‘ไพบูลย์’จ่อเอาผิด‘มส.-พศ.’อุ้ม‘ธัมมชโย’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160211/222259.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559
‘ไพบูลย์’จ่อเอาผิด‘มส.-พศ.’อุ้ม‘ธัมมชโย’

‘ไพบูลย์’ จ่อยื่น ‘ดีเอสไอ-ผู้ตรวจฯ’ เอาผิด ‘มส.-พศ.’ ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ตาม ม.157 หลังอุ้ม ‘ธัมมชโย’ รอดปาราชิก

      11 ก.พ.59 นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรฐานปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) พร้อมด้วยเครือข่ายป้องป้องพระเกียรติสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช และเครือข่ายสตรีปกป้องพระพุทธศาสนา ร่วมกันแถลงข่าวถึงมติของมหาเถรสมาคม(มส.) ที่ปฏิเสธที่จะดำเนินการตามหนังสือแจ้งของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ที่ให้พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ต้องอาบัติปาราซิก ตามพระลิขิตของสมเด็จญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช ว่า การที่ มส.ระบุว่า ไม่สามารถดำเนินการตามดีเอสไอได้ โดยอ้างว่าคดีของพระธัมมชโยสิ้นสุดในคณะผู้พิจารณาชั้นต้นแล้ว จึงเห็นว่าการกระทำของ มส. และสำนักพระพุทธศาสนา (พศ.) อาจจะเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
      นอกจากนี้ ที่ประชุม มส.ยังได้รับรองการดำเนินการให้คณะผู้พิจารณาชั้นต้นดำเนินการชอบด้วยกฎหมายแล้ว ดังนั้นจึงเห็นว่าผู้พิจารณาชั้นต้นไม่ได้รายงานข้อเท็จจริงของกฎหมายและธรรมวินัยที่เกี่ยวข้องต่อ มส. เพื่อให้พิจารณาตามกฎของ มส.ฉบับที่ 21(พ.ศ.2538) ข้อ 4 วรรคแรกและวรรคท้าย จึงอาจจะเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ดังนั้นเพื่อให้กระบวนการบังคับใช้กฎหมายดำเนินการให้ได้ข้อยุติ พวกตนจะนำเรื่องไปยื่นหนังสือร้องทุกข์ กล่าวโทษ ต่อดีเอสไอ และให้ผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัยต่อไป
‘สุวพันธุ์’ สั่ง ‘พศ.-มส.’ แจงสังคมกรณี ‘ธัมมชโย’ รอดปาราชิก
      11 ก.พ.59 เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกรณี มหาเถรสมาคม(มส.) มีมติว่า พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ไม่อาบัติปาราชิก ว่า หลังจากมีมติออกมาแล้วต้องไปดูหนังสือชี้แจงของ มส. และ พศ.ที่จะทำไปถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะที่ทำเรื่องสอบถามเข้ามาว่าเป็นอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ ตนได้บอก พศ.ไปว่าเรื่องนี้สังคมไม่ได้มองว่าเป็นปัญหาเรื่องข้อกฎหมาย ข้อบังคับ หรือพระธรรมวินัยเท่านั้น แต่เป็นคำถามที่เกี่ยวข้องกับความศรัทธาต่อองค์กร สถาบันพระพุทธศาสนา พศ.จึงต้องชี้แจงกับสังคมให้เข้าใจว่าที่ผ่านมาได้ทำไปตามอำนาจหน้าที่ของตัวเองอย่างไรบ้าง สุดขอบเขตอำนาจตัวเองแล้วหรือยัง ขณะที่ทาง มส.คงต้องทำแบบนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งตนได้เสนอข้อเสนอแนะไปแล้ว
      ผู้สื่อข่าวถามว่า จะทำอย่างไรเพราะมีข้อครหาเกี่ยวกับสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชกับวัดพระธรรมกาย ซึ่งยังเป็นที่สงสัยของสังคมอยู่ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเราต้องแยกกันก่อน เมื่อวันที่ 10 ก.พ. มส.หารือกันเรื่องพระภิกษุรูปหนึ่ง เขามองแล้วว่าข้อกฎหมายหรือข้อธรรมวินัยที่ออกมาก็เป็นไปตามมตินั้น แต่ว่ามีเรื่องของศรัทธาอยู่ จึงต้องดูสังคมรู้สึกอย่างไร จำเป็นต้องชี้แจงหรือทำความเข้าใจอะไรเพิ่มเติม
      เมื่อถามว่า รัฐบาลจะทำอย่างไรเพราะประชาชนเริ่มเสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนากันแล้ว นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ก็ต้องเอาศรัทธากลับมาให้ได้ ให้เข้มแข็ง เมื่อถามว่า หลังจากนี้พศ.จะดูแลอย่างไรให้พระสงฆ์อยู่ในกฎระเบียบที่ถูกต้อง ไม่ทำอะไรผิดแปลกข้อบัญญัติทางพระพุทธศาสนา นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เราเคยบอกกันว่าต้องยึดข้อกฎหมาย ข้อบังคับของมส. และพระธรรมวินัย แต่วันนี้ตนคิดว่าเราคงต้องเพิ่มอีกสักเรื่องหนึ่งแล้วคือ ต้องคำนึงถึงศรัทธาของประชาชนที่มีต่อองค์กร พระพุทธศาสนา จะคิดแบบเดิมไม่ได้แล้ว ตนเห็นว่าเรื่องของคณะสงฆ์หรือของใครก็แล้วแต่ ว่ากันไปเป็นกรณีไป โดยยึดกฎหมายและพระธรรมวินัยเป็นหลักแล้วดำเนินการไปตามนั้น ส่วนประเด็นใดที่ไปเชื่อมโยงกับความศรัทธาของสังคมก็ต้องมีประเด็นที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม ดังนั้น เรื่องที่ยังค้างคา ก็ต้องติดตาม ดูไปตามข้อกฎหมายที่มีอยู่ ดีเอสไอก็ทำของเขาต่อไป
      เมื่อถามว่า เมื่อเรื่องนี้จบแล้วจะทำให้การแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่เดินต่อไปได้หรือไม่ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน แต่สังคมอาจจะมองถึงความเชื่อมโยงกัน อย่างไรก็ตาม เรื่องแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชยังอยู่ในขั้นตอนของตนอยู่ ยังไม่ได้เดินหน้าไปไหน เพราะตนยังเข้าใจสถานการณ์ได้ไม่ครบถ้วน

Leave a comment