ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160208/222059.html
คสช.ติง‘แม้ว’หนีคดียังวิจารณ์รธน. ชี้สภาวะบ้ารเมืองไม่ต้องการการยุแหย่ ยันรับฟังความเห็น ระบุสถาบันศึกษาจัดเสวนา รธน.ได้ ไม่ห่วงบอลประเพณีจุฬา-มธ.ล้อการเมือง
ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 8 ก.พ.2559 พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธ์ รองหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ส่วนงานรักษาความสงบ สำนักงานเลขาธิการเลขคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำให้ประเทศถอยหลังเข้าคลอง ว่า ต้องถามว่าตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในสถานะอะไร ถ้าเรามองกันตามความเป็นจริง ก็อยู่ในสถานะผู้ต้องโทษ แต่ยังไม่มารับโทษ เพราะฉะนั้นการออกความเห็นมานั้น คนไทยเรามีความรู้มีวิจารณญาณได้ว่าควรจะรับฟังหรือไม่ ในสภาวะบ้านเมืองแบบนี้ เราต้องการความร่วมมือปรองดองสมานฉันท์ เราไม่ต้องการการมายุแย่ให้เกิดความแตกความสามัคคีหรือการแบ่งแยก ดังนั้นเราต้องดูสถานะคนพูด กับคนที่กำลังทำงานอยู่ในบ้านเมืองเวลานี้ ตนว่าคนไทยกำลังเฝ้าฟังเฝ้าดู มีวิจารณญาณ ว่าควรจะฟัง หรือชะลอไว้ก่อน ในการจัดความสำคัญลำดับความเร่งด่วน
เมื่อถามถึงกรณีที่ ทหารยังกดดันคนแสดงความเห็นโดยการส่งทหารลงไปในหมู่บ้าน เข้าไปพบนักการเมือง หรือเชิญมาพูดคุยอยู่ พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวว่า ต้องมองว่าเป็นการผูกมิตรชิดใกล้ พบปะการได้เห็นกันและพูดคุยกัน อย่างน้อยเราก็จะได้รับรู้ว่าการคิดต่างเห็นต่างนั้นมองอย่างไร บางครั้งอาจคิดไม่เหมือนกันซึ่งบางครั้งรู้ว่ามีความคิดไม่เหมือนกัน แต่นะเวลานี้เราต้องการเข้าไปอธิบาย และทำความเข้าใจ ไม่ได้ไปกดดันหรือทำให้ไม่สบายใจหรือรู้สึกไม่ดี คนเราเจอกันบ่อยความรู้สึกที่ดี ได้ระบายความคิดก็จะทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น และถ่ายทอดซึ่งกันและกัน เรารับฟังความคิดเขา เขารับฟังความคิดเรา มันก็จะนำไปสู่ในสิ่งที่เราทำร่วมกัน บางครั้งหนักไปก็ถ่อยมา เบาไปก็เพิ่มไป
เมื่อถามว่ามีโอกาสหรือไม่ที่ทาง คสช. จะแก้ประกาศเพื่อเปิดโอกาสให้ทางนักการเมือง ได้มีการแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นของร่าง ธธน. หรือไม่ พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวว่า แต่ละฝ่ายให้ความคิดเห็นผ่านหลายช่องทางที่เรากำหนดมาแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ได้รับฟังรับรู้แล้วนำไปประมวลซึ่งก็อยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็น ไม่ได้ปิดกั้นอะไร เพียงแต่สิ่งใดนำไปสู่การบิดเบือน หรือปลุกระดมขอให้ชะลอยุติก่อน ส่วนการจัดเสวนาร่างรัฐธรรมนูญในสถานศึกษาจะทำได้หรือไม่นั้น ตนคิดว่าสิ่งที่อยู่ในกรอบกำหนดนั้นทำได้ไม่ได้ห้าม องค์ความรู้ในสถาบันการศึกษา หรือนักวิชาการ ตนว่าเป็นองค์ความรู้ที่เป็นข้อเท็จจริงและเป็นประโยชน์ ได้มาก ซึ่งความจริงแล้ว ครู อาจารย์ได้ให้ความรู้กับการทำงานของ รัฐบาล และคสช. มาตลอด เพียงแต่ว่าในเวลานี้มีความเหมาะสมกับบ้านเมืองเราหรือไม่ ซึ่งหากประเด็นใดใช้กับการแก้ปัญหาของประเทศได้ก็หยิบเอามาใช้ อย่างไรก็ตาม การจัดเสวนานั้นก็อยู่ที่ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ หรือสิ่งที่เรามองว่า จะนำไปสู่สิ่งที่ไม่ดีในอนาคตหรือไม่ เราไม่ได้มองว่าหากจัดเชียร์รัฐธรรมนูญจัดได้ หากไม่เชียร์จัดไม่ได้ คงไม่ใช้อย่างนั้น
ไม่ห่วงบอลประเพณีจุฬา–มธ.ล้อการเมือง
พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวถึงเรื่องการจัดฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ที่จะมีขบวนพาเหรดล้อเรียนการเมือง ว่า ตนมองว่าเป็นงานประเพณี จุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ มากว่า 70 ปี มีเรื่องการล้อการเมืองมาโดยตลอด เพียงแต่ว่าในช่วงเวลานี้การล้อการเมือง อาจจะไม่เหมาะสม ซึ่งการจัดก็มีคณะกรรมการในการจัด ของน้องๆนักศึกษา และครู อาจารย์ ดูแลร่วมกันอยู่ ซึ่งก็มีข้อคิด มีคอนเซ็ปต็ การจัดอยู่แล้ว ไม่หน้าเป็นห่วงอะไร เพราะน้องๆนักศึกษา เป็นมีความรู้ มีครู อาจารย์ เป็นคนที่มีวิจารณญาณสูง เพราะฉะนั้น จะคิด จะอ่าน หรือทำอะไร เขาได้ไตร่ตรองแล้ว และได้อยู่ในคณะกรรมการการจัดงาน ตนว่าเราไม่ต้องไปห่วงเรื่องตรงนั้น เพียงแต่ว่า เราดูแลเรื่องความปลอดภัย ซึ่งในช่วงนี้ก็เป็นช่วงเทศกาลต่างๆ ทหารเราจึงเข้าไปดูแลในเรื่องของความปลอดภัยมากกว่า
เมื่อถามว่าอาจมีบุคคลที่จะหวังผลทางการเมืองแอบเข้าไปนำป้ายผ้าต่างๆเข้าไปติดโจมตีการทำงานของรัฐบาล เหมือนที่เคยผ่านมาว่า พ.อ.ปิยพงศ์ กล่าวว่า จริงแล้วน้องๆนักศึกษาต้องรู้ดี ว่าใช้หรือไม่ใช้ เพราะมีกระบวนการในการจัดงานอยู่ หากเห็นสิ่งที่ผิดแปลกแตกต่างก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลย
เด็กพท.ออกโรงป้องทักษิณ
นอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตตส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รู้สึกประหลาดใจว่าข่าวออกมาได้อย่างไร เข้าใจว่า อดีตส.ส.ผู้ให้ข่าวคงอยากจะให้ตนเองมีความสำคัญกับนักข่าวมากกว่า ถือว่าเป็นผู้ไม่มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ซึ่งในข้อเท็จจริงนั้นพวกตนเห็นว่า อดีต ส.ส.ไม่ได้เจอกันนานแล้ว เลยมีการนัดทานข้าวปีใหม่ควบตรุษจีนกัน แล้วก็บอกคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ในฐานะที่เคยดูแลพวกเรามา และถือโอกาสไปอวยพรตรุษจีนคุณหญิงด้วย ในการพบปะกัน ก็มีอดีตส.ส.พูดขึ้นว่า ไม่ได้มีโอกาสพูดคุยโทรศัพท์หรือไปเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มาเป็นเวลานานมากแล้ว อยากจะอวยพรปีใหม่ท่านอดีตนายกฯ ตามวัฒนธรรมที่ดีของคนไทย จึงได้มีการโทรหาท่านอดีตนายกฯ เพื่ออวยพรปีใหม่ ซึ่งไม่มีการเตรียมการอะไรมาก่อน เมื่อโทรศัพท์ติดก็แค่เปิด SPEAKER ให้ฟังกัน ในห้องทานข้าวก็ไม่มีจอภาพใดๆทั้งสิ้น แล้วก็คุยโทรศัพท์กันสั้นๆ
นอ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่อว่า ในการพูดคุยท่านก็อวยพรให้ ส.ส.ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง มีกำลังใจเข้มแข็งในการฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ และตั้งใจทำงานรับใช้ประชาชนด้วยความจริงใจ จะได้กลับมาเป็น ส.ส.ทุกคน ไม่ว่าการเลือกตั้งจะมาเร็ว หรือมาช้า ซึ่งถ้ามาเร็วในปีนี้ แต่ ส.ส.ไม่เตรียมตัวทำงานก็อาจสอบตกไม่ได้เป็น ส.ส. บังเอิญมีอดีต ส.ส.ถามเรื่องรัฐธรรมนูญขึ้นมา ซึ่งท่านได้เปรยว่ามีหลานแล้วไม่ได้พูดการเมืองมานานแล้ว ท่านก็ตอบเพียงสั้นๆว่า ท่านห่วงบ้านเมืองว่า การร่าง รธน. แบบนี้ น่าจะทำให้บ้านเมืองถอยหลังลงคลองมากกว่าจะปฏิรูปประเทศเพื่อสิ่งที่ดีกว่าได้ ประเทศที่เขาล้าหลังกว่าเรา 20 ปี เขายังพัฒนาตัวเองทั้งด้านประชาธิปไตยและเศรษฐกิจจนก้าวหน้าไปมาก โดยท่านบอกว่า ท่านออกจากประเทศมา 10 ปีแล้ว แต่ก็ยังรักและห่วงบ้านเมืองอยากเห็นประเทศเดินหน้าไปได้ อยากให้ทุกคนรวมใจเป็นหนึ่ง พยายามเอาเรื่องบ้านเมืองมาก่อนเรื่องตัวเองหรือเรื่องพรรค วันนี้ต้องเอาปัญหาบ้านเมืองเป็นหลัก ประชาชนกำลังเดือดร้อน ขอเอากำลังใจช่วยทุกคน ท่านพูดสั้นๆเท่านี้ แต่ไปพูดใส่สีตีไข่ให้ดูเป็นเรื่องใหญ่ เพื่อให้ตัวเองมีความสำคัญเป็นแหล่งข่าวพิเศษ ซึ่งในข้อเท็จจริงไม่มีการเตรียมการใดๆมาล่วงหน้า พอมีคนบ่นถึงท่าน จึงมีการโทรหา ใช้เปิด SPEAKER จอภาพในงานก็ไม่มี และพูดกันสั้นๆเท่านั้นในการพูดโทรศัพท์ท่านอดีตนายกไม่ได้กล่าวตำหนิใครเลย ท่านอยากเห็นความสงบสุขและการเดินหน้าพัฒนาประเทศ ทุกคำพูดมีแต่ความห่วงใยประเทศและให้กำลังใจกันเท่านั้น ดังนั้นโปรดอย่าฉวยโอกาสนำมาเป็นประเด็นทางการเมือง
