ภัยแล้งรุกหนัก 4 จังหวัดใกล้วิกฤติ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/570223

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 30 ม.ค. 2559 05:30

 

กรมชลโทษน้ำท่วม-จำนำข้าว จำใจระบายน้ำส่งผลปัจจุบัน

นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีที่ภัยแล้งรุนแรงในรอบ 20 ปี ซึ่งใกล้เคียงกับภัยแล้งในปี 2537 โดยก่อนหน้านี้ในปี 2554/2555 ในลุ่มเจ้าพระยามีน้ำใช้การได้ 18,000 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ระบายน้ำออกไป 14,000 ล้าน ลบ.ม. เนื่องจากในปี 2554 เกิดน้ำท่วมหนักจึงเกิดความตกใจต้องระบายน้ำออกไปมาก เพื่อให้มีพื้นที่รองรับน้ำ สร้างความเชื่อมั่นให้ภาคอุตสาหกรรม ขณะที่พื้นที่ปลูกข้าวนาปรังในขณะนั้นอยู่ที่ 11 ล้านไร่ และปีการผลิต 2555/2556 มีพื้นที่นาปรังจำนวน 11 ล้านไร่เช่นกัน ส่วนปีการผลิต 2556/2557 มีพื้นที่ทำนาปรัง 9 ล้านไร่ เป็นผลมาจากรัฐบาลในขณะนั้นมีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกในราคาที่สูง จูงใจให้เกษตรกรปลูกข้าวกันมากจึงใช้น้ำมากขึ้นด้วย ส่งผลให้ปี 2556/2557 มีน้ำใช้การเหลืออยู่ที่ 8,153 ล้าน ลบ.ม. และเมื่อวันที่ 1 พ.ย.2558 ที่ผ่านมามีน้ำใช้การอยู่ที่ 4,247 ล้าน ลบ.ม. ล่าสุดวันที่ 27 ม.ค.2559 มีน้ำใช้การได้อยู่ที่ 3,489 ล้าน ลบ.ม. โดยในวันที่ 1 พ.ค.2559 คาดว่าปริมาณน้ำใช้การจะอยู่ที่ 1,590 ล้าน ลบ.ม. สามารถใช้ได้ถึงวันที่ 14 ส.ค.2559 เฉพาะเพื่อการอุปโภค บริโภค และรักษาระบบนิเวศ เพียงพอที่จะป้องกันความเสี่ยงช่วงรอยต่อช่วงหน้าแล้งไปฤดูฝน

ขณะที่นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ กล่าวว่า ความต้องการใช้น้ำทั่วประเทศช่วง ม.ค.-เม.ย.2559 อยู่ที่ 15,487 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ทั่วประเทศมีน้ำใช้การได้ 20,000 ล้าน ลบ.ม. ถึงปริมาณน้ำจะเพียงพอแต่บางพื้นที่ยังขาดแคลนน้ำอยู่ เพราะน้ำอยู่กันคนละที่ ซึ่งหากมีระบบท่อเชื่อมโยงจะช่วยลดการขาดแคลนน้ำในบางพื้นที่ได้ ทั้งนี้พบว่าในจำนวน 928 อำเภอ มีอยู่ 548 อำเภอ คิดเป็น 59% ซึ่งรัฐบาลใช้วิธีการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาแบบแยกเป็นกลุ่มจังหวัด โดยจัดระดับการขาดแคลนน้ำเป็น 4 ระดับ คือ ระดับปกติ, เฝ้าระวัง, ใกล้วิกฤติ และวิกฤติ ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ขาดแคลนน้ำสูงสุดยังอยู่ในขั้นใกล้วิกฤติ คือกลุ่มจังหวัดที่ 14 ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์และสุรินทร์ โดยรัฐบาลได้เข้าไปช่วยเหลือตามจุดที่เกิดความเสียหาย และเจาะบ่อบาดาลเพิ่มในพื้นที่.

Leave a comment