คนไทยมีเซ็กส์เร็วเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20151109/216607.html

การศึกษา-สาธารณสุข-สิ่งแวดล้อม : ข่าวทั่วไป
วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2558
คนไทยมีเซ็กส์เร็วเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก

แพทย์ชี้คนไทยมีเซ็กส์เร็วเสี่ยงป่วยมะเร็งปากมดลูกอายุน้อย ห่วงคนเมือง เหตุ ไร้ อสม. เคาะประตูกระตุ้นตรวจคัดกรอง

           9พ.ค.2558 นพ.ณัฐวุฒิ กันตถาวร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาสูติ-นรีเวชวิทยา ด้านมะเร็งนรีเวช โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันโรคมะเร็งปากมดลูกยังเป็นปัญหาสาธารณสุขของไทย ซึ่งพบมากเป็นอันดับ2รองจากมะเร็งเต้านม โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ปีละ8,000-10,000คน ในจำนวนนี้เสียชีวิต ร้อยละ 50 หรือประมาณ 4-5 พันคนต่อปี ในขณะที่ประเทศเจริญแล้ว เช่น ยุโรปไม่พบผู้ป่วยโรคดังกล่าวแล้ว

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โรคในประเทศไทยยังถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ เมื่อเทียบกับบางประเทศในเอเชีย โดยอัตราส่วน30ต่อ1แสนประชากร แต่ปัจจุบันพบเพียง16ต่อ1แสนประชากร ซึ่งคาดว่าในอนาคตสถานการณ์การพบผู้ป่วยจะน้อยลง ทั้งนี้การตรวจคัดกรองส่วนใหญ่จะใช้วิธีการตรวจแบบแปปสเมีย ซึ่งมีความไวในการตรวจร้อยละ50ดังนั้นอนาคตจึงมีโอกาสในการใช้วิธีการหาเชื้อไวรัสโดยตรงด้วยวิธีการตรวจเซลล์ปากมดลูกแบบแผ่นบาง ซึ่งมีความแม่นยำสูงถึงร้อยละ95แต่หากใช้2วิธีนี้ร่วมกันจะให้ผลแม่ยำถึงร้อยละ 99 และโอกาสผิดพลาดอยู่ที่1ใน1,000ประชากร อย่างไรก็ตามการตรวจแบบใหม่ยังไม่เป็นที่นิยมเพราะราคาค่อนข้างสูง

นพ.ณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ในประเทศไทยพบผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกอายุน้อยลง โดยแบ่งเป็น2ช่วงอายุคือ ในช่วงอายุที่น้อยระหว่างอายุ 30-40 ปี และช่วงที่ 2 คืออายุระหว่าง 50-60 ปี จากอดีตจะพบผู้ป่วยโรคดังกล่าวที่กลุ่มอายุ40-50ปีขึ้นไป ทสาเหตุที่พบผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกในผู้ที่มีอายุน้อยนั้น มีสาเหตุมาจากการมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น สำหรับเหตุผลที่ทางโรงพยาบาลจุฬาภรณ์เลือกทำโครงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกใน อ.ท่าวังผ่า อ.ปัว และอ.บ่อเกลือ ใน จ.น่าน เนื่องจากเดิมมีเครือข่ายของรพ.จุฬาภรณ์มาตรวจคัดกรองโรคมะเร็งตับอยู่ที่พื้นที่บ้านหลวง จึงได้มีการประสานร่วมกัน และมาดำเนินการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก โดยใช้วิธีการตรวจแบบใหม่คือการตรวจเซลล์ปากมดลูกแบบแผ่นบาง ซึ่งเบื้องต้นมีผู้ลงทะเบียนเข้ารับการตรวจกับโครงการจำนวน800คน

“เรื่องพื้นที่ห่างไกลไม่สามารถบอกได้ว่าพื้นที่นั้นจะมีปัญหามะเร็งปากมดลูกมากกว่าในชุมชนเมืองหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา เคยทำโครงการร่วมกับวชิระพยาบาลในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ให้กับผู้หญิงในกทม.และปริมณฑล ก็พบว่ามีสถานการณ์ที่ค่อนข้างหน้าเป็นห่วง พบความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปากมดลูกถึงร้อยละ7และพบไวรัสสายพันธ์รุนแรงคือ16และ52ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่รุนแรง ดังนั้นจะต้องมีการศึกษาเปรียบเทียบกับพื้นที่ชนบทด้วย ซึ่งจริงๆแล้วพื้นที่เมืองอาจน่าเป็นห่วงมากกว่าในชนบท เนื่องจากในเมืองไม่มี อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรือ อสม.คอยเคาะตามบ้านเพื่อกระตุ้นให้ไปตรวจคัดกรอง”นพ.ณัฐวุฒิ กล่าว

Leave a comment