การเมืองกระเพื่อม ‘ทักษิณ’ ขยับ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

http://www.komchadluek.net/detail/20160228/223247.html

การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2559
การเมืองกระเพื่อม 'ทักษิณ' ขยับ

คม วิเคราะห์ การเมืองรอบสัปดาห์ : การเมืองกระเพื่อม ‘ทักษิณ’ ขยับ : โดย…อรรถยุทธ บุตรศรีภูมิ

                      ย่างก้าวการขยับของการเมืองในขณะนี้ เรียกได้ว่า คึกคักและเปี่ยมด้วยนัยอย่างยิ่ง จนต้องลุ้นว่า บ้านเมืองเราจะเดินไปในทางไหนต่อไป เพราะการออกมาเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ ชินวัตร” และเครือข่ายนั้น สร้างแรงกระเพื่อมได้ไม่น้อยทีเดียว
                      “ทักษิณ” เดินหน้าให้สัมภาษณ์สื่อระดับโลกอย่าง วอลล์สตรีท เจอร์นัล, ไฟแนนเชียล ไทม์ส, รอยเตอร์ส และอัลจาซีรา แบบติดๆ กัน จึงเชื่อได้ว่า การขยับครั้งนี้มีการเซตจังหวะจะโคนอย่างมีวาระ  มิใช่การให้สัมภาษณ์เพราะมีการติดต่อมาเท่านั้น
                      อีกทั้งเนื้อหาที่ให้สัมภาษณ์ก็มีความสอดคล้องและเป็นการโจมตีการทำงานของผู้ถืออำนาจในปัจจุบันอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ เรื่องเศรษฐกิจ และยื่นข้อเสนอที่ผู้ติดตามต้องรับฟังอย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งก็คือ การขอ “เจรจา”
                      ภายหลังการขยับของ “ทักษิณ” แน่นอนว่ากลุ่มการเมืองของเขาอย่างพรรคเพื่อไทยก็ออกมารับลูกกันอย่างต่อเนื่อง
                      แต่ที่น่าสนใจคือ การเปิดตัวของ “พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ” ที่ออกมาแจกจดหมายเปิดผนึกและท่าทีที่ค่อนข้างรุนแรงต่อ คสช. เช่น การระบุว่าการทำงานของ คสช.เสี่ยงต่อการที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรง และเรียกร้องให้คืนอำนาจแก่ประชาชนโดยเร็ว
                      ท่าทีอันสอดคล้องนี้ ทำให้คนสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้น จู่ๆ ทำไมการเมืองจึงขยับ หลังจากนิ่งมานาน
                      แน่นอนว่า เรื่องเจรจาถูกหยิบมาเป็นประเด็นใหญ่ เพราะชัดเจนว่า “ทักษิณ” เองนั้น ถูกมองอยู่ในสถานะคู่ขัดแย้งอย่างชัดเจน  แต่สิ่งที่ต้องถามคือ เจตนาของเขา ณ นาทีนี้คือการเจรจาจริงหรือ ที่ถามเช่นนี้เพราะยังสงสัยกันว่า เขาอยู่ในสถานะอะไร และเขายังมีอำนาจต่อรองอะไรอีกหรือไม่
                      การเจรจานั้น อย่างแรกที่ต้องมีคือ ข้อที่จะไปเจรจาตกลงแลกเปลี่ยนกัน  แต่นาทีนี้ “ทักษิณ” กำลังจะตกลงเจรจาแลกเปลี่ยน “อะไร” กับ “ใคร” สิ่งที่เขาต้องการได้คืออะไร  ประชาธิปไตย  รัฐธรรมนูญที่ดี หรือการหยุดคดีที่เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของเขา?
                      เขาจะเอาอะไรไปแลก การหยุดเคลื่อนไหว การเลิกเล่นการเมือง การยอมรับกติกาที่จะมีขึ้นใหม่…หรืออะไรที่มากกว่านั้น?
                      นอกจากนี้ที่คิดจะเจรจาด้วยคือใคร แน่นอนว่า ฟากหนึ่งของขั้วความขัดแย้งมีเขาเป็นตัวยืนหลัก แต่อีกด้านหนึ่งของปลายเชือกที่เขามองเห็นเป็นใครกันแน่ ยิ่งไปกว่านั้น นาทีนี้เขาอาจจะไม่ใช่ผู้ที่มีอำนาจสิทธิขาดในการเจรจาอีกแล้ว เพราะแม้เขาจะเป็นตัวใหญ่ของฟากหนึ่ง แต่เขาก็ไม่ใช่ทั้งหมดของความขัดแย้ง เพราะคนที่อยู่อีกด้านของความขัดแย้งก็มีอยู่อีกมากมายและตัวเขาเองก็กำลังอยู่ในสถานะที่ยากลำบากเช่นกัน เพราะสายตาที่มองมาที่เขาของคนคุ้นเคยเริ่มไม่เป็นมิตรเหมือนที่ผ่านมา
                      มุมหนึ่งเป็นเพราะท่าทีของเขาที่นิ่งเฉยยามทหารเข้ารุกไล่ผู้สนับสนุนประชาธิปไตย และการหยุดนิ่งเป็นเวลานานยิ่งคล้ายกับการปล่อยให้มวลชนต้องต่อสู้ด้วยตนเองโดยที่ไม่มีเขาอยู่ในขบวนมาเป็นเวลานาน รวมถึงในอดีตที่มองข้ามมวลชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยจนเป็นการเปิดประตูสู่รัฐประหาร
                      การเจรจาจึงเป็นเพียงวาทะเรียกแขกให้หันมามองเขาเท่านั้น  แต่เป้าหมายหลักคือ เขาต้องการที่จะกลับเข้าสู่ขบวนการเมืองที่กำลังจะเคลื่อนไหวไปข้างหน้า
                      ทั้งนี้เพราะมีสัญญาณมาจากคนในกลุ่มพวกพ้องว่า นาทีนี้ถึงเวลาที่ “ทักษิณ” จะต้องกลับเข้าสู่เวทีแล้ว เพราะชัดเจนว่า ครั้งหน้า “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” น่าจะลงสนามการเมืองไม่ได้อีก ไม่ว่าจะเป็นจากกติกาที่ถูกขีดเขียนห้ามเอาไว้ หรือจากความต้องการของตัวเธอเอง
                      จังหวะนี้นี่เองที่ คสช.ตกอยู่ในสถานะเพลี่ยงพล้ำ หรือที่เรียกกันว่า อยู่ในขาลงอย่างเห็นได้ชัด จากเรื่องต่างๆ ที่ทำให้คนเกิดความไม่พอใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการละเมิดสิทธิ หรือการบัญญัติกติกาที่ไม่เป็นธรรมอย่างร่างรัฐธรรมนูญ  แต่ที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใดที่ทำให้ทุกเรื่องดูแย่ลงไปกว่าเดิมคือ สภาพเศรษฐกิจที่อยู่ในขาลงอย่างเห็นได้ชัดจนชาวบ้านร้านตลาดรู้สึกได้เอง
                      มีคำกล่าวว่า ความรู้สึกใดๆ จะไม่ถูกรู้สึกหากปากท้องยังอิ่ม เศรษฐกิจยังดี แต่เรื่องเพียงเล็กน้อยก็พร้อมจะลุกลามหากเศรษฐกิจย่ำแย่ ข้าวยากหมากแพง เงินทองที่มีเริ่มไม่เพียงพอ
                      ดังนั้นจึงไม่มีจังหวะไหนที่จะเหมาะสมไปกว่านี้ในการเปิดตัว โดยการใช้จุดเด่นของตัวเองเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจมาเป็นตัวกดดันผู้อยู่ในอำนาจ
                      นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่สามารถปฏิเสธได้คือ ไม่ว่าอย่างไรพวกเขายังมั่นใจว่า ถ้าเลือกตั้ง ต่อให้ภายใต้เงื่อนไขแบบไหน หรือกติกาแบบใด ก็ยังจะชนะเลือกตั้ง ซึ่ง คสช.เองก็คงเชื่อแบบนั้น ดังนั้นกติกาที่ออกมาจึงไม่ใช่การทำให้กลุ่มที่ใกล้ชิดกับเขาพ่ายแพ้ หากแต่อยู่ที่ “ชนะแล้วจะมีค่าอะไร?”
                      กลไกที่ออกแบบมานั้น เน้นทำให้พรรคอ่อนแอลง และเมื่อได้รับเลือกตั้ง รัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งแม้จะมีอำนาจ แต่ก็ไม่สามารถใช้อำนาจได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบที่ออกแบบมามีการควบคุมรัฐบาลอย่างใกล้ชิด ชนิดที่เรียกได้ว่า กระดิกอะไรแทบไม่ได้
                      ที่สำคัญ ยังจะมี “กลไกระยะเปลี่ยนผ่าน” เพื่อการันตีว่า ไม่ว่าอย่างไรจะมี “เจตนารมน์” ของ คสช.ฝังอยู่ในบ้านเมืองต่อไปอย่างน้อยก็ 5 ปี ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบที่แข็งกร้าว หรือแบบที่แนบเนียนก็ตาม   คณะกรรมการตามร่าง พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ชาติเองก็ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในกลไกนี้ และนี่คือสิ่งที่พวกเขาหวาดกลัวยิ่งกว่าการออกแบบให้เลือกตั้งยากเสียอีก
                      ดังนั้นการออกมาในช่วงเวลานี้ จึงเป็นการประกาศเดินหน้าชนกับร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งแน่นอนว่าองคาพยพของพวกเขาก็พร้อมที่จะขับเคลื่อนไปพร้อมๆ กัน แม้หลายคนจะไม่เห็นด้วยกับ “ทักษิณ” ในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อเป้าหมายในประการนี้ตรงกัน ก็น่าที่จะเคลื่อนไหวไปในทางเดียวกันคือคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อไม่ให้เกิดกติกาเช่นว่า
                      อีกสัญญาณหนึ่งทีี่ “ทักษิณ” น่าจะได้รับจนถึงขนาดต้องกลับเข้าสู่การเมืองคือ “สัญญาณ” เลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้นในไม่ช้าจากพรรคการเมืองขนาดเล็กและขนาดกลางที่ขยับอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เชื่อได้ว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ อีกทั้งคำพูดของ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เองก็บอกว่า จะมีการเลือกตั้งตามโรดแม็พ  ทำให้น่าเชื่อว่า ไม่เกินกลางปีหน้าน่าจะมีเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นภายใต้กติกาแบบใด และการล่าช้าหรือนิ่งเฉยไม่ยอมกลับเข้าสู่ขบวนก็อาจทำให้ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
                      ทั้งหมดจึงน่าจะเป็นเหตุและผลให้การเมืองจากนี้ขยับอย่างมีนัยสำคัญ แต่ที่ต้องถามคือ ผู้กุมอำนาจปัจจุบันจะยอมให้มีการขยับถึงขนาดไหน เพราะคงไม่ยอมให้เจตนารมณ์แห่งการรัฐประหารสูญเปล่าอย่างแน่นอน
———————
(คม วิเคราะห์ การเมืองรอบสัปดาห์ : การเมืองกระเพื่อม ‘ทักษิณ’ ขยับ : โดย…อรรถยุทธ บุตรศรีภูมิ)

Leave a comment