อเขาก็ไม่เข้าใจ และยังนำประเด็นไปบิดเบือนเพื่อใช้ต่อสู้
     แต่ในความนิ่งสงบ ยังพบความกังวลว่า ร่างรัฐธรรมนูญจะล่มกลางเรือแป๊ะ และไม่ถูกยอมรับจากประชาชน ซึ่ง “กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ” เคยยกเป็นประเด็นพูดคุยถึงโอกาส ปัญหา และทางรอด ซึ่งได้ข้อสรุปที่ออกมาในหลายแนวทาง อาทิ หาแนวร่วมเพิ่ม ขยายเครือข่ายที่สนับสนุน และสร้างความเข้าใจไปยังสังคม
     แต่หากถามใจ “กรธ.” อีกครั้งว่า “กลัวประชามติร่างรัฐธรรมนูญจะไม่ผ่านหรือไม่?”
     คำตอบที่ได้ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ “ไม่กลัว” แต่หากร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านได้ ต้องมีเงื่อนไข คือ
     “ผู้ออกมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติต้องเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิทั้งหมด แม้มีคนต้าน แต่ผลวิจัยยืนยันว่าคิดเป็น 20-30 เปอร์เซ็นต์ของประชากรไทยเท่านั้น ที่เหลือคือพลังเงียบ ดังนั้นหากคนออกมาใช้สิทธิ์เยอะ ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านแน่นอน” เงื่อนไขแรกนี้ อมร วาณิชวิวัฒน์ กรธ. สายรัฐศาสตร์ กล่าวไว้หลังถูกเพื่อนที่เป็นหมอทหารปรามาสไว้ว่า คน 70-80 เปอร์เซ็นต์จะไม่ผ่านรัฐธรรมนูญให้
     ต่อมา คือ “การใช้ดุลพินิจของผู้ลงประชามติต้องเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่มีอคติ และฟังความให้ครบทุกด้าน ไม่ใช่เชื่อเพราะถูกชี้นำ” พล.อ.นิวัติ ศรีเพ็ญ กรธ.สายทหาร จากกรมพระธรรมนูญ ให้ความเห็นในเงื่อนไขที่สอง พร้อมเสนอแนวทางให้คิด วิเคราะห์ ก่อนตัดสินใจออกเสียงประชามติว่า ต้องดูเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญว่าถูกเขียนเพื่ออะไร และนำไปสู่อะไร
     ถัดไป คือ “ปัจจัยที่มีรัฐบาลฝ่ายทหาร และกลุ่มการเมือง หรือ พรรคการเมืองฐานะผู้นำความคิดถูกแช่แข็งไว้ ไม่ใช่ปัจจัยที่ชี้ว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะผ่านประชามติหรือไม่ เพราะ คสช.ไม่มีพลังอำนาจไปบังคับการตัดสินใจของประชาชน ดังนั้นปัจจัยที่จะให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านไปได้ คือ การยอมรับกลไกในร่างรัฐธรรมนูญ ที่แก้ปัญหาซึ่งสังคมเห็นร่วมกันว่าบ่อนทำลายชาติ คือ การทุจริต” อาจารย์ธิติพันธุ์ เชื้อบุญชัย กรธ.สายนิติศาสตร์ ชี้มุมมองในเงื่อนไขที่สาม
     และเงื่อนไขที่สี่ ซึ่งหลายฝ่ายเห็นตรงกันคือความกระหายอยากเลือกตั้งของนักการเมืองเพราะหากร่างรัฐธรรมนูญนี้ไม่ผ่าน ผลคือต้องยืดการเลือกตั้งออกไป จนถึงปี 2561 เพราะไม่มีทางที่ “คสช.” จะหยิบรัฐธรรมนูญ 2540 หรือ 2550 มาปัดฝุ่นใช้บังคับ เพราะเนื้อในยังมีช่องว่างที่สร้างปัญหาชาติ และยิ่งไม่มีทางที่จะนำร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับที่สภาปฏิรูปแห่งชาติ โหวตคว่ำ หรือร่างรัฐธรรมนูญฉบับไม่ผ่านประชามติมาใช้ เพราะมีปัญหาด้านการยอมรับ ดังนั้นทางออกที่เป็นไปได้เพื่อตอบโจทย์คสช. คือ ตั้งคนทำรัฐธรรมนูญชุดใหม่มาแทน
     แต่จะด้วยเงื่อนไข หรือคำขู่ ที่มีตอนนี้ไม่สามารถสรุปได้ว่าผลจะออกหัวหรือก้อย เพราะยังมีสถานการณ์และหลายเงื่อนไขทางการเมืองและสังคม ที่ทำให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ กลายเป็นจุดจบก่อนจะเริ่มต้นใช้บังคับ

Leave a comment