ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160115/220525.html
เกษตร-วิทยาศาสตร์-ไอที : ข่าวทั่วไป
วันศุกร์ที่ 15 มกราคม 2559
ทำกินถิ่นอาเซียน : มาเลเซียพยายามพึ่งตนเอง : โดย … รศ.สมพร อิศวิลานนท์
ประเทศมาเลเซียเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศอาเซียนที่มีการผลิตข้าวไม่เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศและต้องมีการนำเข้าข้าวเป็นประจำทุกปีมานานนับตั้งแต่ในยุคที่เป็นอาณานิคมของอังกฤษ และอังกฤษในยุคนั้นได้ใช้คาบสมุทรมลายูหรือมาเลเซียในปัจจุบันเป็นแหล่งของการผลิตและการค้าสินค้ายางพาราและปาล์มน้ำมันซึ่งเป็นสินค้าเกษตรส่งออกที่สำคัญ
สำหรับสินค้าข้าวแม้จะเป็นพืชดั้งเดิมที่มีการเพาะปลูกเพื่อการยังชีพและเป็นอาหารของครัวเรือนในชนบท แต่การผลิตสินค้าดังกล่าวในคาบสมุทรมลายูไม่ค่อยได้รับความสนใจจากผู้ครอบครองอาณานิคมเท่าไรนัก ผลผลิตข้าวในมาเลเซียจึงไม่เพียงพอกับความต้องการบริโภคภายในประเทศ
หลังจากที่มาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 2500 แม้ว่าได้จัดทำแผนการพัฒนาประเทศไปพร้อมๆ กับการพัฒนาการเกษตร เช่น การชลประทาน ระบบสินเชื่อ ไปพร้อมๆ กับการพัฒนาระบบการจัดการไร่นาทำให้พื้นที่ปลูกข้าวได้ขยายตัวและรวมถึงการใช้พื้นที่เพาะปลูกข้าวได้มากกว่าหนึ่งครั้งในรอบปี หรือเพิ่มจากร้อยละ 87 ในช่วงปี 2514-2518 มาเป็นร้อยละ 92 ในช่วงปี 2519-2523 ก็ตาม แต่เนื่องจากมาเลเซียมีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 7 ล้านคนในปี 2500 มาเป็น 30 ล้านคนในปัจจุบัน ประกอบกับพื้นที่เพาะปลูกข้าวของมาเลเซียมีจำกัด ทำให้ระดับการพึ่งพิงตนเองเรื่องข้าวของมาเลเซียถดถอยลงในช่วงกว่าทศวรรษที่ผ่านมา
จะเห็นได้จากในช่วงปี 2553-2557 มาเลเซียผลิตข้าวได้เฉลี่ยปีละ 1.73 ล้านตันข้าวสาร แต่ความต้องการเฉลี่ยปีละ 2.79 ล้านตัน ต้องนำเข้าเฉลี่ยปีละ 0.99 ล้านตันข้าวสาร ทำให้มาเลเซียเหลือที่พึ่งตนเองเพียงร้อยละ 62 ปัจจุบันมาเลเซียมีพื้นที่เพาะปลูกข้าวประมาณ 4.30 ล้านไร่ 70% ปลูกในคาบสมุทรมลายูในพื้นที่รัฐเกดะห์ รัฐกลันตัน รัฐเประ รัฐปะลิส และปีนัง
นโยบายด้านข้าวของมาเลเซียรัฐได้ให้การคุ้มครองทั้งด้านผู้ผลิตและด้านผู้บริโภคข้าวภายในประเทศทั้งในอดีตและในปัจจุบัน โดยองค์การข้าวเปลือกและข้าวแห่งชาติ หรือที่เรียกว่าเบอร์นาส (BERNAS) ซึ่งย่อมาจากภาษามาเลย์ว่า Padiberas Nasional Berhad มีหน้าที่สำคัญคือ 1.สร้างความมั่นใจให้แก่ชาวนาว่าจะได้รับราคาที่ยุติธรรม 2.สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคว่าจะซื้อข้าวได้ในราคาที่ยุติธรรม 3.ให้ข้อแนะนำในการจัดการถือครองและจัดหาอุปทานข้าวให้มีเพียงพอกับสถานการณ์ฉุกเฉิน 4.ให้ข้อแนะนำเชิงนโยบายที่นำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวเปลือกและข้าวสารของประเทศทั้งระบบ รวมถึงการประสานและติดตามการจัดทำโครงการตามนโยบายของรัฐที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมข้าวของประเทศ
นอกจากนี้ เบอร์นาสยังเป็นองค์การที่ได้รับมอบอำนาจในการบริหารราคาข้าวนับตั้งแต่การรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในระดับราคาประกัน การจัดการควบคุมระบบการสีแปรรูปข้าว การจัดการควบคุมระดับขายส่งและขายปลีก การจัดสำรองข้าวเพื่อภาวะฉุกเฉินของประเทศ การเป็นผู้ตัดสินใจนำเข้าข้าวของมาเลเซีย รวมถึงการมีอำนาจในการออกกฎระเบียบควบคุมและจัดการการตลาดและแปรรูปข้าวทั้งระบบอีกด้วย ทำให้อุตสาหกรรมการค้าข้าวของมาเลเซียในภาพรวมยังอยู่ในรูปแบบของการควบคุมกำกับโดยภาครัฐอยู่นั่นเอง
ดังนั้น ภายใต้ของการเป็นประชาคมอาเซียนมาเลเซียก็จะยังไม่เปิดตลาดนำเข้าข้าวให้เป็นตลาดการค้าเสรีอย่างแน่นอน
———————-
(ทำกินถิ่นอาเซียน : มาเลเซียพยายามพึ่งตนเอง : โดย … รศ.สมพร อิศวิลานนท์)
