‘โกง’ต้องติดคุก-ชดใช้คืนทรัพย์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160127/221313.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันพุธที่ 27 มกราคม 2559
'โกง'ต้องติดคุก-ชดใช้คืนทรัพย์

‘วัชรพล’ เผย 15 ก.พ.นี้ ป.ป.ช.แถลงผลการทำงานรอบ 1 เดือน ‘สุภา’ ชี้ จับคนโกงติดคุกไม่จบ ต้องชดใช้คืนทรัพย์ด้วย

                      27 ม.ค. 59  ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานกล่าวเปิดการอบรมหลักสูตรนิติเศรษฐศาตร์ระยะสั้นรุ่นที่ 2 ว่า การทุจริตร้ายแรงมากต่อประเทศ สิ่งสำคัญต้องเกิดจากการมีมาตรฐานทางสังคมและการโกงก็คือหนทางจะไปสู่เป้าหมายมาตรฐานทางสังคม เช่น ทุกคนอยากมีการศึกษาดี มีบ้าน มีรถให้ลูกหลาน หนทางไปสู่จุดนั้นอาจไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับสภาวะความพร้อม ซึ่งความไม่เหมือนกันนั้นนำมาซึ่งคนที่กระทำความผิด เขาก็ได้หาหนทางที่อยากได้ตามเป้าหมายสังคมที่อยากมี อย่างไรก็ตาม กลไกการแก้ไขต้องซับซ้อนมากขึ้น ต้องสร้างการรับรู้ สร้างการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น ดังนั้น หลักนิติเศรษฐศาตร์จึงมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะในบ้านเราที่มีโครงการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก หากสังคมมีกลไกดังกล่าวก็จะช่วยสร้างการรับรู้ สร้างกลไกตรวจสอบและจะทำให้ปัญหาลดน้อยลง การลงทุนเรื่องนี้จึงคุ้มค่าและจะทำให้สำนักงาน ป.ป.ช.บรรลุวัตถุประสงค์มากยิ่งขึ้นในภารกิจต่อต้านการปราบปรามการทุจริต
                      นางสาวสุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. ได้กล่าวบรรยายตอนหนึ่งในหัวข้อ มุมมองทางนิติเศรษฐศาตร์เกี่ยวกับการตรวจสอบทรัพย์สินและการตรวจสอบติดตามโครงการ ว่า การตรวจสอบทรัพย์สินต้องมีเรื่องเศรษฐศาตร์เข้าไปเกี่ยวข้อง หากคนไหนเราชี้ทุจริต ต้องขอตรวจสอบทรัพย์สินทุกราย จึงอาจต้องแก้ไขกฎหมาย เพราะบางคนหนีบทลงโทษไป แต่ทรัพย์สินยังอยู่ ทั้งนี้ กฎหมาย ป.ป.ช.ฉบับที่สามจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากอายุความยังอยู่แม้คุณจะหนีไป ยังไงต้องถูกลงโทษแน่ ซึ่งในหลักเศรษฐศาตร์การทำผิดทุจริตไม่ใช่เพียงการลงโทษโดยติดคุก แต่คุณต้องชดใช้ จ่ายค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ต้องดูโอกาสของธุรกิจนั้นว่าเสียหายหรือไม่ ต้องนึกถึงคนทั้งประเทศ คนที่ทุจริตไม่ใช่ทุจริตเพราะอยากติดคุก แต่ทุจริตเพราะอยากได้ทรัพย์ ดังนั้น เราต้องใช้หลักนี้ คือ เมื่อทุจริตต้องคืนทรัพย์มา เราก็พยายามหาทรัพย์สินที่โกงไปกลับคืนมาให้ได้ แต่หากหามาไม่ได้ก็ต้องเอาทรัพย์สินที่มีมาชดใช้ ไม่ใช่แค่ติดคุกแล้วจบ เพราะในมุมตนไม่เพียงพอสำหรับคนที่เสียภาษี
แถลงผลการทำงานรอบ 1 เดือน 15 ก.พ.นี้
                      พล.ต.อ.วัชรพล เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 15 ก.พ. 59 ตนพร้อมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งหมด 9 คน จะเปิดแถลงผลการทำงานในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา รวมทั้งผลความคืบหน้าของคดีต่างๆ และหากสื่อมวลชนต้องการสอบถามหรือสัมภาษณ์ในประเด็นใด ก็ยินดีให้สัมภาษณ์ทุกเรื่อง เพราะในวันที่ 3 ก.พ.ซึ่งเป็นวันครบรอบ 1 เดือนของการทำงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหม่ ซึ่งตนได้หารือกับกรรมการทุกคน รวมถึงคณะอนุกรรมการในทุกคดีที่ค้างอยู่เกือบ 2,000 เรื่อง เพราะบางเรื่องกรรมการชุดเดิมเป็นประธานอนุกรรมการก็สามารถเดินหน้าได้ แต่บางเรื่องที่อาจจะต้องเปลี่ยนตัวอนุกรรมการเพราะมีกรรมการเข้ามาใหม่ก็ต้องมาดูกันใหม่ว่าจะต้องมีมาตรการทำงานต่อไปอย่างไร เพื่อให้มีกลุ่มงานที่ชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องกรอบเวลา เพราะเรื่องนี้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญเองให้ความสนใจและวางกรอบเพื่อเร่งรัดสะสางคดีทุจริตคอร์รัปชั่น ดังนั้น กรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน จะได้หารือกับผู้อำนวยการสำนักต่างๆ ที่อยู่ในกำกับดูแลงานที่รับผิดชอบว่าจะต้องเดินกันต่อไปอย่างไร หากคดีไหนที่คิดว่ามีความสำคัญจะต้องทุ่มเทบุคคลากรไปดำเนินการ ทางกรรมการก็อยากเห็นความต่อเนื่อง
                      พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ในวันที่ 15 ก.พ. ที่ตนจะเชิญระดับผู้อำนวยการจากทั่วประเทศมาเข้าร่วมประชุมด้วยนั้น เพื่อกำชับนโยบายการทำงานของระดับจังหวัด จะทำงานร่วมกับสำนักไต่สวนต่างๆ หรือสำนักงานป้องกันอย่างไรให้เกิดความชัดเจน ซึ่งในวันนั้นจะหารือกันถึงความชัดเจนของการทำงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.จังหวัดด้วยว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไรหลังจากที่ ป.ป.ช.ได้ตั้งสำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดไป 28 จังหวัดแล้ว แต่ยังไม่ได้ตั้งเพิ่ม เนื่องจากมีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้หยุดชะงักการสรรหาเพิ่มไว้ก่อน เชื่อว่าการพูดคุยจะมีความชัดเจนมากขึ้นว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป และต่อไปอาจจะต้องมีการแก้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542
                      พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ปลายสัปดาห์นี้ร่างรัฐธรรมนูญจะออกมาให้เห็น และจะมีบริบทที่เกี่ยวข้องกับงานของ ป.ป.ช. และอาจจะเป็นแนวทางที่เราจะต้องแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 เพื่อให้สอดรับกับแนวทางของรัฐธรรมนูญ อย่างก็ไรก็ตาม เมื่อได้เห็นร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวแล้วคงจะได้หารือร่วมกับผู้บริหารและฝ่ายกฎหมายของ ป.ป.ช.ก่อนที่จะเสนอข้อคิดเห็นด้วยหลักการและเหตุผลโดยยึดประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ไม่ใช่ว่า ป.ป.ช.จะยึดแต่ประโยชน์ของตนเองโดยที่ไม่รับฟังใดๆ ถึงแม้วันนี้ยังไม่มีรัฐธรรมนูญร่างแรก แต่ ป.ป.ช.ก็ทำงานอย่างเต็มที่ แต่ถ้ามีร่างรัฐธรรมนูญออกมาแล้วจะมีบริบทการทำงานของ ป.ป.ช.ที่ต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ก็ต้องดูกันอีกครั้ง

Leave a comment