ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/576416
โดย วานิชหนุ่ม 13 ก.พ. 2559 05:01

ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวใหญ่กับวงการธุรกิจค้าปลีกในตลาดเมืองไทย เมื่อกลุ่มบริษัทของเจ้าสัว “เจริญ สิริวัฒนภักดี” โดยบริษัททีซีซี คอร์ปอเรชั่น ได้บรรลุข้อตกลงซื้อหุ้นใหญ่ของ “บิ๊กซี” จากกลุ่มบริษัทคาสิโน จากประเทศฝรั่งเศส และขั้นตอนทางตลาดหลักทรัพย์จะต้องทำให้เสร็จสิ้นกระบวนการภายในวันที่ 31 มี.ค.ที่จะถึงนี้
เบื้องต้นทางเจ้าสัวเจริญจะต้องใช้เงินกว่า 1.2 แสนล้าน เพื่อจ่ายให้กลุ่มคาสิโนกับหุ้น 58.6% ยังไม่รวมที่จะต้องจ่ายเพิ่มเติมกับการตั้งโต๊ะซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายย่อยของบิ๊กซีอีก
นับเป็นการสยายปีกทางธุรกิจศูนย์การค้า ค้าปลีก ค้าส่งแบบครบวงจรที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง หลังจากพยายามซื้อกิจการของ “คาร์ฟูร์” ได้ตัดสินใจถอนการลงทุนในประเทศไทย แต่ล้มเหลวไปเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา และกลุ่มคาสิโนเองเป็นผู้ชนะจากการประมูลในครั้งนั้นและได้ปรับเปลี่ยนมาเป็น “บิ๊กซี” ดังที่รู้กัน
ปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกของเจ้าสัวเจริญ ได้ตั้งบริษัททีซีซี แลนด์ แอสเสท เวิลด์เอสเตท และปรับโมเดลธุรกิจเป็น 5 คาแรกเตอร์ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ประกอบด้วย เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์, ดิจิตอล เกตเวย์, เซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยาม สแควร์, พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า และ บ็อก สเปซ ยังไม่นับรวมถึงศูนย์การค้าตะวันนา พลาซ่า รวมทั้งบริษัททีซีซี แอสเซ็ทส์ ที่เพิ่งเปิดตัว “เดอะสตรีท รัชดา” เน้นพัฒนาโครงการ “มิกซ์ยูส” เน้นความหลากหลายของศูนย์การค้า
ขณะเดียวกันได้เปิดศูนย์ค้าส่งใน จ.หนองคาย รวมไปถึงร้านสะดวกซื้อในประเทศลาวและธุรกิจร้านสะดวกซื้อและธุรกิจค้าส่งในประเทศเวียดนาม
การเข้าซื้อกิจการ “บิ๊กซี” ครั้งนี้ยังจะช่วยให้การขยายธุรกิจของเจ้าสัวเจริญเป็นไปด้วยความรวดเร็วและครบวงจร และเป็นอีกหนึ่งค่ายที่ต้องน่าจับตามอง ทั้งการเป็นผู้ผลิต ซัพพลายเออร์ ไปจนถึงธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง
สำหรับกลุ่มเซ็นทรัล ยักษ์ใหญ่ในวงการค้าปลีกห้างสรรพสินค้า ผู้ก่อตั้งกิจการ “บิ๊กซี” ในเมืองไทย ในยุคเริ่มต้นของธุรกิจ “ดิสเคาน์สโตร์” ด้วยการจับมือกับเครืออิมพีเรียล ผุด “บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์” ขึ้นมา ทว่าเมื่อเกิดวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้งที่ธุรกิจคนไทยได้รับผลกระทบกันหมด กลุ่มคาสิโน ซึ่งเป็นผู้ประกอบการค้าปลีกอันดับสองของประเทศฝรั่งเศสได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แทน
นอกจากนี้ กลุ่มเซ็นทรัลยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกิจการ “คาร์ฟูร์” ด้วยการจับมือกับคาร์ฟูร์ จากประเทศฝรั่งเศส และได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ดังกล่าวเช่นเดียวกันจนต้องขายหุ้นออกไป ทั้งบิ๊กซีและคาร์ฟูร์ กลุ่มเซ็นทรัลล้วนแต่ร่วมแข่งขันประมูล แต่ก็ประสบความล้มเหลวทั้งสองครั้ง
ก่อนหน้านี้อภิมหาบิ๊กดีลที่เกิดขึ้นในธุรกิจในเมืองไทยก็คือกลุ่มบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ ซื้อกิจการ “แม็คโคร” ผู้จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคให้สมาชิก มูลค่ามหาศาลถึง 1.88 แสนล้านบาท โดยให้บริษัทซีพี ออลล์ ผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เป็นผู้ซื้อกิจการค้าส่ง และเครือซีพีจะใช้เครือข่ายของแม็คโครเป็นหัวหอกนำสินค้าไทยในการบุกตลาดต่างประเทศทั่วเอเชีย
ทางด้าน “เทสโก้ โลตัส” เองก็ถูกจับตามองมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา หลังจากบริษัทแม่ที่ประเทศอังกฤษประสบปัญหาก็มีข่าวการเจรจาขายกิจการมาตลอด ในปีที่ผ่านมาถึงกับมีข่าวเจ้าสัว “ธนินท์ เจียรวนนท์” ได้บรรลุข้อตกลงซื้อกิจการมูลค่าถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทาง “เทสโก้” เมืองไทยออกมาปฏิเสธและข่าวก็เงียบหายไป โดยที่ผ่านมากลุ่มซีพีเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทเทสโก้ โลตัส ในเมืองไทย แต่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์จนต้องขายหุ้นออกไปเช่นเดียวกัน
แม้จะเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นมามากมายผลกระทบที่เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยปีแล้วปีเล่ารวมทั้งบทเรียนจากวิกฤติต้มยำกุ้ง แต่กลุ่มทุนไทยเองก็สามารถฝ่าวิกฤติเอาตัวรอดและมีความแข็งแรงพอที่จะไล่ซื้อกิจการจากต่างชาติกลับคืนมาได้!!
วานิชหนุ่ม
wanich@thairath.co.th



