ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160211/222301.html
มท.เร่งงานเศรษฐกิจพอเพียงปูพรหมกว่า23,000หมู่บ้านทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่กระทรวงมหาดไทย กรมการพัฒนาชุมชน ได้จัดการประชุมชี้แจงนโยบายการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในภาคเกษตรและชนบท ถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานมีผู้ร่วมชี้แจง ประกอบด้วย นายประสาท พาศิริ รองเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยงานภาคี แกนนำหมู่บ้าน ปราชญ์ชาวบ้าน ทีมประเทศไทยตำบล หรือทีมประชารัฐ ตลอดจนประชาชนทั่วไปได้ทราบถึงนโยบายและยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนโครงการพระราชดำริ เกิดความเข้าใจและการมีส่วนร่วม และนำไปสู่การปฏิบัติงานในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า สังคมไทยยังมีปัญหา รัฐบาลจึงได้น้อมนำหลัก “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ พอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกัน มาเป็นแนวทางการพัฒนาเชิงพื้นที่ สร้างกระบวนการพัฒนาบนฐานความรู้ ความเข้าใจ เพื่อให้ปัญหาต่างๆ ลดลง โดยได้กำหนดยุทธศาสตร์การบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (พ.ศ.2557-2560) ขึ้น ภายใต้ 7 ยุทธศาสตร์สำคัญ ทั้งด้านการเกษตร การศึกษา เศรษฐกิจ ธุรกิจ ความมั่นคง การต่างประเทศ นำไปขับเคลื่อนให้เกิดผลพร้อมๆ กัน
นายกฤษฎา กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงมหาดไทย และ สำนักงาน กปร. ได้รับผิดชอบใน 2 เรื่อง สำคัญ คือ การพัฒนาแหล่งน้ำ และ การลดรายจ่าย เพื่อนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติต่อไปในอนาคต จึงขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันตรวจสอบว่ามีแหล่งน้ำในพื้น/ปริมาณน้ำต้นทุนมีเท่าไหร่ มีความต้องการใช้น้ำอย่างไร เพียงพอต่อความต้องการหรือไม่ทั้งน้ำเพื่อการเกษตร น้ำอุปโภคบริโภค พื้นที่ต้องรู้ต้นทุนของตนเอง จากนั้น ต้องมีการจัดทำแผนชุมชน จากนั้นเราจะจัดสรรงบประมาณลงไปช่วยเหลือ ในระยะแรกนี้มีหมู่บ้านพื้นที่เป้าหมายจำนวน 23,587 หมู่บ้าน หรือประมาณร้อยละ 25 ของหมู่บ้านทั่วประเทศ
ด้านนายอภิชาต โตดิลกเวชช์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชน รับผิดชอบในการจัดเก็บข้อมูลและจัดทำแผนชุมชน โดยการจัดเก็บข้อมูล จะทำให้ชาวบ้านประจักษ์ชัดในข้อเท็จจริงของตัวเอง เห็นเหตุของปัญหา และความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นในครอบครัวและชุมชน ซึ่งจะทำให้เกิด “ระเบิดจากข้างใน” นำไปสู่วางแผนร่วมกันเพื่อในการแก้ไขปัญหา โดยมีข้อมูลที่จำเป็น 4 ส่วน คือ ข้อมูลบัญชีครัวเรือน ข้อมูลแหล่งน้ำ ข้อมูลด้านเศรษฐกิจสังคม และข้อมูล จปฐ.และ กชช.2ค
ทั้งนี้ หลังจากที่ได้ข้อมูลแล้ว คณะทำงานระดับตำบลจะร่วมกับแกนนำและอาสาสมัครของชุมชนวิเคราะห์ ในเวทีประชาคมหมู่บ้าน จัดทำเป็นแผนชุมชน แผนพัฒนาหมู่บ้าน แล้วให้นำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามระบบการบูรณาการและเชื่อมโยงแผนในพื้นที่ เช่น จัดส่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่งให้ทีมบูรณาการแผนระดับตำบล และส่งให้อำเภอ ซึ่งข้อมูลจากแผนพัฒนาแหล่งน้ำ แผนพัฒนาอาชีพต่างๆ ก็จะถูกจัดกลุ่มเชื่อมโยงไปสู่การพัฒนาของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
