เลื่อนโรดแมป คสช.ยิ่งกระอัก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

01 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 08:15 น…. อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/analysis/politic/413431

เลื่อนโรดแมป คสช.ยิ่งกระอัก

โดย…ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

ส่องเนื้อหาในบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะพบว่าโรดแมปสู่การเลือกตั้งที่เดิมเคยวางไว้ว่าจะเกิดขึ้นเดือน ก.ค. 2560 คงต้องขยับออกไปอีกประมาณปลายปี 2560

จากแผนเดิมตามสูตร 6-4-6-4 รวมระยะเวลา 20 เดือน เริ่มจากระยะเวลาร่างรัฐธรรมนูญ 6 เดือน ประชามติ 4 เดือน จัดทำกฎหมายลูก 6 เดือน และจัดการเลือกตั้ง 4 เดือน

มาเป็นแผนใหม่ 6-4-8-5 ที่เปลี่ยนแปลงในขั้นตอนการจัดทำกฎหมายลูกจาก 6 เดือน เป็น 8 เดือน และจัดการเลือกตั้งจาก 4 เดือน เป็น 5 เดือน

ในส่วนของการจัดทำกฎหมายลูกรวม 10 ฉบับ จนต้องเพิ่มเวลานั้น มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) อธิบายว่า แค่ 8 เดือนก็ถือว่า “หืดขึ้นคอ” เพราะรัฐธรรมนูญที่เราร่างถือเป็นโครงสร้างใหม่จำเป็น ต้องทำให้กลไกมันเดินหน้าได้ด้วยกฎหมายลูก

“ถ้าหาคนมาร่วมร่างเพิ่มได้ตลอด 24 ชั่วโมง ก็อาจลดไปได้สัก 2 เดือน การร่างกฎหมายลูกเราจะทยอยทำ เมื่อฉบับไหนเสร็จก็จะส่งให้ สนช.พิจารณา เราจะไม่ทำทั้งหมดให้เสร็จจนครบเวลา 8 เดือน แล้วค่อยส่ง”

ไม่ต่างจากในส่วนของการจัดการเลือกตั้งที่เพิ่มขึ้นมาอีก 1 เดือนนั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะระบบการเลือกตั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้นหาก ร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามตินั้นเป็นโมเดลใหม่ทั้งหมด จำเป็นต้องมีการตระเตรียมซักซ้อมความเข้าใจกันใหม่หมด

แม้จะเป็นการลงคะแนนบัตรเดียวแล้วคำนวณได้ทั้ง สส.เขต และ สส.สัดส่วน แต่เนื่องจากเป็นระบบใหม่ ทำให้ต้องวางแผนและเตรียมการกันใหม่หมด จำเป็นต้องใช้เวลาเพิ่มเติมจากการเลือกตั้งในอดีต

ทาง วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะออกมาชี้แจงว่า กฎหมายลูกที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งมี 5 ฉบับ หาก 5 ฉบับนี้เสร็จ ก็สามารถจัดการเลือกตั้งได้ หากไปคำนวณในขั้นตอนในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็อาจสั้นลงได้ ซึ่งเท่าที่ดูระยะเวลามันไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงอะไร

แน่นอนว่าระยะเวลาที่ขยับเพิ่มจากโรดแมปเดิมอีก 3 เดือน ในทางปฏิบัติจริงแทบจะไม่มีผลอะไรมากนักหากนับจากกรอบเดิม 20 เดือน หรือหากจะนับตั้งแต่ระยะเวลาที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาทำหน้าที่ก็รวมเกือบ 3 ปี

แต่ปัญหาอยู่ตรงหลายฝ่ายตั้งตารอ “การเลือกตั้ง” ซึ่งถือเป็นกลไกที่จะยืนยันว่าบ้านเมืองกำลังจะเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาล คสช.กลับเข้าสู่สภาวะปกติ

ถึงที่ผ่านมาจะมีโรดแมปมาตั้งแต่รัฐประหารว่าบ้านเมืองจะมีเลือกตั้งในห้วงเวลาไหน แต่ทว่า “สัญญาณ” และ “ท่าที” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ในช่วงที่ผ่านมามักจะสร้างความสับสนแถมลดความเชื่อมั่นมาโดยตลอด

ทั้งเคยระบุว่าจะอยู่ในตำแหน่งต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าบ้านเมืองจะสงบ บางครั้งถึงขั้นระบุว่าหากปั่นป่วนมากๆ จะปิดประเทศบ้าง จนทำให้สังคมเริ่มคลางแคลง

เช่นเดียวกับ “ความเชื่อมั่น” ในสายตาต่างชาติ ที่เฝ้ารอความชัดเจนจะเข้ามาค้าขายหรือลงทุนในประเทศ จนไม่อาจตัดสินใจทำอะไรได้

การที่โรดแมปมาขยับร่นออกไปอย่างเป็นทางการอีก 3 เดือน จึงถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดีและจะกระทบไปถึงการค้าการลงทุนซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจที่มีแต่จะหนักขึ้นเรื่อยๆ

ยิ่งในช่วงนี้ที่องค์กรระหว่างประเทศเริ่มจับตาสถานการณ์ภายในประเทศไทย โดยเฉพาะท่าทีการดำเนินการต่อกลุ่มนักศึกษา หรือกลุ่มที่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อต้านรัฐบาล ที่ถูกมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิพื้นฐาน

ล่าสุด เกล็น เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ยังกล่าวระหว่างเข้าเยี่ยมคารวะ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ โดยระบุว่า “หวังว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นตามระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ตามโรดแมป”

ยิ่งในส่วนของบรรดานักการเมืองที่ตกงานมาเกือบสองปีและกำลังเฝ้าอดทนรอจนถึงวันเลือกตั้ง การเลื่อนเวลาออกไปยิ่งจะทำให้ถูกมองว่านี่เป็นแผนการยื้ออยู่ในอำนาจ

สะท้อนผ่านท่าทีของ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่มองว่านี่เป็นการโกหกหน้าด้านๆ เพราะคนร่างรัฐธรรมนูญต้องรู้มาก่อนแล้วว่าจะต้องเตรียมออกกฎหมายใดให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว

เช่นเดียวกับ อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาดักคอว่าเป็นแผนที่ต้องการอยู่ในอำนาจนานๆ หรือไม่

“เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้นเช่นนี้ ประชาชนมองเห็นถึงเจตนาเตะถ่วงซื้อเวลา จะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาทำให้ประชาชนตัดสินใจคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ในชั้นประชามติให้ได้ เพราะเห็นเจตนาประวิงเวลาชัดเจน”

การขยับโรดแมปเลือกตั้งออกไปเช่นนี้ จึงไม่เป็นผลดีต่อ คสช. รวมทั้งไม่เป็นผลดีต่อทิศทางการบริหารประเทศในช่วงเวลาที่เหลือ ที่สำคัญหากบานปลายหนักขึ้นย่อมมีแต่จะทำให้ทุกอย่างที่ คสช.ทำมาพังทลาย

 

Leave a comment