ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/577945
โดย อินเด็กซ์ 51 16 ก.พ. 2559 05:01

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 15 ก.พ.59 ปิดที่ 1,288.40 จุด เพิ่มขึ้น 11.91 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 30,612.43 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 307.88 ล้านบาท
หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด TASCO ปิด 22 บาท ลบ 4.90 บาท, PTT ปิด 235 บาท บวก 5 บาท, PTTEP ปิด 58 บาท บวก 2.50 บาท, TOP ปิด 59 บาท บวก 1 บาท และ ADVANC ปิด 167 บาท บวก 0.50 บาท
หุ้นไทยปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ จากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่รีบาวน์กลับตัวขึ้นมาแรง แต่มูลค่าการซื้อขายยังคงเบาบางเพราะนักลงทุนมีความระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น โดยยังคงเป็นการเลือกเข้าซื้อหุ้นรายตัวที่มีข่าวดีหรือมีปัจจัยบวกเข้ามาหนุน
บล.เคทีซีมิโก คาดหุ้นไทยมีโอกาสบวกต่อได้ แต่ยังต้องดูทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นหลัก แนะกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น แนะเก็งกำไรสั้นในหุ้นขนาดกลาง-เล็ก พร้อมกับประเมินแนวรับ 1,274 จุด แนวต้าน 1,300 จุด แนวต้านถัดไป 1,313 จุด
ปิดท้ายมีข่าว “เกศรา มัญชุศรี” ผู้จัดการตลาดหุ้นมองแนวโน้มหุ้นไทยปีนี้น่าจะผันผวนน้อยกว่าปีก่อน มองการลงทุนระยะยาวยังน่าลงทุน หลังบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) ยังมีสภาพคล่อง และมีการขยายธุรกิจโดยเข้าซื้อกิจการต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างประเทศ ที่เข้ามากระทบการลงทุน ขณะที่มองว่าค่าเงินบาทปีนี้น่าจะผันผวนอ่อนค่าน้อยลงกว่าปีก่อน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย ส่วนปัญหาสถาบันการเงินในยุโรป กรณีปัญหาฐานะของธนาคารดอยซ์แบงก์ (Deutsche Bank) ที่อาจไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ด้อยสิทธิได้ น่าจะกระทบต่อค่าเงินยูโร ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินยูโร
ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังคงเป็นผลประกอบการรวมงวดปี 58 ของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยออกมาในช่วงนี้ โดยหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ออกมาถือว่า ไม่เลวร้าย ส่วนหุ้นกลุ่มน้ำมันไม่ค่อยดีนัก จากการขาดทุนสต๊อกน้ำมันที่ราคาลดลง อย่างไรก็ตาม แนะนำนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนช่วงนี้ ต้องเน้นลงทุนระยะยาว โดยเน้นหุ้นปันผลเป็นหลัก
ด้าน “สันติ กีระนันทน์” รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เผยว่า มาร์เก็ตแคปของตลาดหุ้นไทยปัจจุบันอยู่ที่ 94% ของจีดีพี หรือมีมูลค่า 13 ล้านล้านบาท โดยมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่ 4.4 หมื่นล้านบาท/ขณะที่ปี 60 คาดมาร์เก็ตแคปจะแตะ 120% ของจีดีพีได้ ภายใต้การเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้น มองเสถียรภาพการเมืองในประเทศ หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นจริงปีหน้า จะช่วยหนุนให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามามากขึ้น!!
อินเด็กซ์ 51