ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160216/222548.html
การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559
‘ประวิตร’ เผยรอ ‘นายกฯ’ กลับมาดูปมตั้ง ‘สังฆราช’ เชื่อเหตุพระเผชิญหน้าทหารเป็นความเข้าใจผิด มั่นใจทุกอย่างลงเอยด้วยดี ขอ ‘กำนัน-ผญบ.’ ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งต้านรธน.
16 ก.พ.59 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม ครม.แทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐ สมัยพิเศษ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 14-18 ก.พ. โดยก่อนการประชุม ครม. นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม นำคณะเยาวชนมารณรงค์สืบสานวิถีพุทธในวันมาฆบูชา เชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรมมาฆบูชา ระหว่างวันที่ 16-22 ก.พ.นี้ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม.ถึงกรณีที่เครือข่ายคณะสงฆ์และองค์กรภาคีพุทธบริษัท 4 ทั่วประเทศ นำโดยพระเมธีธรรมาจารย์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ในฐานะเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่าเพื่อสกัดกลุ่มบุคคลที่ออกมาจาบจ้วงคณะสงฆ์อย่างต่อเนื่องและนำไปสู่แผนล้มล้างโครงสร้างการปกครองคณะสงฆ์ว่า ต้องรอให้นายกรัฐมนตรีกลับจากภารกิจจากต่างประเทศก่อน แต่เท่าที่ได้หารือทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนข้อเรียกร้องทั้ง 5 ข้อต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เว้นข้อ 5 คือ ขอให้บรรจุพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญ เนื่องจากต้องให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) เป็นผู้พิจารณา รัฐบาลไม่เกี่ยว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดรัฐบาลจึงปล่อยให้การปะทะกันระหว่างพระสงฆ์กับทหารเกิดขึ้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เราได้ชี้แจงกับฝ่ายพระสงฆ์แล้ว พระท่านต้องรู้ว่าพระท่านควรต้องทำอย่างไร ตนคงไม่ต้องไปบอกเพราะท่านได้บวชเรียนมาแล้ว จะไปพูดมากก็เท่านั้น พระต้องรู้ว่าท่านบวชมาทำไม
เมื่อถามย้ำว่า ทางตัวแทนฝ่ายพระสงฆ์รับปากหรือไม่ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวขึ้นมาอีก รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ความจริงเรื่องนี้เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร และมหาเถรสมาคมต้องรู้ว่าอะไรยังเป็นความขัดแย้งกันอยู่ก็ต้องพิจารณากันไป ส่วนนายกรัฐมนตรีก็ต้องดูภาพรวมทั้งหมด “ไม่ใช่ว่าอยากโปรดเกล้าฯ ก็โปรดเกล้าฯกันเลย ก็ต้องดูให้ถี่ถ้วนก่อน ทุกอย่างมีกฎเกณฑ์ มีระเบียบอยู่แล้ว ที่มหาเถรสมาคม (มส.) เสนอมติมา รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีก็ต้องพิจารณา ก่อนที่จะนำความขึ้นกราบบังคมทูล หากยังมีความขัดแย้งใครก็คงไม่กล้านำความขึ้นกราบบังคมทูล ทุกอย่างต้องสงบ หากสงบแล้วทุกอย่างก็จะเดินไปตามกติกา หากมัวแต่ทะเลาะกันทุกอย่างก็ไม่เดินตามกติกา”
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่รัฐบาลรับข้อเสนอฝ่ายพระสงฆ์เป็นนัยยะบอกว่าจะรีบจัดการตามข้อเสนอดังกล่าว โดยเฉพาะให้รีบแต่งตั้งสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวปฏิเสธว่า “ไม่ๆ ไม่ได้ผูกมัดอะไร เรื่องนี้ต้องปล่อยให้นายกรัฐมนตรีใช้วิจารณญาณของท่านพิจารณา ไม่ต้องเจรจากับใครเพราะเดี๋ยวทันก็จบ ขอให้ทุกคนใจเย็นไม่ต้องห่วง ไม่เป็นไร เดี๋ยวรัฐบาลค่อยๆทำ สื่อไม่ต้องชี้นำหรือแนะมากนัก”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายความมั่นคงจะมีการปรับวิธีการทำความเข้าใจกับพระสงฆ์หลังเกิดเหตุปะทะกับฝ่ายเจ้าหน้าที่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เกิดขึ้นครั้งเดียวจะไปปรับทำไม จะให้ปรับกับพระมีที่ไหน ตนได้คุยกับฝ่ายพระสงฆ์ก็เรียบร้อยแล้ว เพราะพระสงฆ์เองก็ตั้งใจจะไปสวดมนต์ที่พุทธมณฑล ไม่ได้ตั้งใจจะไปชุมนุม ส่วนทหารเองก็ไม่มีอะไรที่ไม่เข้าใจ ทหารต้องการอย่างเดียวคือเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ส่วนที่เกิดความเข้าใจผิดเพราะทหารต้องการให้เข้าที่ประตูทางเดียว เพื่อป้องกันเหตุระเบิด ซึ่งพระท่านอาจไม่พกระเบิดแต่คนอื่นเราไม่รู้
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลกลัวหรือไม่ว่าจะมีสีเสื้อเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย พล.อ.ประวิตร กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มี ไม่เกี่ยว เท่าที่ฟังพระท่านก็อธิบายเราก็เข้าใจเพียงแต่อยากจะให้นายกรัฐมนตรีนำความขึ้นกราบบังคมทูลเร็วขึ้น นายกรัฐมนตรีก็พิจารณาอยู่ เรื่องของลูกกลม ๆ มองได้หลายแบบ นายกรัฐมนตรีต้องดูให้ครบทุกด้าน เพราะถ้าดูไม่ครบหากผิดพลาดก็แก้ตัวไม่ได้แล้ว เรื่องนี้ตัดสินใจได้ครั้งเดียว
เมื่อถามย้ำว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องของพระราชอำนาจ พล.อ.ประวิตร กล่าวยอมรับว่าใช่ เราต้องทำตามกติกา สุดท้ายก็เป็นพระราชอำนาจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายพระสงฆ์โดยพระเมธีธรรมาจารย์ ระบุว่าหากรัฐบาลไม่ทำตามเรียกร้องจะกลับมาเคลื่อนไหวชุมนุมอีกครั้ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “เท่าที่หารือไม่ได้ยิน ไม่มีข้อเรียกร้องนี้ พระท่านไม่ได้พูด ทุกอย่างต้องรอให้นายกรัฐมนตรีกลับมาก่อน ทุกอย่างต้องทำตามขั้นตอน”
เมื่อถามว่า มั่นใจว่าทุกอย่างจะลงเอยด้วยดีใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ดี จะไม่ดีได้อย่างไร ดีทั้งหมดนั่นแหละ โดยส่วนตัวไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไรเพราะตนมีสื่อเป็นพรรคพวกอยู่
‘พล.อ.ประวิตร’ ขอกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านใจเย็นๆ อย่าเพิ่งต้านรธน.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้านกว่า 300 คน เดินทางมายื่นหนังสือถึงประธานสภานิติบัญญัติแห่ชาติ (สนช.) และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญฯ(กรธ.) ในวันที่ 17 ก.พ.นี้ เพื่อขอให้ทบทวนร่างรัฐธรรมนูญในหมวดการปกครองท้องถิ่นว่า เรายังไม่ทำอะไร ร่างรัฐธรรมนูญก็ยังไม่สมบูรณ์ เราก็ต้องดูกันอย่างละเอียดอยู่แล้ว ขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านใจเย็น ๆ ตนเข้าใจในความหวังดีของทุกฝ่ายแต่เป็นเรื่องของกติกาบ้านเมือง ทุกอย่างจะเอาตามใจตัวเองไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีไปปฏิบัติภารกิจต่างประเทศ เกิดความวุ่นวายขึ้นหลายประเด็น มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษ ผมก็อยู่ตรงนี้ นายกรัฐมนตรีท่านก็ต้องไปทำงาน ทำไมผมอยู่ตรงนี้ทำงานให้ไม่ได้หรือ นายกรัฐมนตรีได้ห่วงอะไร ห่วงอย่างเดียวจะทำให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้า และห่วงว่าได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง ทำไปแล้วเข้าไปถึงประชาชนจริงหรือไม่เพราะนายกรัฐมนตรีทุ่มเททำงานทั้งหมด เกิดความแข็งแกร่งทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ สังคมและทุกๆเรื่องมากขึ้นหรือไม่ จะให้มาห่วงเรื่องเล็กๆน้อยๆตามสื่อมวลชนก็ตายห่ากันพอดี ไม่ต้องทำงานกันแล้ว เรื่องของระบบยุติธรรม ทางนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ก็กำลังแก้กันอยู่ ที่จะทำอย่างไรให้มีการปฏิรูปเรื่องของกฎหมายและการออกกฎหมาย สามารถใช้ประโยชน์ได้จริง”
‘พล.อ.ประวิตร’ ชี้ทุกสายการบินต้องยึดหลักสากล
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาการประท้วงของนักบินจากสายการบินนกแอร์ ว่า เรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว เพราะทางสายการบินนกแอร์เองก็ได้ปลดพนักงานที่มีปัญหาแล้ว ทุกสายการบินต้องยึดหลักกฎการบินพลเรือน ทางนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม ได้เรียกทุกสายการบินมาหารือทำความเข้าใจกันแล้ว
เมื่อถามย้ำว่า คณะกรรมการการบินพลเรือนจะต้องมีบทบาทลงไปตรวจสอบสายการบินต้นทุนต่ำหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เขามีการตรวจสอบอยู่แล้วเพราะเป็นผู้ออกใบอนุญาต ส่วนนักบินบางกลุ่มที่ยังไม่ยอมรับกติกานั้นทำไม่ได้ จะไม่ยอมรับไม่ได้เพราะเป็นกติกาสากล
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องมีการหารือหรือไม่ว่าหากเกิดเหตุอะไรต้องมีการแจ้งให้ผู้โดยสารทราบก่อน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่รู้ว่าเขาจะรู้หรือเหล่าเรื่องนี้ เพราะตัวดีดี พวกซีอีโอก็ไปอยู่ที่อื่น พอมาก็มาช้า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญต้องตรวจสอบให้ดี ทั้งหน่วยงานของรัฐและเอกชน โดยเฉพาะสิ่งที่ทำให้เกิดผลกระทบกับประชาชน ขอร้องว่าอย่าทำเพราะเกิดความเสียหายต่อส่วนรวม
