ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160209/222146.html
ครม.ตีกลับแก้หนี้ครูของก.คลังหวั่นสร้างหนี้เพิ่ม ไฟเขียวออมสินแก้ 2.83 แสนรายใช้เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ หรือเงินบำเหน็จตกทอด ค้ำกู้ใหม่ลดดอกเบี้ยเหลือ4%
9ก.พ.59 พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า กระทรวงการคลัง เสนอโครงการลดภาระหนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เรียกว่าเงินตกทอดสู่ทายาทและเงินชพค.นำไปเป็นหลักประกันหรือค้ำประกันสำหรับเปิดเงินกู้ให้กับครู แต่มีข้อสังเกต ข้อเป็นห่วงจากหลายคนในที่ประชุมครม.ว่าเงินตรงนี้เมื่อเปิดให้กู้แล้วควรจะให้ครูนำกลับไปใช้หนี้เก่า ไม่ใช่หนี้เก่าก็ยังอยู่ แต่ไปสร้างหนี้ใหม่ก็ไม่ตรงหลักการแก้ปัญหาหนี้สินก็จะเป็นปัญหาไปใหญ่ ดังนั้นต้องเริ่มตั้งหลักคือเคลียร์หนี้เก่าก่อน
“ครม.จึงให้กลับไปพิจารณาตรงนี้ว่าสิ่งที่ครม.ให้ข้อสังเกตนั้นเป็นเรื่องจำเป็น ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการคลังต้องไปหารือในเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นจึงยังไม่ผ่านครม. แม้จะเป็นแค่วาระเพื่อทราบ แต่เมื่อครม.มีข้อสังเกตก็ต้องกลับไปทบทวนในสาระสำคัญ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าถ้าแก้ปัญหาแบบนี้คุณครูจะมีเงินรายได้เข้ามาก้อนหนึ่งเพื่อความคล่องตัว แต่มันจะเป็นการสร้างหนี้ใหม่ และหนี้เก่าก็ไม่ได้แก้ไข แบบนี้ก็จะไปไม่รอด ”พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
เคาะกู้ใหม่ลดดอกเบี้ยเหลือ4%
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า โครงการดังกล่าวกระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ และธนาคารออมสินได้หารือกันแล้วได้ข้อสรุปว่าในการดำเนินการให้ธนาคารออมสินอนุมัติวงเงินสินเชื่อให ม่ให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทาง การศึกษาที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ โดยใช้เงินทายาทจะได้รับในอนาคต เมื่อผู้กู้เสียชีวิต เพื่อใช้ค้ำประกัน ทั้ง เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ครอบครัว (ช.พ.ค.) หรือเงินบำเหน็จตกทอด นำมาขอเงินสินเชื่อใหม่เพื่อลดภาระหนี้หรือปิดบัญชีหนี้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าปรกติให้ ขณะเดียวกันผู้กู้ก็ไม่ต้องผ่อนชำระหนี้ในวงเงินสินเชื่อใหม่ตลอดอายุสัญญาด้วย
ทั้งนี้การดำเนินการคาดว่าจะสามารถแก้ไขบรรเทาปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ประมาณ 2.83แสนราย และสามารถลดภาระหนี้ของครูและบุคลากรทางการศึกษาได้เฉลี่ยรายละ300,000 – 600,000บาท ทำให้ลดภาระการผ่อนชำระหนี้เดิมลงได้2,000 – 4,000บาทต่อเดือน หรือบางรายสามารถชำระหนี้ปิดบัญชีได้
ทั้งนี้ครูและบุคคลากรทางการศึกษาจะได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจาก 5.85 – 6.7%ต่อปี เหลือเป็นอัตราดอกเบี้ย4%ต่อปี ซึ่งเป็นการแบ่งเบาภาระในระยะยาว อีกทั้งผู้กู้ยังไม่ต้องผ่อนชำระหนี้วงเงินสินเชื่อใหม่ตลอดอายุสัญญาด้วย ซึ่งจะทำให้ครูและบุคลากรทางการศึกษามีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานดีขึ้น ทำให้เกิดการพัฒนาวิชาชีพครูในภาพรวมและส่งผลดีต่อการศึกษาของประเทศ
“การประชุมครั้งนี้มีข้อสังเกตจากนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีหลายคนที่ให้ความเห็นประกอบการพิจารณาเอาไว้ ซึ่งเป็นสาระสำคัญของเรื่อง โดยแสดงความเป็นห่วงว่า เมื่อธนาคารออมสินได้ปล่อยสินเชื่อใหม่ไปแล้ว ก็อยากให้ครูใช้วงเงินนี้ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ คือ ต้องไปใช้หนี้เดิมก่อน ไม่ใช่ไปสร้างหนี้ใหม่ เพราะไม่อย่างนั้นก็คงจะไปไม่รอด โดยนายกฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง ไปหารือกับกระทรวงศึกษาเพื่อพิจารณา แนวทางการป้องกันปัญหานี้อีกที และทั้งสองกระทรวงต้องไปติดตามการดำเนินโครงการและต้องรายงานมาให้ที่ประชุม ครม.ทราบภายใน3เดือน และต้องเสนอแนวทางการแก้ปัญหาในระยะยาวมาให้ครม.ด้วย”พล.ต.สรรเสริญกล่าว
แหล่งข่าวจากที่ประชุม ครม.เปิดเผยว่า ในการประชุม ครม.เปิดเผยว่า นายอำพน กิตติอำพล เลขาธิการ ครม.ได้กล่าวในระหว่างการประชุมครม.ว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวควรจะต้องมีการตรวจสอบสถานะของผู้กู้ที่เป็นครูและบุคลากรทางการศึกษา ก่อนที่จะอนุมัติวงเงินสินเชื่อใหม่ให้ โดยธนาคารออมสินก็มีหลักเกณฑ์การปล่อยกู้ที่เข้มงวดอยู่แล้ว พร้อมกับได้ตรวจสอบบัญชีของผู้กู้ด้วย จากนั้นเมื่อเห็นว่า มีความเหมาะสมที่ต้องเข้าให้ความช่วยเหลือรายที่มีความเดือดร้อนจริงๆ ก็พิจารณาปล่อยสินเชื่อให้ได้ เช่น อาจเอาบัญชีมากางกันเลยว่าให้มีหลักประกันว่าการให้กู้ไม่ให้เกิดหนี้ก้อนใหม่ขึ้น
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้นำเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ครู โดยธนาคารออมสินจะมีการปล่อยสินเชื่อใหม่ เพื่อนำไปใช้หนี้เดิม หรือรีไฟแนนซ์หนี้ก้อนเดิมที่มีอยู่กับออมสิน โดยปรับลดดอกเบี้ยลงให้เหลือ 4% พร้อมปรับวงเงินการผ่อนชำระต่องวดให้ลดลง
ทั้งนี้โครงการนี้เปิดให้ข้าราชการครูเข้าร่วมโดยสมัครใจ ไม่มีกำหนดเวลาปิดโครงการ แต่ให้ผ่อนชำระได้จนถึงอายุ 75 ปี จากเดิมกำหนดอายุไว้ที่ 74 ปี ข้าราชการครูจะร่วม หรือไม่ร่วมโครงการก็ได้ปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อข้าราชการครูของออมสินมีอยู่ประมาณ 5 แสนล้านบาท
