ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/detail/20160220/222772.html
การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2559
เปิดความคิดเห็น – ข้อเสนอประเด็นร้อน ปรับร่างรัฐธรรมนูญของ กรธ. : โดย…สำนักข่าวเนชั่น โอฬาร เลิศรัตนดำรงกุล , จักรวาล สาเหล่ทู่ , ขนิษฐา เทพจร
ตามกำหนดของ “คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)” ที่ถูกกำกับโดยรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ให้รับฟังความคิดเห็นของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และประชาชน ระหว่างการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่จะนำไปออกเสียงประชามติ นั้น ล่าสุดข้อเสนอขององค์กร รวมถึงภาคประชาชนส่งถึงมือ กรธ.แล้ว โดยทีมข่าวสำนักข่าวเนชั่น สรุปรายละเอียดของประเด็นร้อนมานำเสนอดังนี้
1.เรื่องที่เกี่ยวกับสิทธิ เสรีภาพ และบทบาทของภาคประชาชน รวมถึงการกระจายอำนาจ
ข้อเสนอเครือข่ายประชาชน มีรายละเอียด อาทิ
-เพิ่มหลักประกันในการคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพของประชาชนในกระบวนการยุติธรรม เพื่อสร้างมาตรฐานการตีความ และพิพากษา โดยให้นำเนื้อหาสำคัญของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 27 และ มาตรา 28 ว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญรับรอง มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล และองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ทั้งการตรากฎหมายและบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงบุคคลที่ถูกละเมิดสิทธิสามารถใช้สิทธิทางศาลหรือยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้คดีในศาล
– เพิ่มบทบัญญัติในหมวดสิทธิ เสรีภาพของปวงชนชาวไทย ต่อประเด็นการมีส่วนร่วมของชุมชนในการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพก่อนการตัดสินใจดำเนินการใดๆ ที่มีผลกระทบกับประชาชน, ให้มีองค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ เพื่อเป็นกลไกถ่วงดุลการตัดสินใจของรัฐ
– ปรับปรุง มาตรา 25 ว่าด้วยการจำกัดสิทธิและเสรีภาพในกรณีที่มีผลกระทบกระเทือนหรือเป็นอันตรายต่อความมั่นคง เนื่องจากขาดคำนิยามที่ชัดเจนและอาจส่งผลกระทบต่อการใช้สิทธิเสรีภาพของประชาชนได้ และควรใช้หลักการในรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ที่กำหนดห้ามใช้เสรีภาพที่ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญแทน
– ปรับปรุงมาตรา 51 ในหน้าที่ของรัฐที่ต้องดำเนินการให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุข โดยเพิ่มการเยียวยาจากความเสียหายจากการบริการสาธารณสุขด้วย
– ปรับปรุงมาตรา 57 ในหน้าที่ของรัฐ ให้มีองค์การเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคที่เป็นอิสระ เพื่อให้ความเห็นต่อการทำงานของรัฐ ในการกำหนดมาตรการ กฎหมาย และกฎเพื่อคุ้มครองผู้โภค รวมถึงตรวจสอบ
– ตัดมาตรา 60 ของร่างรัฐธรรมนูญฉบับ กรธ. หมวดนโยบายแห่งรัฐ ถ้อยคำที่ห้ามใช้สิทธิฟ้องร้องรัฐ ในแนวทางการทำงาน และกำหนดนโยบายบริหารราชการแผ่นดินของรัฐ
ข้อเสนอของ ครม. มีรายละเอียด ดังนี้
– ปรับปรุงมาตรา 47 ให้สนับสนุนและส่งเสริมประชาชนในการมีส่วนร่วมอนุรักษ์ วัฒนธรรม ภูมิปัญญาและทรัพยากรธรรมชาติ
– ปรับปรุง มาตรา 50 ให้รัฐจัดการศึกษาให้ไม่น้อยกว่า 12 ปี และเขียนความหมายของคำว่า “ไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่าย” ให้ชัดเจน ว่าหมายถึงค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข้อเสนอของ กมธ.ขับเคลือนกรปฏิรูปด้านการเมือง มีรายละเอียด อาทิ
– ปรับปรุงมาตรา 50 ให้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเรียนรู้ด้านพลเมือง ศีลธรรม ความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง และให้รัฐส่งเสริมให้สถานศึกษาและองค์กรของรัฐและเอกชนให้การศึกษาทางการเมืองและระบอบประชาธิปไตยแก่ประชาชน
2.โครงสร้าง และสถาบันทางการเมือง รวมถึงการบริหารราชการแผ่นดิน
ข้อเสนอของเครือข่ายประชาชน มีรายละเอียด อาทิ
– ที่มาของ ส.ว. โดยขอให้มี ส.ว. ไม่เกิน 200 คน มาจากการเลือกตั้งทางอ้อม จากบุคคลดังต่อไปนี้ 1.ผู้แทนองค์กรวิชาชีพหรืออาชีพที่มีกฎหมายจัดตั้งซึ่งเลือกกันเอง ไม่เกิน 10 คน, 2.การเลือกกันเองจากองค์กรด้านเกษตรกรรม ด้านแรงงาน ด้านวิชาการ ด้านชุมชนและท้องถิ่น และองค์การด้านอื่น ด้านละไม่เกิน 10 คน และ 3.ผู้ทรงคุณวุฒิและคุณธรรมในด้านต่างๆ ตาม ข้อ 2 ด้านละไม่เกิน 10 คน
– ปรับปรุงมาตรา 139 ว่าด้วยการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ส่วนที่กำหนดให้เจ้าหน้าที่รัฐต้องร่วมรับผิดชดใช้เงิน หากอนุมัติการแปรญัตติงบประมาณให้แก่ ส.ส. ส.ว.หรือกรรมาธิการ เนื่องจากกังวลว่าจะกระทบต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและทำให้การพัฒนาประเทศเกิดการชะงักงัน ทั้งนี้ควรบัญญัติถ้อยคำใหม่เพื่อให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้ด้วยความเต็มใจมากกว่าการนิ่งเฉยด้วยเหตุกลัวทำผิดหรือขัดกับรัฐธรรมนูญ
ข้อเสนอของ สนช. มีรายละเอียด อาทิ
– ที่มาของ ส.ส. เสนอให้ใช้ระบบเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสม, ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ขณะที่จำนวน ส.ส. นั้นมีส่วนที่เห็นด้วยกับจำนวนที่ กรธ. เสนอ แต่มีบางส่วนที่ต้องการให้ปรับสัดส่วน คือ จำนวน 500 แบ่งเป็น ส.ส.เขต 300 คนและบัญชีรายชื่อ 200 คน และใช้การแบ่งเขตเลือกตั้งแบบเขตใหญ่เรียงเบอร์
– ที่มาของ ส.ว. 200 คน มีหลายข้อเสนอ อาทิ ใช้รูปแบบการเลือกตั้งจากจังหวัดละ 1 คนและสรรหา, สรรหาจากกรรมการสรรหาทั้งหมด, และมีข้อเสนอที่เห็นด้วยกับ ส.ว.รูปแบบที่มาจากการเลือกกันเอง
ข้อเสนอของ กมธ.การเมือง สปท. มีรายละเอียดสำคัญ อาทิ
– ที่มา ส.ส. ให้มีจำนวน 400 คน เฉพาะ ส.ส.แบบแบ่งเขต เพื่อตัดปัญหาระบบทุนครอบงำพรรคการเมืองผ่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ
– ที่มา ส.ว. ให้มีจำนวน 250 คน มาจากการสรรหาทั้งหมด ขณะที่อำนาจหน้าที่มีเพียงกลั่นกรองกฎหมายเท่านั้น ไม่มีอำนาจแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระหรือถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
– ที่มาของนายกฯ ต้องเป็น ส.ส. และโหวตเลือกในสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่ง ขณะที่ผู้ที่เสนอชื่อให้เป็นนายกฯ ที่ไม่เป็น ส.ส ต้องได้รับเสียงเห็นชอบข้างมากเด็ดขาด ไม่น้อยกว่า 3 ใน 5

3.องค์กรอิสระ และกระบวนการตรวจสอบ
ข้อเสนอของเครือข่ายประชาชน มีรายละเอียดสำคัญ อาทิ
– ปรับปรุงมาตรา 55 ว่าด้วยการเปิดเผยข้อมูลราชการ โดยเพิ่มเติมประเด็นสิทธิของประชาชนเรื่องการร้องขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ
– ปรับปรุงมาตรา 120 ว่าด้วยเอกสิทธิ์คุ้มครอง ส.ส. และส.ว.ระหว่างสมัยประชุม โดยต้องกำหนดไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ส.ส. และส.ว. ที่ทำผิดคดีทุจริต
ข้อเสนอครม. มีรายละเอียด อาทิ
– ปรับปรุงมาตรา 190 ให้เพิ่มขั้นศาล เป็น 2 ศาล ในการต่อสู้คดีของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ต้องคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หากมีประเด็นใหม่ในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
4.ศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรแก้วิกฤติการเมือง
ข้อเสนอของ สนช. มีรายละเอียด อาทิ
– เสนอให้มีกลไกแก้วิกฤติประเทศ โดยรูปแบบคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศ หรือให้องค์กร เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ทำหน้าที่ ทั้งนี้ควรออกกฎหมายกำกับ
ข้อเสนอของ กมธ.การเมือง สปท. มีรายละเอียด อาทิ
– ต้องกำหนดกลไกและระบบเพื่อทำหน้าที่แก้ปัญหาวิกฤติของประเทศ เฉพาะไม่มีนายกฯ หรือนายกฯ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ และไม่มีสภา ต้องให้วุฒิสภารับผิดชอบในการเสนอแนวทางแก้ปัญหาประเทศ
– ปรับปรุงที่มาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ให้มาจากผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากผู้แทนภาคประชาชนที่ได้รับการยอมรับในประวัติและประสบการณ์
ข้อเสนอ ครม. มีรายละเอียด อาทิ
– ให้นำศาลรัฐธรรมนูญกลับไปอยู่รวมกับหมวดศาล และให้ปรับอายุของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญให้เป็น 70 ปี
5.การปฏิรูปและข้อเสนอว่าด้วยการปรองดอง
ข้อเสนอของเครือข่ายประชาชน มีรายละเอียด อาทิ
– เสนอให้รับรองเสรีภาพผู้ใช้แรงงานในการสมาคม การรวมตัวกันและการเจรจาต่อรอง ให้สอดคล้องกับมาตรฐานระหว่างประเทศ รวมถึงสนับสนุนจัดตั้งธนาคารแรงงานเพื่อเป็นกองทุนการเงินสำหรับผู้ใช้แรงงาน
ข้อเสนอของ สปท. มีรายละเอียด อาทิ
– ปฏิรูปพรรคการเมืองให้เป็นของประชาชนและเลือกตั้งที่สุจริต, การบริหารราชการแผ่นดินต้องจัดโครงสร้างให้มีธรรมาภิบาล และพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง, จัดรูปแบบปกครองท้องถิ่นที่เหมาะสมกับพื้นที่ทั้งรูปแบบทั่วไปและรูปแบบพิเศษ และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารงานท้องถิ่น ด้านกิจการพระพุทธศาสนาเสนอให้ปฏิรูปศึกษาสงฆ์ให้เป็นไปตามหลักพุทธธรรมและมาตรฐานการศึกษาชาติ โดยให้ตรากฎหมายการศึกษาพระปริยัติธรรม
ข้อเสนอ ครม. มีรายละเอียด อาทิ
– ให้มีหมวดปฏิรูปเป็นเฉพาะ และกำหนดองค์กรที่ดำเนินงาน
– การปฏิรูปตำรวจให้เพิ่มเรื่องระบบสวัสดิการ หน้าที่และ การบริหารงานบุคคลเป็นแบบกว้างอย่าเจาะจงรายละเอียดเพราะอาจเกิดปัญหาในการปฏิบัติ
– ให้มีกลไกแก้ไขความขัดแย้งหลังมีรัฐธรรมนูญใหม่ประกาศใช้ โดยช่วงระยะเปลี่ยนผ่านเสนอให้เว้นหลักเกณฑ์บางอย่างในร่างรัฐธรรมนูญเพราะความจำเป็นบางอย่าง เพื่อให้การเข้าสู่การปกครองตามระบบประชาธิปไตยสากล
———————-
(เปิดความคิดเห็น – ข้อเสนอประเด็นร้อน ปรับร่างรัฐธรรมนูญของ กรธ. : โดย…สำนักข่าวเนชั่น โอฬาร เลิศรัตนดำรงกุล , จักรวาล สาเหล่ทู่ , ขนิษฐา เทพจร)
