‘ปู’ใช้โซเชียล-ดึงสื่อนอกเป็นเกราะ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160213/222386.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2559
‘ปู’ใช้โซเชียล-ดึงสื่อนอกเป็นเกราะ

‘ยิ่งลักษณ์’ ใช้โซเชียล ดึงสื่อนอกเป็นเกราะ : ประพันธ์ จินดาเลิศอุดมดี รายงาน

             เป็นที่น่าจับตามองขึ้นมาทันที ภายหลังจากที่สื่อต่างประเทศได้นำเสนอคำให้สัมภาษณ์ของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกฯ

เปิดประเด็นสำคัญเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว และยังยิงคำถามแบบเน้นๆ ว่า นับตั้งแต่เกิดการยึดอำนาจมา “ยิ่งลักษณ์” ใช้ชีวิตความเป็นอยู่อย่างไรบ้าง ซึ่งสื่อต่างประเทศ 3 สื่อที่นำเสนอบทสัมภาษณ์ของ “ยิ่งลักษณ์” ในครั้งนี้คือ สเตรทไทม์ วอลล์สตรีทเจอร์นัล และซีเอ็นเอ็น

สำหรับที่มาที่ไปของการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศในครั้งนี้ เนื่องจากสื่อต่างประเทศต่างตัดพ้อว่า “ยิ่งลักษณ์” ไม่ให้ความสำคัญกับสื่อต่างประเทศเลย แคร์แต่กับสื่อไทย

เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการนำเสนอข่าวการเปิดสวนผักที่บ้านของ “ยิ่งลักษณ์” โดยมีสื่อไทยเดินทางไปทำข่าวกันอย่างเนืองแน่นจนถูก คสช.จับตามาแล้ว

อีกทั้งตลอด 1 ปีที่ผ่านมา สื่อต่างประเทศได้ขอนัดสัมภาษณ์ “ยิ่งลักษณ์” มาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ถูกปฏิเสธกลับไป ดังนั้น ทีมงานของ “ยิ่งลักษณ์” จึงเสนอให้สื่อต่างประเทศส่งแนวคำถามมาให้พิจารณาก่อนเป็นอันดับแรก

ส่วนสาเหตุที่ “ยิ่งลักษณ์” ตัดสินใจให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ 3 สื่อดังกล่าว เนื่องจากแนวคำถามของทั้ง 3 สื่อข้างต้นนั้น เน้นไปที่ชีวิตความเป็นอยู่หลังการยึดอำนาจ และแนวทางการต่อสู้ในคดีรับจำนำข้าวเป็นหลัก อาทิ ความเป็นอยู่หลังการยึดอำนาจเป็นอย่างไร ปัจจุบันมีความเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง และเวลานี้โครงการรับจำนำข้าวที่เป็นนโยบายที่ทำให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งนั้น กำลังถูกโจมตีว่ามีการคอร์รัปชั่น “ยิ่งลักษณ์” มีแนวทางต่อสู้อย่างไร เป็นต้น

ขณะที่สื่อต่างประเทศอื่นๆ นั้น มีแนวคำถามที่ทีมงาน “ยิ่งลักษณ์” มองแล้วว่ามีความสุ่มเสี่ยง อาทิ จะเอาอย่างไรกับ คสช. หรือมีการพูดคุยในทางลับกับคสช.หรือไม่ เป็นต้น ซึ่งแนวคำถามแบบนี้ ภาษาชาวบ้านเรียกว่า เสี้ยมให้ชนกับคสช.เต็มๆ ทีมงาน “ยิ่งลักษณ์” จึงต้องปฏิเสธไป เพื่อไม่ให้เป็นการเติมเชื้อไฟลงไปในกองฟืนเข้าไปอีก

นอกจากนี้ โซเชียลมีเดีย ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ถูกทีมงาน “ยิ่งลักษณ์” หยิบขึ้นมาใช้ ทั้งให้อดีตรัฐมนตรีหลายต่อหลายท่าน ทั้ง “วัฒนา เมืองสุข” “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” และ“ยรรยง พวงราช” โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว

รวมถึงการดึงคำสัมภาษณ์บางประโยคที่ไม่เคยพูดหรือให้สัมภาษณ์สื่อที่ไหนมาก่อน ของ “ยิ่งลักษณ์” กับสื่อต่างประเทศ มาทำกราฟฟิกและแปลเป็นภาษาไทยเพื่ออธิบายกับคนไทยด้วยกันด้วย ไม่ว่าจะเป็น

“ดิฉันพยายามอยู่เงียบๆ มานานเกือบ 2 ปี ปล่อยให้รัฐบาลบริหารประเทศไป แต่บางครั้งจำเป็นต้องออกมาพูดเพราะเกรงว่าประชาชนจะเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อน”

“ดิฉันไม่มีตำแหน่งอะไร เป็นแค่คุณแม่ลูกหนึ่ง ฉะนั้น ไม่ต้องหวาดหวั่นอะไรในตัวดิฉัน”

“นักการเมืองมาจากการเลือกตั้ง เป็นผู้แทนของปวงชน ถ้าคุณไม่เชื่อถือนักการเมือง นั่นแปลว่าคุณไม่ไว้วางใจประชาชน

แต่ที่ฮือฮาที่สุดเห็นจะเป็นคำถามที่ดูเหมือนว่าสื่อต่างประเทศเองก็มีคำถามค้างคาใจเหมือนๆ กับคนไทยคนอื่นๆ ว่า ถ้าต้องคดีจริงๆ สุดท้ายแล้ว “ยิ่งลักษณ์” จะหนีเหมือน “ทักษิณ ชินวัตร” พี่ชายหรือไม่

“ถ้าต้องการหนี ดิฉันคงหนีไปแต่แรกแล้ว ดิฉันจะไปขึ้นศาลทำไม” คือคำตอบที่ออกมาจากปากของ “ยิ่งลักษณ์” เอง คงแทนคำยืนยันในคำถามที่หลายคนยังค้างคาใจได้เป็นอย่างดี

แว่วด้วยว่า ภายหลังจากที่ “ยิ่งลักษณ์” ตัดสินใจให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ 3 สื่อดังกล่าวไปแล้วนั้น ทีมงาน “ยิ่งลักษณ์” เกรงว่าสื่อต่างประเทศอื่นๆ ที่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์อาจจะเข้าใจผิดว่ามีการเลือกปฏิบัติหรือไม่

คิดไปคิดมาว่าจะเอาอย่างไรดีอยู่นานสองนาน จะไม่ให้สัมภาษณ์ก็กลัวจะถูกมองว่าเลือกปฏิบัติ แต่ครั้นจะให้สัมภาษณ์ด้วยคำถามที่สุ่มเสี่ยงที่จะชนกับคสช.แบบเต็มๆ นั้น ก็กลัวว่า สิ่งที่ได้กลับคืนมามันจะไม่คุ้มเสีย

จึงเป็นที่มาของการเปิดแปลงสวนผักที่บ้าน “ยิ่งลักษณ์” เป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยเชิญสื่อต่างประเทศกว่า 25 สำนักมาพบปะและพูดคุยกันด้วย

เพื่อปิดช่องโหว่ที่อาจถูกมองว่ามีการเลือกปฏิบัติ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ “ยิ่งลักษณ์” จำเป็นต้องดึงสื่อต่างประเทศให้หันมาเป็นพวกนั่นเอง

Leave a comment